นาทีระทึก! หนุ่มซิ่งเก๋งข้ามเกาะกลาง พุ่งชนรถ 2 คันรวด ก่อนไฟลุกสยอง (คลิป)

คืบหน้ากรณีชายวัย 30 ปี ขับเก๋งสีขาวเสียหลักชนเกาะกลางถนน แฉลบไปชนรถกระบะและเก๋งที่จอดอยู่ข้างทางได้รับความเสียหาย ก่อนที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะพลิกคว่ำไฟลุกท่วมกลางถนน ส่วนชายคนขับถูกช่วยเหลือไว้ได้ ก่อนถูกนำตัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการบาดเจ็บและวัดปริมาณแอลกอฮอล์

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบ ที่บริเวณพื้นถนนมีแกรบอยู่ตรงบริเวณถนนจุดที่ไฟไหม้รถเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ตรงริมถนนยังมีเศษซากรถที่ไฟไหม้เสียหายกองอยู่

จากการสอบถาม นางรุ่งทิวา ไกรนุกูล อายุ 35 ปี เจ้าของร้านขายเสื้อผ้า ซึ่งเป็นผู้เสียหาย โดยเป็นเจ้าของรถเก๋งและรถกระบะที่ถูกชนจนเสียหาย เล่าว่า ปกติตนจะจอดรถกระบะและรถเก๋งไว้ที่วัด แต่จะนำมาจอดไว้ที่บริเวณหน้าบ้านริมถนนอยู่บ้าง วันเกิดเหตุตนกลับมาจากข้างนอก โดยตนกลับมาก่อนและได้นำรถเก๋งมาจอดไว้ก่อนเกิดเหตุเพียง 30 นาที หลังจากนั้นสามีก็เข้าบ้านตามมาพร้อมกับลูกๆ

คล้อยหลังจากที่สามีกลับเข้าบ้าน ปิดประตูไปได้เพียง 2 นาที ก็เกิดเสียงรถชนดังสนั่น เมื่อเปิดประตูมาดูก็เห็นรถเก๋งสีขาวคันก่อเหตุ หลังจากชนรถของตนแล้วก็หมุนตลบอยู่กลางถนน จากนั้นสามีจะวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปเนื่องจากที่บริเวณรถคันดังกล่าวเริ่มมีไฟไหม้กลัวว่าจะเกิดระเบิดขึ้น ต่อมาชายคนที่ขับรถเก๋งคันสีขาวก็หนีออกมาจากตัวรถได้ทัน ก่อนที่ไฟจะลุกท่วม

ต่อมาตนก็พยายามจะเข้าไปสอบถามชายคนดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงประกันภัยของรถว่ามีหรือไม่ และสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบคำถามอะไร จนกระทั่งมีอีกคนซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครมาสอบถามเพื่อขอบัตรประชาชนและเอกสารต่างๆ แต่ชายคนขับตอบด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเบาบอกว่าทั้งหมดอยู่ในรถที่ถูกไฟไหม้รวมถึงโทรศัพท์มือถือและบัตรประชาชน

ส่วนตัวตนก็ไม่ได้เข้าไปใกล้จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเมาหรือไม่ แต่สังเกตุเห็นท่าทีอีกฝ่ายค่อนข้างนิ่งเฉย แม้ว่ารถจะถูกไฟไหม้ไปทั้งคันแต่ก็ไม่เห็นมีอาการกระวนกระวายอะไร ตนก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเมาหรือไม่ แต่หากว่ามีอาการเมาแล้วมาเกิดเหตุแบบนี้ ตนก็คงจะรู้สึกโกรธเคืองอยู่เหมือนกัน

เบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุ ทางผู้ก่อเหตุยังไม่ได้มีการติดต่อมาเพื่อจะพูดคุยหรือชดใช้ค่าเสียหาย ขณะเดียวกันรถทั้ง 2 คันของตนที่ถูกชน โดยเฉพาะรถเก๋งคันสีดำซึ่งเสียหายอย่างหนักโดยเฉพาะที่บริเวณฝั่งคนขับ ตนก็ปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ประกันภัยเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องค่าเสียหายและคดีความทั้งหมด

นางรุ่งทิวายังบอกอีกว่า ถือว่าเคราะห์ดีที่ครั้งนี้จอดรถไว้ด้านหน้าบ้าน เพราะแม้ว่ารถจะได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็มีประกัน และเคราะห์ดี ไม่อย่างนั้นรถคันที่ก่อเหตุอาจจะพุ่งเข้ามาชนถึงตัวบ้าน จนได้รับความเสียหายก็เป็นไปได้

สำหรับความคืบหน้าทางคดีเบื้องต้น จากการสอบถามพนักงานสอบสวน สภ. เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุทางตำรวจได้นำตัว นายแบงค์ ซึ่งเป็นชายคนขับรถไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว พบได้รับบาดเจ็บมีอาการเคล็ดขัดยอกเล็กน้อย จากนั้นได้ทำการตรวจเลือดเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เบื้องต้นจึงได้ทำการแจ้งข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย” ก่อนจะปล่อยตัวไป

และขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจเลือดเพื่อตรวจวัดว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ก่อนจะมีการเรียกตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และหากพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป