จากกรณี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 พ.ย. 65 ร.ต.อ.สุริยา ภูมิวัฒน์ รองสว. (สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุคนผู้คอตาย ภายในพื้นที่ หมู่ 8 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง
พบจุดเกิดเหตุเป็นบ้านแบบทาวเฮ้าท์ปูน 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างพบร่าง นายปัญจะ เย็นเจริญ อายุ 33 ปี เจ้าของบ้านนอนอยู่ที่พื้น ที่ลำคอมีรอยรัดของเชือก โดยทางญาติได้นำตัวลงมาจากเชือกที่นายปัญจะผูกไว้กับราวบันไดชั้นสอง โดยเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ในขณะที่กู้ภัยทำการตรวจสอบเหตุได้มีโทรศัพท์เจ้าขากหนี้ขอผู้ตายโทรเข้ามาทวงหนี้พร้อมกับให้ยืนยันการเสียชีวิตว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
วันที่ 21 พ.ย. 65 ทีมข่าวเดินทางมายัง วัดบางสมัคร ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นงานจัดพิธีทางศาสนาประกอบงานศพของนายปัญจะ เย็นเจริญ อายุ 33 ปี ผู้เสียชีวิต โดยจะเป็นงานจัดพิธีในวันที่ 21-23 และ วันที่ 24 พ.ย.65 เป็นวันฌาปนกิจเผาศพ โดยบรรยากาศภายในงานวันนี้มีครอบครัวญาติผู้เสียชีวิตยังคงโศรกเศร้าเสียใจ ได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยรดน้ำศพ ผู้เสียชีวิต
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางโสภา บุญมา อายุ 53 ปี แม่ภรรยาผู้เสียชีวิต ระบุว่าวันเกิดเหตุขณะที่ตนเห็นร่างไร้วิญญาณของลุกเขยตนและลูกสาวก็ได้ช่วยกันนำร่างลูกเขยลงจากขื่อบันไดและพยายามช่วยปั้มหัวใจแต่ก็สายไปแล้ว ระหว่างนั้นมีเจ้าหนี้ได้โทรศัพท์มายังเครื่องผู้เสียชีวิตพร้อมขู่ว่า “กูให้เวลามึง 30 นาที ให้โอนเงินจำนวน 40,000 มาคืน ถ้ามึงไม่ให้กู มึงจะรู้ดีว่าจะเป็นยังไง“
ด้วยความตกใจตนจึงพยายามบอกปลายสายว่า “คนที่คุณโทรหา เขาตายแล้ว เขาพูดคอตาย” แต่ทางปลายสายกลับไม่เชื่อ พร้อมบอกว่า “มึงไม่ต้องมาพูด มึงไม่ต้องมาโกหกกู กูไม่เชื่อมึง มึงเป็นเมียเขาหรือ เดี๋ยวกูจะไปเอาเงินเดี๋ยวนี้ มึงหาเตรียมให้กูเลย”
ตนจึงท้าให้ทางเจ้าหนี้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุเพื่อให้เขาเห็นกับตาว่าลูกหนี้เขาได้เสียชีวิตแล้ว แต่ทางเจ้าหนี้ก็ยังกล่าวหาว่าพวกตนพูดโกหก จนทำให้คนทั้งข้างบ้านผู้เสียชีวิตโมโหจึงพูดประชดประมาณว่า “กดดันให้เขาตายถึงขนาดนี้แล้ว มึงจะเข้ามาเอาตังค์อีกหรอ มึงมาเลย เดี๋ยวกูจะให้มึงแดกลูกปืน” ปลายสายก็บอกว่าไม่กลัวหรอกตำรวจ และจากนั้นปลายสายก็ตัดสายไป ซึ่งวันนี้ทั้งวันที่เอาศพมาที่วัดก็ยังโทรอย่างต่อเนื่องมาทวงเงิน 40,000 ตนเองจึงบอกว่า คนเขาตายแล้วนะ ทางด้านเจ้าหนี้ก็ยังด่าเอ็ดกลับมาคิดว่าตนเองเป็นภรรยาบอกว่า “มึงมีผัวแบบนี้ ได้ยังไงมึงเตรียม เงินไว้นะ กูจะไปเอา 40,000 บาท”
ขณะเดียวระหว่างมี่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิต ก็มีเจ้าหนี้ได้โทรศัพท์เข้ามาทางเบอร์โทรของญาติผู้เสียชีวิต โดยทางด้านทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายต้น (นามสมมติ) หนึ่งในเจ้าหนี้ โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยระบุว่า นายปัญจะ หรือ นายพัด ตายแล้วหรือ ขอใบมรณะบัตรหน่อย โดยทีมข่าวได้แนะนำตัว และสอบถามว่า ได้มีการหยิบยืมกันเท่าไหร่ ทางด้าน นายต้น (นามสมมุติ) ระบุว่า ของแอบฯ ตนเองประมาณ 3,500 บาท อีกทั้งก็คิดว่า ตนเองก็ได้โทรมาทวงอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเครียดด้วย เพราะตนเองกระหน่ำโทรหาเขาเยอะมาก เพราะเงินตนเองก็ต้องใช้
ซึ่งทีมข่าวพยายามสอบถามว่าตอนนี้ผู้เสียชีวิตได้เสียชีวิตลงแล้ว ทางเจ้าหนี้จะช่วยเหลือจัดการอย่างไรบ้าง ซึ่ง นายต้น (นามสมมติ) เจ้าหนี้บอกว่า ขอเพียงถ่ายรูปสำเนามรณะบัตรแล้วส่งให้ทางไลน์ตนเองจะปิดบัญชีดำให้ เงิน 3,500 บาท นั้น ทั้งทางครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่ต้องชำระแล้ว ไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาดเดียวตนเองยกยอดยกหนี้ให้ทั้งหมด ขอเพียงเซ็นเอกสารส่งให้เท่านั้น
ส่วนเรื่องโทรมารังควานอีกหรือไม่นั้น ขอเพียงส่งเอกสารให้ครบเพียงเท่านี้พอเท่าที่ตนเองขอ แต่สำหรับเจ้าอื่นแอบฯ อื่นตนเองไม่รู้เขาจะโทรมาก่อกวนหรือไม่ แต่เจ้าของตนเองถ้าได้เอกสารยืนยันว่าเสียชีวิต ตนเองปิดบัญชีให้ทั้งหมดไม่ต้องจ่ายแล้ว
น.ส.สุปาณี วัฒนศิริ อายุ 33 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลเล่าสั้น ๆ กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีระบุว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 65 อยู่บ้านกับ สามี ช่วงเวลา 14.00 น. ออกไปหาคุณแม่และไปถึงบ้านคุณแม่ตอนเวลา 15.00 น. มาเยี่ยมเพราะแม่ไม่สบาย สามีสั่งให้ออกไปหาแม่ ต่อมากลับบ้าน 16.00 น. กว่า ๆ มาถึงก็พบว่าสามีผูคอห้อยตัวอยู่เสียชีวิตลงแล้ว ขณะนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูกโทรหาแม่เป็นอย่างแรกและตะโกนเรียกเพื่อนบ้านให้ช่วย
ยอมรับว่าในทุกวันมีเจ้าหนี้ประมาณ 3-4 เจ้า โทรศัพท์มาหาเป็นประจำทุกวัน วันละหลายสิบสาย และแต่ละสายอเบอร์ไม่ซ้ำกัน มิหนำซ้ำเจ้าหนี้ในแอปฯ ที่สามีไปกู้มาโทรมาทวงบ่อยมากและเปลี่ยนเบอร์ทวงไปเรื่อย ๆ ตนเองจำน้ำเสียงได้ พร้อมกับขู่บอกว่าให้จ่ายหนี้กำหนดเวลา 30 นาที 1 ชั่วโมง ให้จ่ายถ้าไม่จ่ายจะตามมาถึงบ้าน ซึ่งจากที่ตนเองทราบว่าสามีกู้มาเกินกว่า 40,000 บาท แต่เมื่อสามีไม่มีเงินก็จะไปยืมแอปฯ อื่น ๆ แอปฯ ละ 2000-3000 บาท แต่ละแอปฯ มาถัวเอาเงินมาทยอยจ่ายให้กับแอปฯ ที่กู้เยอะที่สุด แล้วหมุนเงินไม่ทันเอาเงินมาโปะเป็นลูกโซ่วน ๆ ไปไม่จบไม่สิ้น
ตนเองและสามีทำงานโรงงานมานานกว่า 10 ปี ซึ่งช่วงก่อนก็ปกติดีใช้จ่ายได้ทั่วไป แต่ระยะหลังมาทราบว่าสามีเครียด เงียบ ซึม ๆ เงินไม่พอใช้ และไปเล่นพนันออนไลน์ สล็อต บาคาร่า และเล่นพนันบอล แต่ไม่ทราบเว็บอะไรน่าจะติดหนี้กว่าหลายบาท จึงไปกู้หนี้ ยืมสินในแอบพลิเคชันมาจ่ายให้กับเว็บพนัน
ตนเองมองว่าขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางภาครัฐ ช่วยจัดการเรื่องแอบพลิเคชั่นกู้หนี้และแอบพนันบอล พนันออนไลน์ ให้กวาดล้าง เพราะสามีมาเสียชีวิตเพราะเล่นแอบพลิเคชันติดหนี้ แล้วเจ้าหนี้ก็มาทวงจนเกิดความเครียดและคิดสั้น ตอนนี้ยอมรับว่า มีลูกน้อยในท้องประมาณ 8 เดือนแล้ว และลูกชายวัย 7 ขวบ ไม่รู้จะไปยังไงต่อ เพราะสามีเป็นหัวหน้าครอบครัว หาเลี้ยงให้กับครอบครัว ส่วนหน่วยงานภาครัฐมีแค่ประกันสังคมเดินทางเข้ามา โดยบอกว่าจะมีการจัดการมีเงินค่าจัดงานศพให้ แต่ต้องออกเองก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีเงิน ในการจัดงานแล้ว ยอมรับเครียดมากเช่นกันที่สามีคิดสั้นและตัดสินใจเช่นนี้
Advertisement