สิบล้อเบรกแตก! บีบแตรลั่น ก่อน พุ่งชนเก๋ง-กระบะ พังยับเยิน ย่านราษฎร์บูรณะ เจ็บ 2 ราย
วันที่ 16 ตุลาคม 2567 เวลา 13.15 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็น ชาย 2 ราย จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณสามแยกราษฎร์บูรณะ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณสามราษฎร์บูรณะ ฝั่งตรงข้ามวัดราษฎร์บูรณะ ถนนราษฎร์บูรณะ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจำนวนหลายคันกองรวมกันอยู่บนฟุตบาทบริเวณหน้าบ้าน ในสภาพพังเสียหายยับเยินทั้งหมดและภายในที่เกิดเหตุยังพบกับผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย เป็นผู้ขับขี่รถสิบล้อบันทุกดิน 1 ราย ซึ่งทราบชื่อตอมาชื่อนาย พงษ์พัฒน์ อินทุรัตน์ อายุ 33 ปี มีอาการหน้ามืดจะเป็นลม และมีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง แล้วผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รายเป็นคนขับรถกระบะตู้ทึบ ทราบชื่อต่อมาชื่อนายอภิวัฒน์ อายุ 17 ปี มีอาการฟกช้ำ และมีบาดแผลถลอกบริเวณร่างกายหลายแห่ง อาสาสมัครจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่งโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะอย่างเร่งด่วนทันที
สอบถาม นายทองอินทร์ พิธภาพ อายุ 34 ปี กล่าวว่าตนขับขี่มาตามถนน ราษฎร์บูรณะ และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุดังกล่าวซึ่งเป็นสามแยกไฟแดง แล้วเป็นจังหวะที่มีไฟแดงก็เลยจอดอยู่ด้านหน้าคันอื่น แล้วสักพักก็ได้ยินเสียงแตรดังสนั่น และสักพักก็ได้ยินเสียงโครมครามดังสนั่นขึ้นมาเลย พอสิ้นเสียง ตนก็ลงไปดูที่ท้ายรถก็พบว่าสิบล้อชนรถกระบะ กับ รถเก๋ง ไปกองรวมกันแล้ว ส่วนคนขับรถสิบล้อก็ไม่ได้หนีหายไปไหนลงมาดูเหตุการณ์อยู่ แล้วเขาก็พูดว่าเบรกไม่อยู่
เบื้องต้นจากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุพบรถที่เสียหายเป็นรถกระบะตู้ทึบ 3 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 1 คัน และรถบันทุกหกล้อ 1 คัน รวมรถที่ได้รับความเสียหายแล้วทั้งหมด 6 คันรวมทั้งรถสิบล้อด้วยอีก 1 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานรถยกมาทำการลากจูงไปไว้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อรอการตรวจสอบความเสียหายจากเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยของรถแต่ละคัน
ส่วนสาเหตุของการณ์เกิดเหตุครั้งนี้สันนิษฐานว่าเกิดจากรถสิบล้อบันทุกดินน่าจะเกิดอาการเบรกแตก จึงทำให้หยุดรถไม่อยู่ก็เลยทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อคนขับรถบันทุกสิบล้อหายดีแล้วหรือพอที่จะให้การได้ก็จะต้องเชิญตัวมาสอบถามถึงสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Advertisement