เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 20 ก.ย. 65 เกิดเหตุ คนร้ายใส่ชุดไรเดอร์ ก่อเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์ใช้อาวุธปืนปลอม จี้ชิงเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท จากพนักงานบริษัท pj wood บริเวณถนนราษฎรอุทิศ ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ต่อมา พลตำรวจตรีอิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 หลังเกิดเหตุได้เรียกประชุมด่วน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง, ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมสั่งไล่ล่าตัวไรเดอร์
ความคืบหน้าวันที่ 21 ก.ย. 65 จากการส่งชุดสืบสวนกระจายกำลังลงพื้นที่แกะรอยหาเบาะแสผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ชุดสืบสวนได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อค้นบ้านบุคคลดังกล่าว แต่ยังไม่พบตัว
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตำรวจชุดสืบสวนอีกชุด ได้พบรถมอเตอร์ไซค์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว โดยถูกทิ้งไว้บริเวณป่าอ้อย พื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 3 กิโลเมตร คนร้ายได้นำรถมอเตอร์ไซค์มาจอดทิ้งไว้ในป่าอ้อย ห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้พบผ้าน่วมสีครีมขนาดใหญ่ กระเป๋ากล่องใส่อาหารสีดำ และเศษอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ของคนร้ายร่วงตกอยู่
ซึ่งตำรวจมีข้อมูลว่าหลังจากทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ซุกในป่าอ้อยแล้ว มีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย ขับรถกระบะวีโก้เข้ามารับตัวคนร้ายหลบหนีไป ตำรวจเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 4 ราย ได้แก่ บุคคลให้ข้อมูลเพื่อชี้เป้า บุคคลวางแผน บุคคลก่อเหตุ และคนขับรถกระบะพาหลบหนี
ขณะที่พันตำรวจเอกทวี กุดแถลง ผู้กำกับ สภ.บ้านบึง ให้ข้อมูลว่า ตำรวจได้ออกหมายจับ นายจตุพล หรือ เอ็ม บุญมีสนม อายุ 27 ปี ไรเดอร์ที่ก่อเหตุแล้ว ในข้อหาชิงทรัพย์ พบว่าเป็นน้องชายของ น.ส.ประภาพร บุญมีสนม พนักงานหญิงที่เป็นผู้เบิกเงินจากธนาคาร
ล่าสุด ศาลจังหวัดชลบุรี อนุมัติหมายจับ 2 ผู้ก่อเหตุคือ นายนายจตุพล บุญมีสนม หรือ เอ็ม ไรเดอร์ที่ก่อเหตุ อายุ 27 ปี และ น.ส.ประภาพร บุญมีสนม เสมียน ซึ่งเป็นพี่สาวของนายจตุพลแล้ว แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์
กล้องวงจรปิด เวลา 11.35 น. เห็นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายขี่หลบหนี ตามเส้นทางมุ่งหน้าป่าอ้อย ผ่านหน้าร้านค้า ขี่มุ่งหน้าไปตามถนนอย่างรวดเร็ว ผ่านร้านค้าอีกจุดเวลาประมาณ 11.56 น.
ต่อมาเวลา 11.57 น. จากภาพวงจรปิดหน้าร้านขายต้นไม้ ริมถนนเซิดน้อย-มาบไผ่ ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถจับภาพผู้ก่อเหตุ สวมชุดไรเดอร์ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านอย่างรวดเร็ว โดยบิดคันเร่งเต็มที่ เพื่อมุ่งหน้าไปที่ป่าอ้อย จุดที่ตำรวจพบรถจักรยานยนต์ของกลางทิ้งไว้ กล้องตัวดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดป่าอ้อยที่เจอรถจักรยานยนต์ ประมาณ 200 เมตร จากภาพเห็นว่าช่วงที่ผู้ก่อเหตุขับผ่านจุดนี้ ผู้ก่อเหตุบางช่วงได้ใช้มือขวาบิดคันเร่งเต็มสูบ ส่วนมือซ้ายกุมกระเป๋าเงินสดที่มีเงินสด 3.4 ล้านไว้แน่น
จากนั้น เห็นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ชะลอความเร็ว ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าเข้าป่าอ้อย อีกมุมของบ้านชาวบ้านจะเห็นคนร้ายขี่ผ่านอีกมุม จากนั้นคาดว่าคนร้ายซุกรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ โทรศัพท์เรียกเพื่อนร่วมขบวนการให้ขับรถกระบะวีโก้สีขาว 4 ประตู มารับหลบหนีไป กระทั่งในเวลาประมาณ 11.59 น. เห็นรถกระบะวีโก้สีขาวของคนร้าย มุ่งหน้ากลับเส้นทางเดิม มีสติกเกอร์การ์ตูนที่แปะด้านท้ายกระบะ
ภาพวงจรปิดหลักฐานใหม่ จังหวะที่พนักงานของอู่ขับรถกระบะไปส่งคนร้าย เห็นหน้าชัด ใส่เสื้อสีม่วง กางเกงขายาว ได้เปิดประตูลงจากรถ ก่อนจะบอกให้วินรถจักรยานยนต์ไปส่ง กล้องวงจรปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 13.20 น. สามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน เวลาประมาณ 13.23 น. ภายในอู่ซ่อมรถที่คนร้ายได้นำรถกระบะอีซูซี สีขาว 4 ประตู มาส่งเพื่อเข้าเคลม จะเห็นว่า คนร้ายได้เดินลงจากรถเพื่อลงไปคุยกับพนักงานรับรถสักพัก ก่อนจะขอให้ไปส่งที่วินรถจักรยานยนต์ใกล้อู่ เพื่อหลบหนีต่อ
ภาพจากกล้องวงจรปิดระหว่างคนร้ายได้ซ้อนท้ายวินรถจักรยานยนต์ เวลาประมาณ 13.30 น. เมื่อถึงหน้าเซ็นทรัลชลบุรี คนร้ายไม่ถามราคาค่าโดยสาร และยืนรอเงินทอนอย่างใจเย็น หลังจากนั้นคนร้ายลงจากรถได้มุ่งหน้าเดินไปที่รถขายไอติมทันที
ทีมข่าวได้ตรวจสอบรถมอเตอร์ไซค์ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ฮอนด้าเวฟ สีม่วง ไม่ติดหมายเลขทะเบียน จากการสังเกตน่าจะมีการวางแผนเป็นมาเป็นอย่างดี เนื่องจากรถมีการพ่นสเปรย์สีเทาทับลงสีของมอเตอร์ไซค์เดิมที่เป็นสีม่วง พบร่องรอยการฉีดสเปรย์อย่างชัดเจน
ตำรวจคาดว่าคนร้ายอาจจะใช้รถที่ได้มาจากการขโมย หรือรถเดิมมาดัดแปลง เพื่อให้ตำรวจตามเจ้าของรถเดิมยากขึ้นให้ในการติดตามจับกุม นอกจากนี้ พบสติกเกอร์แต่งรถมีชื่อ "โก๋นิว จัดว่าเด็ด" ถูกติดอยู่
โดยตั้งแต่เมื่อวานนี้ 20 ก.ย. 65 ตำรวจได้แยกกันสอบ นายกฤษชภัชร์ สุรกุล อายุ 24 ปี เป็นคนขับรถ และ น.ส.ประภาพร บุญมีสนม พนักงานการเงิน ตลอดทั้งวันของวานนี้ และได้ปล่อยตัวกลับบ้านไปในช่วงเวลา 21.00 น. ของคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน นายกฤษชภัชร์ เบื้องต้นไม่พบข้อสงสัย แต่ยังคงติดใจตัวของ น.ส.ประภาพร เนื่องจากพบสัญญาณโทรศัพท์เชื่อมต่อกับผู้ต้องสงสัย คาดว่าน่าจะเป็นน้องชาย
ล่าสุดที่ สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้จัดการฝ่ายการเงิน ผู้จัดการโรงงานเฟอร์นิเจอร์ และพนักงาน 2 คน คือ นายกฤษชภัชร์ คนขับรถ เเละ น.ส.ประภาพร ที่มาร่วมกันเบิกเงินจากธนาคารมาสอบปากคำ โดยไล่สอบอย่างละเอียดเเละเเยกห้องกันสอบ ทีมข่าวสอบถามผู้จัดการโรงงานถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล กล่าวสั้น ๆ ว่า "ให้ไปถามตำรวจ ผมไม่รู้เรื่องอะไร"
Advertisement