จากกรณีคลิปหลุดภายในบ้านหมอปลา ซึ่งปรากฎภาพนายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ฉายาบาส มีดคู่ จากคดีดังเมื่อปี 64 วิวาทกับ “เอกคิคุง” ชายสติไม่ดี ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านหมอปลาด้วยกัน
ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากในวันที่ 19 ต.ค. 65 ที่จะถึงนี้ นายณัฐวุฒิ จะต้องเข้ารับฟังคำตัดสินของศาลชั้นต้น
วันที่ 8 ต.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้ติดต่อและนัดสัมภาษณ์ นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 22 ปี ซึ่งขณะนี้ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยเจ้าตัวบอกว่า ตนขอโทษสำหรับเหตุการณ์ในเกิดขึ้นในคลิป ตนขอโทษสังคม ตนของโทษหมอปลา ตนขอโทษทุกคนที่ให้กำลังใจตน ตนขอโทษให้ที่ทำให้ใครหลายคนผิดหวัง ยอมรับผิดที่ไม่ควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แต่ตนอยากให้ทุกคนแยกแยะเหตุการณ์ในอดีตกับเหตุการณ์ล่าสุดออกจากกัน ซึ่งบางคนที่คอมเมนต์ในโซเชียลฯ ว่าตนไม่ปรับปรุงตัว ก็ค่อนข้างกระทบกระเทือนจิตใจของตน
ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ไม่หวังดีที่ปล่อยคลิป โดยเหตุการณ์ในคลิป เริ่มจาก “เอกคิคุง” ได้ปาชามข้าว ซึ่งมีน้ำแกงใส่ตน ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อน ตนรู้สึกโมโหจึงหยิบพลั่วมาขู่อีกฝ่าย แต่เกิดมีการยื้อแย้งกันเกิดขึ้น ทำให้ตนถูกพลั่วกระแทกบริเวณแขนซ้าย ซึ่งตนดามเหล็กเอาไว้อยู่ จนสุดท้ายเหตุการณ์เกิดบานปลายแต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ตนขอยอมรับผิดเพียงคนเดียว ขอสังคมอย่าตำหนิครอบครัวของตนและหมอปลา โดยเหตุการณ์ในคลิปไม่ได้ทำให้ตนถูกไล่ออกจากบ้านหมอปลา แต่ในเดือน มิ.ย. ตนขอออกมาใช้ชีวิตกับครอบครัวเอง เนื่องจากตนไม่ทราบว่าในวันตัดสิน 19 ต.ค. นี้ ศาลจะตัดสินอย่างไร แล้วตนจะได้ประกันตัวหรือไม่
สุดท้ายตนขอโทษแทนแม่ที่โพสต์เฟซบุ๊กให้เกิดความขัดแย้ง โดยที่แม่ของตนโพสต์แบบนั้นเป็นเพราะความเครียดที่กังวลว่าคลิปจะส่งผลต่อคดี ขณะนี้ตนได้พูดคุยกับแม่แล้ว “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทั้งหมอปลา เสี่ยเปีย ทนาย ทุกคนช่วยเหลือตนเต็มที่แล้ว อย่าว่าครอบครัวหมอปลา อย่าว่าครอบครัวผม หากอยากจะว่าให้ว่าที่ผมด่าที่ผม ผมยินดีรับ”
ด้าน นายสาริต แสงจันทร์ หรือ เสี่ยเปีย นักธุรกิจเจ้าของแบรนด์หมูปิ้งนมสด เพื่อนของหมอปลา ซึ่งเป็นผู้วางทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 240,000 บาท และสลากออมทรัพย์จำนวน 260,000 บาท รวม 500,000 บาท เพื่อประกันตัวของนายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส ในชั้นพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม
นายสาริต บอกว่าตนได้เห็นคลิปที่แชร์กันบนโซเชียลฯ แล้ว ซึ่งตนคิดว่าไม่ได้มีอะไรร้ายแรง เนื่องจากตนทราบเหตุการณ์ตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว ตั้งแต่เดือน เม.ย 65 อีกทั้งยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการท้าทายกันไปมา ซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากเอกคิคุงเป็นคนสติไม่ดี แต่ตนก็เข้าใจบาสว่าถูกท้าทายมาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยกับบาสมาสักพักใหญ่แล้ว เนื่องจากหลังจากที่บาสย้ายออกจากบ้านหมอปลา บาสก็ได้ออกไปรับจ้างทำงานทั่วไป ตนไม่ทราบว่าคลิปหลุดออกไปได้อย่างไร แต่เชื่อว่ามีผู้ไม่หวังดีนำไปกระจายบนโซเชียลฯ
อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากบอกให้บาสใจเย็น ๆ รวมถึงแม่ของบาส ซึ่งตนเข้าใจความรู้สึกของแม่ที่เป็นห่วงลูก เมื่อมีคลิปหลุดออกไป แม่ของบาสจึงมีการโพสต์ในลักษณะที่ไม่ค่อยดีนัก จากนี้ตนอยากให้แม่ของบาสและบาสรอฟังคำตัดสินของศาล ซึ่งตนและทนายความก็จะช่วยเหลือเท่าที่ตนทำได้ต่อไป
Advertisement