เร่งเปิดพื้นที่ชั้นใต้ดินตึก สตง. คาดเป็นจุดที่พบผู้ติดค้างเพิ่ม
สปภ.คาดพรุ่งนี้ลดทอนความสูงซากตึกสตง.ถึงชั้น 1 เร่งเปิดพื้นที่ชั้นใต้ดิน คาดเป็นจุดที่อาจพบผู้ติดค้างเพิ่มเติม
วันนี้ (27เม.ย.68) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยความคืบหน้าการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ว่า เมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ร่าง ในโซนดี อยู่ที่บริเวณชั้น 5 หรือ 6 และพบชิ้นส่วนอีก 5 เคส ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอนิติเวชยืนยันว่าจะเป็นร่างสมบูรณ์ 1 ร่างได้หรือไม่ ส่วนการขนย้ายซากคอนกรีตและเหล็กเส้นออกจากพื้นที่ ขณะนี้สามารถดำเนินการได้ คงเหลือความสูงประมาณ 2.57 เมตร ก็จะถึงพื้นชั้นที่ 1 โดยรถบรรทุกสามารถขนย้ายวัสดุออกจากจุดเกิดเหตุได้ 343 เที่ยว และการขนย้ายที่ทำได้มากขึ้นก็ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถลดทอน ระดับความสูงได้รวดเร็วมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการทำงานในขณะนี้มีอุปสรรคคือพื้นคอนกรีตด้านล่างที่มีความสมบูรณ์ จึงทำให้ต้องใช้กำลังจากเครื่องจักรในการตัดเหล็กที่ผสานอยู่ในแผ่นปูนมากขึ้น โดยการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่จะใช้รถแบ็คโฮหัวเจาะกระแทกเข้ามาดำเนินการและในวันพรุ่งนี้ จะเพิ่มจำนวนรถชนิดนี้เข้ามาเพิ่มเติมอีก 2 คัน ขณะเดียวกันจะมีการเปลี่ยนรถที่ใช้ในลักษณะหัวตักมาเป็นหัวเจาะกระแทกแทน ส่วนการตัดเหล็กเจ้าหน้าที่จะเพิ่มกำลังคนในการดำเนินการควบคู่ไปด้วย โดยกำลังทหารจะเข้าดำเนินการตัดเหล็กที่บริเวณโซน B ส่วนพื้นที่อื่นเจ้าหน้าที่จะใช้แก๊สเข้ามาตัดเหล็ก โดยในวันพรุ่งนี้ก็จะครบรอบ 1 เดือน ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังคงดำเนินการอย่างเต็มที่และหากสามารถทำได้ตามแผนนี้ก็เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้จะสามารถ ลดทอนความสูงของสร้างอาคารลงมาถึงชั้น 1 ได้สำเร็จ โดยเมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถเปิดพื้นที่ด้านหน้าของโซน A และ B ได้ และหลังจากนี้จะมีการเร่งเปิดพื้นที่โซน C ให้เป็นรูปตัวยู เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าดำเนินการทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านข้างได้ควบคู่กัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการทำงานเมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พบหลุมโดยรอบโครงสร้างอาคารที่พังถล่ม เจ้าหน้าที่จึงนำรถแบ็คโฮมาขุดหลุมที่พบ ส่วนโพรงที่พบ ขณะนี้พบเป็นโพรงที่เชื่อมระหว่างอาคารจอดรถกับตัวอาคารที่พังถล่มลงมาไม่ใช่โพรงชั้นใต้ดิน
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังได้เข้าไปสังเกตการณ์ร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พบว่าซากอาคารส่วนใหญ่ถล่มลงมากองรวมกันที่บริเวณชั้นใต้ดิน ตรงกลางของซากอาคารลงมาจากชั้น 1 ซึ่งขณะนี้พบมีความสูงกว่า 4 เมตร โดยจุดนี้ก็คาดว่าจะเป็นจุดที่อาจจะพบร่างผู้ติดค้างเพิ่มเติม ขณะเดียวกันผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังยอมรับว่าการเปิดการจราจรด้านหน้าจุดเกิดเหตุ ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่เจ้าหน้าที่ได้มีการปรับวิธีโดยการเพิ่มรอบการขนย้ายซากอาคารในช่วงเวลากลางคืนแทน
ขณะที่ยอดรวมผู้ประสบภัย ล่าสุด พบมีผู้เสียชีวิต 62 คน สูญหาย 32 คน บาดเจ็บ 9 คน
Advertisement
