จากกรณีนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี พริตตี้สาว คนรักของ ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสว.สส. สน.วังทองหลาง ถูกปืน .45 ยิงภายในบ้าน ถนนแฮปปี้แลนด์สายเก่า แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ทางญาติสงสัยกรณีการเสียชีวิตว่าเป็นการยิงตัวตายหรือการฆาตกรรม เนื่องจากลูกสาวถนัดมือขวา แต่มีแผลที่ขมับซ้าย และทั้งคู่มีปากเสียงกันเรื่อยมา เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 20 มิ.ย. 63
ล่าสุด วันที่ 21 มิ.ย.63 นางหมู พี่เลี้ยงของน้องตูน (นามสมมติ) วัย 2 ขวบ ลูกสาวของผู้ตาย ระบุว่า เมื่อก่อนนี้ทั้งผู้ตาย และ ร.ต.อ.ทรงกรด พักอยู่ที่แฟลตตำรวจ ซึ่งตนก็อาศัยอยู่ย่านนั้น ประกอบกับผู้ตายไม่มีเวลาจึงนำน้องตูนมาจ้างให้ตนเลี้ยงดู
ซึ่งปกติทั้งคู่มีทะเลาะกันบ้าง เรียกว่านิสัยแรงทั้งคู่ ตนยังเคยไปเตือนผู้ตายว่าอย่าเชื่ออะไรที่ยังไม่ได้เห็นมากับตา เพราะบางครั้งเวลาผู้ตายได้ยินอะไรก็จะมาทะเลาะกันในบ้าน ซึ่งอย่าให้ตนตอบเลยว่า ร.ต.อ.ทรงกลดฆ่าภรรยาหรือไม่หรือผู้ตายฆ่าตัวตาย เพราะตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ
ภายหลังจากที่นางทองใส ภูคงน้ำ แม่ของผู้เสียชีวิตเดินทางไปรับศพจากนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเกิด และได้เดินทางต่อมายังบ้านที่เกิดเหตุเพื่อทำพิธิอัญวิญญาณ โดย ร.ต.อ.ทรงกลด และครอบครัวร่วมทำพิธี ระหว่างที่ทำการทอดผ้าบังสกุล ร.ต.อ.ทรงกลด ร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
เมื่อทำพิธีเสร็จ แม่ของผู้เสียชีวิตได้เดินทางกลับบ้านที่กาฬสินธ์ทันที ส่วน ร.ต.อ.ทรงกลด เมื่อเสร็จพิธี ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงประเด็นที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวปฏิเสธ และเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ของบ้านทันที
ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นางทองใส ภูคงน้ำ อายุ 56 ปี แม่ พร้อมด้วย นายกชกิตติพัฒน์ ภูแย้มไสย์ อายุ 33 ปี พี่ชายและญาติ เดินทางมายื่นเอกสารเพื่อขอรับศพ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดงเค็ง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และฌาปนกิจในวันพุธที่ 24 มิ.ย. 63 ส่วนผลชันสูตรพลิกศพแพทย์ลงความเห็นไว้ว่า บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง
"ยอมรับว่ากลัวใจผู้ชายคนนี้มาก เคยเตือนลูกสาวว่าให้เลิกลากันไปแล้ว แต่ลูกสาวไม่ยอมเลิกเพราะเห็นแก่หลาน", "ลูกสาวพาหลานหนีกลับบ้าน ผู้ชายคนนี้ขู่ว่าถ้าไม่เอาลูกสาวกลับไป จะฆ่าล้างโคตร" แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าว
โดยระหว่างการรับศพ แม่พูดกับร่างลูกว่า ให้กลับบ้านเรา หมดเวรหมดกรรมแล้ว ลูกเป็นคนเก่งอยู่แล้ว เอาให้ถึงที่สุด เดี๋ยวแม่จะพาไปเชิญวิญญาณกลับบ้าน และหากไม่ได้ฆ่าตัวตาย ขอให้ดวงวิญญาณดลใจให้ผู้ร้ายออกมารับสารภาพ และพูดความจริง ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าลูกสาวไม่ได้ฆ่าตัวตาย ส่วนใครทำอะไรก็ขอให้ได้รับอย่างนั้น
ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสว.สส.สน.วังทองหลาง เปิดใจว่า ตนยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ก่อเหตุ ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตคิดว่าตนอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ และไม่มีเหตุผลที่จะทำ เพราะเขาคือคนที่ตนรักและมีลูกด้วยกัน ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าครอบครัวของแฟนไม่ชอบตนจริงและไม่เคยเจอกัน มีเพียงพูดคุยกับแม่แฟนผ่านโทรศัพท์เท่านั้น ตนก็พยายามพิสูจน์ให้แม่ของคนตายเห็นว่าสามารถดูแลลูกของเขาได้ จึงได้ซื้อบ้านเมื่อ 3 เดือนก่อน เพื่อทำให้เห็นว่าลูกของเขาจะไม่ลำบาก
ก่อนเกิดเหตุ ตนเลิกงานที่ สน.วังทองหลาง กลับมาที่บ้านหลังเกิดเหตุตอนตี 1 ที่กริ่งหน้าบ้านเสียและตนก็ไม่มีกุญแจไขเข้าไปในบ้าน จึงต้องโทรศัพท์ไปหาผู้ตายให้ลงมาเปิดประตูให้ ที่ผ่านมาตนรู้ว่าคนตายเครียดเรื่องที่แม่ป่วยเป็นเบาหวาน ตนก็ให้เงินใช้ ผู้ตายก็ขายของเสื้อผ้าออนไลน์หาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้แม่ใช้รักษาตัว เมื่อผู้ตายเดินมาเปิดประตู ตนก็นั่งดูหนังที่ชั้นล่าง ก่อนขึ้นชั้น 2 ก็เห็นผู้ตายมีอาการเครียด ไม่พูดจาเดินไปนอนอีกห้องล็อกประตู จนกระทั่งช่วงเช้าได้ยินเสียงปืนดังจึงวิ่งลงมาดู หลังเกิดเรื่องจึงแจ้งตำรวจ ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นปืนของตนเอง ส่วนที่กระสุนเข้าขมับซ้าย แล้วญาติติดใจเพราะคนตายถนัดมือขวา ตนยืนยันว่าผู้ตายถนัดทั้งสองมือ ส่วนเสียงทุบที่กำแพงนั้นเป็นเสียงถีบฝาห้องก่อนฝ่ายหญิงจะเสียชีวิต ไม่ได้มีการทะเลาะแล้วลงไม้ลงมือกันแต่อย่างใด
น.ส.พนิตา ลูกพี่ลูกน้องของผู้ตาย เปิดใจว่า ผู้ตายคบกับนายตำรวจตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งในช่วงที่คบแรก ๆ น้องสาวตนไม่รู้ว่าผู้ชายเคยมีลูกมีเมียมาก่อน น้องสาวมารู้ทีหลังตอนช่วงที่กำลังตั้งท้อง ถึงกับเคยโทรมาปรึกษาตนว่านายตำรวจโกหกว่าตัวเองโสด น้องจึงตัดสินใจคบหาและมีครอบครัวด้วย ด้วยหน้าที่การงานเขาก็ดี จึงตัดสินใจมีลูกมีครอบครัวกัน จนพักหลังน้องทะเลาะกับผู้ชายคนนี้บ่อยขึ้น มีการลงไม้ลงมือ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ผู้ชายชอบไปกินเหล้า ไม่ยอมเข้าบ้าน
ก่อนหน้านี้ ตนยังเคยพูดเล่น ๆ ว่า อย่างให้มีข่าวออกมานะว่าตำรวจยิงสาวพริตตี้ เมื่อวานรู้ข่าวก็ช็อก เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่พูดเล่นในวันนั้นจะเป็นจริงขึ้นมา ยอมรับว่าตั้งแต่ที่รู้ข่าวว่าน้องเคยถูกตบจนสลบ ก็แอบคิดว่าอาจจะมีวันนี้เหมือนกัน
นอกจากนี้ ญาติผู้เสียชีวิตชี้พิรุธและข้อสงสัยในการเสียชีวิต เนื่องจากผู้ตายถนัดมือขวา แต่มีแผลที่ขมับด้านซ้าย รวมทั้งมีเสียงทุบกำแพงที่บ้านก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น ซึ่งอาจมีการทะเลาะกันก่อนหรือไม่ อีกทั้งมีคนเห็นสามีของผู็ตายเดินออกมาถ่ายรูปและโทรศัพท์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบนเฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 63 ไลฟ์ขายเสื้อผ้าตามปกติ แคปชั่นวิดีโอใจความว่ามีผู้ชายมาจีบเยอะ
ต่อมาวันที่ 11 มิ.ย. 63 โพสต์สถานะข้อความระบุว่า "ถ้าจะจีบแม่ค้า ต้องอุดหนุนของแม่ค้าก่อนนะคะ #ขรรม"
ต่อมา วันที่ 14 มิ.ย. 63 โพสต์สถานะ ใจความว่า "ผู้หญิงมีค่าจะไม่ลดระดับตัวเองลงค่ะ ไปค่ะ ขยัน ๆ" และ "ช่วงนี้ให้เวลากับการขายเสื้อผ้ามากขึ้น เพราะงานอื่น เงินเข้าบัญชีอย่างเกียวละ นั่งทำความเข้าใจ ตรงไหนควรแก้ไข ลูกสาวไม่เจอหลายวันละ เดี่ยวแม่พาไปพักผ่อนนะ เคลียร์งานแป๊บ"
ล่าสุด วันที่ 17 มิ.ย. 63 มีการโพสต์ภาพนิ่งรูปใบหน้าตัวเอง พร้อมแคปชั่นว่า "ไม่เคยไปตบตีใครเพราะแย่งผู้ชายเลย ส่วนมากอยู่สวย ๆ ก็เป็นที่หนึ่งในใจเธอ"
Advertisement