เวลา 09.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย กรมโยธาธิการและผังเมือง ตำรวจ สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ผู้แทนจากกิจการร่วมค้า PKW และผู้แทนบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ร่วมประชุมที่กองอำนวยการร่วม ก่อนเข้าเปิดตู้คอนเทนเนอร์ที่ดีเอสไอ อายัดไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งหมด 24 ตู้ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นที่ตั้งสำนักงานชั่วคราว และภายในมีการเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร ที่ดีเอสไอจะต้องทำการตรวจสอบเพื่อนำไปใช้ในการประกอบสำนวนคดีนอมินี และคดีฮั้วประมูล
โดยการเข้าตรวจสอบจะแบ่งชุดปฏิบัติการเป็น 4 ชุด แต่ละชุดจะประกอบไปด้วยตำรวจ กรมโยธาธิการและผังเมือง และดีเอสไอ ซึ่งชุดที่ 1 และ 2 จะมีผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทยฯ นำตรวจค้น ส่วนชุดที่ 3 และ 4 จะมีผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW นำตรวจค้น โดยจะเน้นหาเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคา ทั้งนี้จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบตู้ที่ 19 เนื่องจากภายในมีชั้นวางสำหรับใส่เอกสารอยู่จำนวนมาก และจะมีการตรวจทีละตู้ หากตู้ไหนไม่ได้ใช้งาน ก็จะส่งมอบทรัพย์สินคืน ส่วนตู้ไหนที่มีหลักฐาน ก็ให้ทำการตรวจยึดไว้
ขณะที่ ร้อยตำรวจเอกสุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า วันนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันกับกรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองพิสูจน์หลักฐาน จะเข้าตรวจสอบเอกสารที่อยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้ยึดอายัดไว้ทั้งหมด 24 ตู้ เพื่อนำเอกสารมาประกอบสำนวน
โดยวันนี้จะแบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 4 ชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจสอบเอกสารทั้งหมด สิ่งที่อยากได้คือ คือ เอกสารเกี่ยวกับการก่อสร้าง Shop Drawing เอกสารระหว่างผู้รับจ้างช่วง เอกสารการทำงานของวิศวกรจีน-วิศวกรไทย รายละเอียดการตรวจวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็ก ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่มีอยู่ที่สำนักงาน สตง. และหน่วยงานที่เคยเข้าตรวจค้นแล้วก่อนหน้านี้ โดยเอกสารที่ได้มาส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารที่เป็นการติดต่อกับทางราชการเป็นหลัก
เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าเอกสารจะอยู่ไม่ครบ เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีกรณีที่ชาวจีนลักลอบขนออกไป ร้อยตำรวจเอกสุรวุฒิ บอกว่า ไม่กังวลเพราะมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเอกสารที่เคยมีการขนออกไปก็ยืนยันว่าได้กลับคืนมาครบหมดแล้ว
โดยวันนี้ได้มีตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และกิจการร่วมค้า PKW เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยตามขั้นตอน ส่วนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ไม่ได้ส่งผู้แทน เพราะบริษัท อิตาเลียนไทยฯ มาในนามบริษัทอยู่แล้ว ทั้งนี้ เอกสารที่ได้จะถูกนำไปใช้ทั้งหมด 2 ส่วน คือในการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมโยธาธิการและผังเมือง จึงทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว
ส่วนการเรียกสอบปากคำวิศวกร 40 รายได้ดำเนินการเรียกไปทั้งหมดแล้ว และจะเริ่มทยอยสอบวันละ 10 ราย เริ่มวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย. 68) และจะสอบปากคำไปต่อเนื่อง 4 วัน แต่ก็ต้องรอดูว่าวิศวกรจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำตามที่เรียกไปครบหรือไม่
สำหรับในวันนี้ ถือว่า ครบรอบ 1 เดือนของเหตุการณ์อาคารสตง.ถล่ม แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานยังคงเร่งค้นหาผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง
Advertisement