บีบใจญาตินักบอลเหยื่อกราดยิง นำผ้าพันคอคล้องโลง เร่งสร้างเชิงตะกอนเผา 11 ศพกลางแจ้ง (คลิป)

วันที่ 8 ต.ค. 65 ตลอดช่วงเช้า ที่วัดศรีอุทัย ต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู ฌาปนสถานชั่วคราว ที่มีการกลางเต็นท์ในการจัดสถานที่สำหรับตั้งบำเพ็ญกุศลศพคืนแรกให้กับผู้วายชนม์ มีการนำร่างผู้เสียชีวิตมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพรวม 11 ราย ซึ่งครอบครัวของนายวีระชน บุญวิเทียน เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ได้มีการขอเคลื่อนย้ายร่างจากวัดหนองกรุงศรี มาร่วมบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีอุทัย เพราะเนื่องจากเป็นวัดใกล้บ้าน จึงทำให้ที่วัดแห่งนี้มีร่างผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นเด็ก 4 ราย และผู้ใหญ่ 7 ราย

ตลอดทั้งวันยังคงมีหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาคเอกชน เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ มอบพวงหรีดให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย อีกทั้งยังมีการมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

ช่วงเวลา 11.30 น. สำนักวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เดินทางมาร่วมจัดเตรียมสถานที่ให้เป็นไปตามแบบแผนของระเบียบการของสำนักพระราชวัง ตามหมายกำหนดการในช่วงเวลา 16.00 น. มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพให้กับผู้วายชนม์จำนวน 11 ราย โดยการจัดเตรียมสถานที่นั้นได้มีการเตรียมฉากกั้นสีเขียว เพื่อที่จะร่วมประกอบพิธีในช่วงเย็น ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตนั้นจะไม่มีการนำออกมาจากโลงเย็น

นอกจากจะมีการบรรเลงเพลงโศกเศร้าภายในงานแล้ว ทางญาติของเด็กที่เสียชีวิตได้ขอให้เจ้าหน้าที่เครื่องเสียง มีการเปิดเพลงเด็ก เพื่อให้ลูก ๆ ที่เสียชีวิตได้ฟัง อาทิ เพลงช้าง เพลงเป็ด และเพลงเรียงความเรื่องแม่

มีพระสงฆ์รวมประมาณ 8-9 รูป เดินทางมาจากวัดป่าหนองแซง อ.หนองวัวซอง จ.อุดรธานี โดยมีการนำผ้าไตรมาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต

พระอธิการสุริยันต์ สุชินโต เจ้าเอาวาสวัดป่าหนองแซง เผยว่า ตั้งจัยเดินทางพาพระลูกวัดที่เป็นคนในพื้นที่ และยังเป็นญาติของผู้เสียชีวิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยพาเดินทางมาร่วมงาน เพื่อที่จะร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมทั้งยังได้มีการนำผ้าไตรเพื่อที่จะมามอบเป็นการร่วมทำบุญในการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับ ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับเด็ก และผู้ใหญ่ในพื้นที่ นับตั้งแต่ที่บวชมานานกว่า 40 พรรษาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ความรุนแรงแบบนี้ เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็ต้องเดินทางมาให้ขวัญและกำลังใจซึ่งกันและกัน

ส่วนตัวหลังจากทราบข่าวว่าเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่นากลาง ต่อเนื่อง 2 คืนที่ผ่านมา ได้พาพระลูกวัดและพระในวัด มีการสวดบังสกุลและอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับในเหตุการณ์นี้ เป็นสิ่งเดียวที่ในมุมของพระจะทำได้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็ไม่สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นได้มาก เพราะเนื่องจากในมุมของพระก็มองว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม สิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากพูดก็อาจจะมีการแสดงความคิดเห็นค่อนข้างลำบาก อยากจะให้กำลังใจครอบครัว ให้มองว่าเป็นกรรมของแต่ละคน

ส่วนบรรยากาศสวดอภิธรรมคืนแรก ที่วัดศรีอุทัย ญาติยังอยู่ในอาการเสียใจ คณะกรรมการวัดเตรียมจัดสร้างเชิงตะกอน พิธีฌาปนกิจศพให้ผู้เสียชีวิต 5 ราย ส่วนอีก 6 ราย ญาติเตรียมกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลเองที่บ้านเกิด หลังครบกำหนด 3 วัน ภายหลังมีพิธีสวดอภิธรรมศพ ในพระบรมราชานุเคราะห์ ตามหมายกำหนดการเสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 17.30 น. ในพื้นที่ศาลาวัดศรีอุทัย ยังมีหน่วยงานต่าง ๆ เดินทางมาให้กำลังใจและมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวอย่างต่อเนื่อง

 

มีเจ้าหน้าที่จาก อบต.อุทัยสวรรค์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัด ตั้งโต๊ะจัดระเบียบ สำหรับผู้ที่จะมอบเงินเยียวยารวมทั้งร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัว เพื่อจัดระเบียบความเรียบร้อย ในการเข้ามอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย

ขณะเดียวกัน ครอบครัวผู้สูญเสียมีการถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก บริเวณหน้าโลงศพพี่มีรูปของผู้วายชนม์ตั้งอยู่ ครอบครัวน้องพัทธนันท์ มีการนำรูปใส่กรอบสีทองมาเปลี่ยนรูปหน้าศพเดิมให้กับน้อง ครอบครัวให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าเป็นภาพความสดใสและความน่ารักของน้อง จึงอยากจดจำภาพนี้เป็นภาพสุดท้าย

ครอบครัวของน้องภัทรวรรธน์ ผู้เป็นพ่อยังคงนั่งเฝ้าอยู่ข้างโลงศพไม่ห่าง จุดธูปต่อเทียนให้กับลูก บางช่วงก็จะมองดูลูกนอนอยู่ในโลงเย็น ผ่านฝาโลงด้านบน ส่วนครอบครัวนายวีระชน เจ้าหน้าที่ อบต.อุทัยสวรรค์ ได้เข้าไปดูรูปตั้งหน้าศพที่วางอยู่หลังโลง บางช่วงญาติที่มาในงานต่างร้องไห้ปาดน้ำตา เพราะยังทำใจไม่ได้ โดยคนตายนั้นเคยเป็นอดีตนักฟุตบอลสโมสรหนองบัวลำภู ทีมหนองไหลไฟฟ้า ซึ่งก็ได้มีการนำผ้าพันคอ และธงสโมสรมาประดับเอาไว้ที่โลงศพด้วย

นอกจากนี้ มีชมรมดอกไม้ปากคลองตลาดกรุงเทพมหานคร นำมาประดับตกแต่งโลงเย็น และรูปตั้งหน้าศพของผู้วายชนม์ เน้นโทษสีขาว-ชมพู ซึ่งเป็นการแสดงความอาลัยต่อผู้จากไป เสมือนผู้ที่เสียชีวิตเป็นผู้บริสุทธิ์

ส่วนกำหนดการฌาปนกิจศพของผู้ที่เสียชีวิตที่นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลภายในวัดศรีอุทัย นายกิ่งศักดิ์ พูลเกษม ผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า ขณะนี้ได้รับประสานงานจากญาติของผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 3 ราย เด็ก 2 ราย จะมีการฌาปนกิจร่วมกันที่วัด แต่ด้วยข้อจำกัดของวัดมีเมรุขนาดเล็กและมี 1 เตาเผา จึงทำให้มีความจำเป็นต้องทำเชิงตะกอนขึ้นมา จะมีการก่ออิฐใช้เชื้อเพลิงเป็นถ่าน จากนั้นจะมีการฌาปนกิจร่วมกันหลังจากเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงศพ แต่ผู้เสียชีวิตจำนวนที่เหลืออีก 6 ราย ญาติมีความประสงค์จะรับกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลต่อ รวมถึงนำไปฌาปนกิจศพที่วัดใกล้บ้าน