หมวดฮีโร่เสียแขนจับตายชายคลั่ง เมียแฉเหี้ยมพี้ยา 5 เม็ด 100 ลากสายไฟชอร์ตคอ (คลิป)

วันที่ 15 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 17.00 น. พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.หัวยยาง ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.ปิยะพงศ์ อุ่นศิลป์ สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยยาง เนื่องจากเกิดเหตุ นายธีระวุฒิ ตู้คำ อายุ 35 ปี ชาว ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ คลุ้มคลั่งอาละวาด ทำให้ภรรยาต้องหลบหนีไปอยู่บ้านญาติ

นายธีรวุฒิจึงถืออาวุธมีดปลายแหลมเดินหาภรรยาทั่วหมู่บ้านเฉลี่ยงทอง หมู่ 19 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ จนไปพบว่าภรรยาอยู่ภายในบ้านญาติ จากนั้นบังคับลากภรรยากลับไปที่บ้านที่เกิดเหตุ ด้านญาติและชาวบ้านเกรงว่านายธีรวุฒิจะทำร้ายภรรยา จึงได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือ ร.ต.ต.สันติ น้อยศรี รอง สวป.สภ.ห้วยยาง ได้ติดต่อขอกำลังเสริมจาก สภ.ห้วยยาง ไปสนับสนุน

ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงพบว่านายธีรวุฒิกับภรรยานั่งอยู่ที่แคร่ไม้ข้างบ้านในลักษณะปกติ จึงได้เข้าไปพูดคุย ขอให้เดินทางไปสถานีตำรวจด้วยกัน แต่นายธีรวุฒิได้ดึงตัวภรรยาให้ไปด้วย จนเกิดจากยื้อยุดกันขึ้น ซึ่งไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น

ระหว่างนั้นนายธีรวุฒิได้คว้ามีดแล้วฟันหลังมือและท้องแขนซ้ายของ ร.ต.ต.สันติ จนเส้นเลือดและเส้นเอ็นขาด อีกทั้งยังฟันถูกที่ศีรษะ 2 แผล บาดแผลลึกถึงกะโหลกศีรษะ ร.ต.ต.สันติ จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกายยิงสวนไป 3 นัด มีกระสุนนัดหนึ่งถูกเข้าที่ปากนายธีรวุฒิ ทำให้นายธีรวุฒิได้ล้มลงแน่นิ่งไป และเสียชีวิต

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามแนวทางที่วางไว้ มีการทำสำนวนสอบสวนสำนวนชันสูตรศพ สำนวนที่ผู้ตายทำร้ายและหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสียเสรีภาพของภรรยา สำนวนที่ผู้ตายต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายเจ้าหน้าที่ สำนวนที่ผู้ตายถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต และสอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ด้านภรรยาของผู้ก่อเหตุยืนยันว่าจะไม่เอาเรื่องกับตำรวจ

วันที่ 16 พ.ย. 65 นางสาวบัววรรณ คามกระสม อายุ 36 ปี พี่สาวผูของผู้ตาย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 06.00 น. น้องชายของตนกับภรรยาได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านของตน เนื่องจากน้องชายบ่นว่าคิดถึงครอบครัว โดยน้องชายได้นะเสื้อผ้ามาด้วย แต่ขณะที่น้องชายเปลี่ยนเสื้อผ้าประมาณ 3-4 รอบ พร้อมไล่ภรรยาว่า "จะไปไหนก็ไป" ภรรยาของน้องชายได้ออกไปเดินเล่นอยู่บ้านข้าง ๆ ซึ่งเป็นบ้านญาติ ก่อนจะเดินทางกลับบ้านของตัวเอง เพื่อไปหุงข้าว

แต่เมื่อน้องชายของตนไม่เห็นภรรยา จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่ง คิดว่าทางครอบครัวนำภรรยาของตัวเองไปซ่อน จึงคว้ามีดขอที่อยู่หน้าบ้านขึ้นมาแกว่งไปแกว่งมา พร้อมกับบุกเข้าไปในบ้านของญาติ 3 หลัง รื้อค้นห้องต่าง ๆ เพื่อตามหาภรรยา ทำให้ในเวลาประมาณ 07.00 น. ญาติและชาวบ้านช่วยกันแจ้งตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่ายังไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า จึงไม่เดินทางมายังบ้านของตน สุดท้ายในเวลา 08.00 น. ทางครอบครัวจึงไปรับตัวภรรยาของผู้ตายมาพบ ก่อนทั้งคู่จะกลับบ้านไปด้วยกัน

จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. น้องสะใภ้ของตน คือภรรยาของผู้ตาย ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านของตน พร้อมแจ้งว่าถูกน้องชายของตนที่ตามกลับไปที่บ้านทำร้าย โดยการถีบเข้าที่เบ้าตา หวังจะใช้สายไฟรัดคอให้ตาย จนต้องแกล้งสลบแล้วหนีออกมา ต่อมาน้องชายของตนได้ตามมาที่บ้านของตน น้องสะใภ้ของตนจึงหนีเข้าป่าไป ส่วนตนก็ได้วิ่งหอบลูกน้อยวัย 1 เดือนและลูกชายวัยห้าขวบวิ่งหนีเช่นกัน

ทั้งนี้น้องชายของตนได้ตามภรรยาไปทัน จึงฉุดกระชากพาขึ้นจักรยานยนต์กลับไปบ้านที่เกิดเหตุ ทางครอบครัวจึงช่วยกันแจ้ง ร.ต.ต.สันติ ให้เข้ามาช่วยเหลือ จากนั้น ตนก็ได้รับแจ้งว่าน้องชายถูกวิสามัญเสียชีวิต ตนไม่กล่าวโทษ ร.ต.ต.สันติ เนื่องจากน้องชายของตนเป็นฝ่ายผิด แต่ตนก็อยากให้ ร.ต.ต.สันติ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายสักเล็กน้อย

ทั้งนี้ น้องชายของตนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาเป็นเวลานาน ปกติหากคลุ้มคลั่งก็จะแค่ทำลายข้าวของ ปาหินใส่บ้าน ยิงปืนใส่บ้าน หรืออาจจะทำร้ายภรรยาของตัวเองบ้าง แต่ในช่วง 1-2 ปีน้องชายของตนเสพยาเสพติดหนักขึ้น เนื่องจากยาเสพติดราคาถูก 5 เม็ด 100 บาท ตนจึงอยากใคร่ขอให้รัฐบาลช่วยปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด

ครอบครัวได้รับร่างของนายธีรวุฒิออกจากนิติเวชโรงพยาบามชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านปากช่องเสลืองทอง ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เวลา 14.30 น. ครอบครัวได้ตัดสินใจประกอบพิธีฌาปนกิจในทันทีตามความเชื่อของชาวอีสาน เนื่องจากผู้ตายเสียชีวิตไม่ปกติ

นางสาวกรชวัล รวยสง่า อายุ 27 ปี ภรรยาของผู้ตาย บอกว่า ตนไม่ทราบว่าสามีเป็นอะไร ช่วงเช้าของวันที่ 15 พ.ย. ก็หงุดหงิดขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. สามีเริ่มขาดสติ ไล่ทำร้ายคนในบ้าน ตนจึงหนีไปหลบอยู่บ้านญาติ สามีจึงได้ถือมีดไปตามตนกลับ ตนยินยอมกลับด้วยแต่โดยดี สามีจึงไม่ทำร้าย แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็บานปลายถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเกลี้ยกล่อม สามีได้ยื้อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนล้ม สามีจึงคว้ามีดที่อยู่บนพื้นฟันใส่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนตนตกใจมาก จึงรีบวิ่งหนี ทั้งนี้สามีไม่ได้เมาสุรา เพราะปกติสามีเป็นคนดีขยันทำงาน เพิ่งเริ่มเสพยาเสพติดได้ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา และเพิ่งจะเสพหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตนไม่รู้สาเหตุที่สามีติดยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำไปเพราะป้องกันตัว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อาจจะเสียชีวิต เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกฟันไปแล้ว

นางสาวจันทร์จิรา น้อยศรี อายุ 23 ปี ลูกสาวของ ร.ต.ต.สันติ บอกว่า ขณะนี้อาการของ ร.ต.ต.สันติ พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกตัว ยังคงต้องคอยสังเกตอาการอยู่ตลอด ทางครอบครัวมักจะเตือน ร.ต.ต.สันติ ให้ระวังตัวอยู่ตลอด เพราะการทำงานจับคนร้ายค่อนข้างมีความเสี่ยง ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ทำใจเอาไว้แล้วระดับหนึ่ง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะทำให้เกิดความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่ง ร.ต.ต.สันติ จะไม่สามารถใช้มือและแขนซ้ายได้เหมือนเดิม เพราะกระดูกหัก 2 ท่อน และแพทย์ไม่สามารถต่อเส้นเอ็นได้ เหตุที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าพ่อไตร่ตรองแล้วในการทำหน้าที่ ซึ่งตนต้องขอโทษครอบครัวของผู้ตายด้วย ส่วนด้านคดีคงต้องปล่อยไปตามขั้นตอนของกฎหมายและทางวินัยต่อไป