จากเหตุการณ์ที่น้องมาวิน อายุ 18 ปี พลัดตกเจ็ตสกีในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี โดยทีมค้นหาพยายามดำน้ำจนทั่ว แต่ยังหาร่างไม่พบ ขณะเดียวกันมีเสียงเล่าลือถึงปริศนาใต้เขื่อน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญของนักดำน้ำ ทำให้ร่างของน้องไม่ลอยขึ้นมา เพราะเจ้าหน้าที่ระบุว่าบริเวณใกล้เคียงที่น้องจมหายนั้น เคยมีคนพลัดตกน้ำและค้นหาไม่เจอร่างมาแล้ว
ล่าสุด หมอบี ระบุผ่านการไลฟ์เฟซบุ๊กกล่าวว่าไม่ควรให้ใครไปรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ค้นหาทางน้ำ และพูดถึงบางเรื่องที่ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก
และกล่าวถึงเรื่องครอบครัวของเด็กบางคนที่เติบโตมาแตกต่างกัน ถามถึงการทำหน้าที่ของคนเป็นแม่ ทำหน้าที่อย่างไรบ้าง เรื่องพฤติกรรมของเด็กที่ทำอะไรได้ด้วยตนเอง ซึ่งถูกตีความว่าน้องมาวินไม่ได้สนิทกันแม่ แต่สนิทกับน้ามากกว่า ควรให้น้ามาทำพิธีหรือไม่
วันที่ 4 พ.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พูดคุยกับนายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ทางน้ำภาค 7 บอกว่า วันนี้ทางทีมงานได้มีการออกสำรวจจุดต้องสงสัย ระยะไม่ห่างไกลจากบริเวณจุดที่น้องมาวินจมน้ำเสียชีวิต อาศัยเครื่องโซนาในการสำรวจสิ่งของใต้น้ำ พร้อมทั้งใช้โดรน จากบริษัทโลแล้นท์ ในการช่วยดำน้ำในที่ลึก
ซึ่งพบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะวัตถุคล้ายกับคน แต่ยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าเป็นอะไร ห่างจากแพประมาณ 200 เมตร ใกล้จุดที้น้องมาวินจมเขื่อน ซึ่งโดรนที่ใช้ดำน้ำในวันนี้ก็ดำน้ำลงไปไม่ถึง เนื่องจากสายไปของโดรนยาวเพียงแค่ 100 เมตร
แต่วัตถุต้องสงสัยดังกล่าวอยู่ลึกลงไป 108 เมตร ซึ่งมีการประสานไปยังเจ้าของบริษัทโดรนในวันพรุ่งนี้ จะนำโดรนตัวที่ใหญ่กว่า สายไฟยาวกว่า เพื่อนำไปพิสูจน์ทราบวัตถุต้องสงสัย
ซึ่งข้อจำกัดในวันนี้เป็นเรื่องของคลื่นน้ำภายในเขื่อน ที่เป็นอุปสรรคในการตั้งทิศทางของรัศมีการค้นหา และความยาวของสายโดรนดำน้ำ ซึ่งถ้าหากในวันพรุ่งนี้พบว่าวัตถุต้องสงสัยเป็นน้องมาวินจริง ก็อาจจะมีการใช้โดรนในการมัดรางเพื่อดึงขึ้นมา คงใช้นักประดาน้ำลงไปไม่ได้เพราะว่าลึกมาก
นอกจากนี้ยังมี "เจ สื่อจิต" เดินทางมาวางโรยดอกบัวที่บริเวณเขื่อน เพื่อนช่วยสื่อจิต พร้อมกับเดินทางไปที่ศาลเพื่อนั่งสมา ธิและสื่อสารขอให้เจอร่างของน้องมาวินโดนเร็ว
หลวงปู่พรหมมาศ อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นพ่อปู่ฤาษี ในพื้นที่ ต.หนองเป็ด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนศรีนครินทร์ บอกว่า "ทำพิธีบวงสรวงทุกอย่างเเล้วใช่ไหม แต่ยังไงก็ไม่ได้ศพแน่นอน เพราะเจ้าที่เจ้าทางไม่อนุญาต" ซึ่งเมื่อ 3-4 ปีก่อน ก็เคยเกิดเคสคนตกน้ำแบบนี้ มีนักประดาน้ำลงไปงม ตนก็ไปทำพิธีให้ ขอแล้วแต่เจ้าที่ก็ไม่ให้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวตายตัวเเทน เขาจะเอาน้องมาวินมาเเทนที่ เพื่อให้ดวงวิญญาณอีกดวงขึ้นไปจุติเเทน ซึ่งจะต้องมีดวงวิญญาณมาเเทนที่ทุกปี
ก่อนหน้านี้มีศพที่จมน้ำแล้วไม่พบร่างมาแล้ว 5 ราย หากน้องมาวินไม่พบร่าง ก็จะเป็นศพที่ 6 จะต้องมีอีก 3 ราย จนกว่าจะครบ 9 คน เพราะเจ้าที่เจ้าทางเข้าจะเอาไปเฝ้าสมบัติที่ถ้ำลั่นทม ซึ่งจากการที่นั่งทางในก็ทราบมาว่าน้องมาวินมีการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย หากพูดในส่วนของอดีตชาติน้องมาวินก็มีเวรกรรมผูกพันกับพื้นที่นี้ ทั้งนี้ พญานาค 9 ตน บอกอีกว่า "ปู่ไม่ต้องยุ่ง ยังไงก็ไม่ให้"
แต่หากมองในมุมวิทยาศาสตร์ พื้นที่ที่น้องมาวินตกลงนั้นค่อนข้างที่จะลึกมาก มีกิ่งไม้ ร่องหิน อีกทั้งยังมีตะกอนทับถมไปเรื่อย ๆทราบมาว่าน้องมาวินไม่สวมเสื้อชูชีพ มีการสะพายกระเป๋าติดตัวก่อนตกน้ำอีกด้วย
น.ส.เกศรา เฟื่องฟู หรือ เก๋ แม่ของผู้สูญหาย กล่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า ปฏิบัติการการค้นหาในวันนี้ยังไม่พบลูกชาย แต่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมีการค้นหาโดยใช้เครื่องโซนา พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่ลูกชายจมน้ำ ก็มีหวังว่าจะใช่น้องมาวิน ลูกชายของตน ในวันนี้สายไฟของโดรนดำน้ำลงไปไม่ถึง ซี่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำได้มีการประสานไปยังบริษัทโลแล้นท์ ที่เป็นเจ้าของผลิตและพัฒนาโดรนใต้น้ำ จะนำโดรนตัวที่ใหญ่กว่า และสายไฟยาวกว่าเข้าสนับสนุนภารกิจในการค้นหาพรุ่งนี้
ส่วนประเด็นเรื่องหมอบี ระบุผ่านการไลฟ์เฟซบุ๊ก กล่าวถึงครอบครัวในเชิงว่าครอบครัวไม่รักน้องมาวินนั้น ยืนยันทุกคนรักมาวิน และประเด็นเรื่องป้าที่เลี้ยงมาวินสนิทกับมาวินมากกว่าแม่นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทุกวันมาวินอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ตายายที่บ้านเป็นคนดูแลมาวินทุกอย่าง และในส่วนของนางสาวนิ่ม ซึ่งไม่ใช่ป้า แต่เป็นน้องสะใภ้ของอามาวิน เปิดอู่ซ่อมรถ ก็เป็นเรื่องปกติที่เด็กวัยรุ่นจะไปเที่ยวเล่นที่นั่น ซึ่งน้านิ่มก็เป็นคนหัวสมัยใหม่ เข้ากับเด็กวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น การที่หมอบีบอกว่าต้องให้น้านิ่ม ผู้มีความสนิทสนมมาเรียกหามาวิน จิตจะได้สื่อถึงกันมากกว่าแม่นั้น ตนอยากจะบอกว่าน้านิ่ม ได้มีการมาจุดธูป มาช่วยตามหามาวินตั้งแต่การค้นหาวันที่ 2 แล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็น่าจะเจอตัวแล้วหรือไม่ ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้ คือช่วยกันค้นหาร่างของน้องมาวิน ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องของคนในครอบครัว ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรดีไปกว่าคนในครอบครัว ยอมรับว่าฟังแล้วรู้สึกเสียกำลังใจอย่างมาก
Advertisement