พิรุธว่าที่เจ้าบ่าวยิงจ่อขมับดับ แม่คาใจกระสุนเจาะเพดานโหว่ เมียท้องปัดชุลมุนแย่งปืน (คลิป)

วันที่ 18 ก.ย. 63 เมื่อช่วงเช้าเวลา 00.40 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ผู้กำกับการ สภ.เกาะจันทร์ ได้รับรายงาน นายทวีศักดิ์ โพธิ์ศรี อายุ 42 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงขมับขวาตัวเองทะลุขมับซ้าย นอนจมกองเลือดอยู่บันไดหน้าบ้าน สภาพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ บริเวณบ้านพักไม้ยกพื้น บ้านโป่งหิน หมู่ 5 ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พิษรัก พ่อเฒ่า วัย 65 ปี คว้าปืนยิงสาวใหญ่วัย 56 ปีกลางหมู่บ้าน

สิ้นใจแล้ว! เมียช็อกเสียชีวิต ไตวายเฉียบพลัน หลังจุ๊บคืนดีกับผัว

ผัวจุ๊บเมียโชว์ผ่านสื่อ หลังไฟเขียวให้มีสาวคนใหม่ได้

จากสอบสวนคาดว่าผู้ตายทะเลาะกับแฟนสาวที่กำลังเตรียมจะแต่งงานกัน จึงทำให้ความเครียดแล้วตัดสินใจก่อเหตุ โดยชาวบ้านใกล้เคียงยืนยันว่าได้ยินเสียงปืน 2 นัด ดังมาจากบ้านที่เกิดเหตุ และแม่ผู้ตายยืนร้องไห้ตลอดเวลา

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านหลังเดียวตั้งอยู่ภายในสวนต้นยาง ครอบครัวได้เช็ดคราบเลือดบริเวณพื้นหน้าบ้านออกไปหมดแล้ว พบรูกระสุนบนหลังคายิปซัม 1 รู

นางมาลี อรุณมาศ อายุ 60 ปี แม่ของผู้ตาย บอกว่า ลูกชายตนรู้จักกับนาวสาวดาว (นามสมมติ) แฟนสาว มานานกว่า 15 ปี จากสถานที่ทำงานที่ต่างจังหวัด แต่เพิ่งจะคบกันได้เกือบ 1 ปี หลังจากที่ลูกชายเลิกกับแฟนเก่าและสามีของนางสาวดาวเสียชีวิต จากนั้นนางสาวดาวก็ได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของตน มักจะมาอยู่ค้าง 2-3 วัน แล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลูกชายตนมักจะทะเลาะกับนางสาวดาวอยู่เป็นประจำเรื่องหึงหวง นางสาวดาวจะให้ลูกชายตนเปิดกล้องพาดูรอบบ้านว่ามีผู้หญิงคนอื่นอยู่ด้วยหรือไม่ ซึ่งหลังการทะเลาะกันนางสาวดาวก็มักจะเก็บเสื้อผ้าหนีกลับกรุงเทพฯ ทุกครั้งเป็นเรื่องปกติ แต่ในวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักถึงขั้นที่นางสาวดาวเก็บของใช้ออกจากบ้านด้วย สาเหตุของการทะเลาะกันมาจากลูกชายตนจะออกไปกินข้าวกับเพื่อน ชวนนางสาวดาวไปด้วย แต่ไม่ยอมไป จึงทะเลาะกัน

จากนั้น วันที่ 16 ก.ย. ครอบครัวก็ได้รวมตัวกินข้าวเย็นที่ร้านอาหาร ลูกชายของตนมีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นในวันที่ 17 ก.ย. ตนได้ออกจากบ้านไปพร้อมสามีฝรั่ง พ่อเลี้ยงของลูกชาย ในเวลา 14.00 น. เพื่อเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศิริราช ลูกตนที่อยู่บ้านตามลำพัง พิมพ์ข้อความคุยเล่นกับเพื่อน ๆ ในช่วงเวลาประมาณ 21.00 - 21.45 น. จากนั้นก็ได้เกิดเหตุขึ้น ซึ่งตนติดใจว่าทำไมนางสาวดาวถึงไม่โทรศัพท์มาแจ้งเหตุกับตน ตนไม่อยากจะเชื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากลูกชายของตนนับถือศาสนาพุทธอย่างเคร่งครัด ชาวบ้านยังแซวว่าลูกชายตนอาจจะบวช ลูกชายตนเชื่อว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาปกรรมที่สุดของมนุษย์ อีกทั้งลูกชายตนยังมีนิสัยใจดีใจเย็น ไม่มีความเครียด นอกจากเรื่องความรัก ซึ่งมักจะบ่นกับคนรอบข้าง แต่ตนเชื่อว่าลูกชายไม่น่าจะเครียดถึงขั้นฆ่าตัวตายได้

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ผู้ตายมาปรึกษาด้วยว่า นางสาวดาวชอบหึงหวง ขี้หึง ทำอะไรก็หึงไปหมด แต่ผู้ตายก็รักนางสาวดาว จึงอดทนเพื่อความสัมพันธ์ ส่วนเรื่องแต่งงานนั้น ลูกชายตนและนางสาวดาวคุยกันมาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากนางสาวดาวอายุ 40 ปี แล้ว อีกทั้งยังย้ายมาอยู่กับลูกชายของตน ครอบครัวฝ่ายหญิงจึงอยากให้แต่งงานตามประเพณี

ลูกชายตนเพิ่งจะไปสู่ขอนางสาวดาวเมื่อวันที่ 11 ก.ย. สินสอด 2 แสนบาท และทอง 4 บาท ซึ่งมีงานแต่งงานจะจัดขึ้นในเดือนมกราคมปี 2564 โดยตนเพิ่งมาทราบในวันเกิดเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านางสาวดาวตั้งครรภ์ ตนยิ่งไม่เชื่อว่าลูกชายตนจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากลูกชายตนคงจะไม่อยากให้ลูกกำพร้าพ่อ

ตนยอมรับว่าปืนที่ถูกใช้ก่อเหตุเป็นปืนของตนที่ถูกเก็บไว้ในตู้ข้างเตียงไว้ใช้ป้องกันตัวจากโจรขโมย เนื่องจากบ้านของตนเป็นบ้านเดี่ยวตั้งอยู่ในสวนยาง ลูกชายของตนยังเคยพูดกับตนว่า "แม่ขี้น้อยใจ เดี๋ยวน้อยใจก็ยิงตัวตายหรอก" ตนไม่คิดว่าลูกชายจะใช้ก่อเหตุเอง ตนสงสัยว่าทำไมกระสุนปืนของตนถึงถูกใช้ 2 นัด โดยบริเวณหลังคาพบรูกระสุน 1 รู ตนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วลูกชายตนกับนางสาวดาวอาจมีการยื้อแย่งปืนกันจนปืนลั่น 1 นัด แล้วนัดที่ 2 พลาด ทำให้ลูกชายตนเสียชีวิตหรือไม่ แต่ตนไม่อยากปรักปรำใคร ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนคดีให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ ลูกชายเคยพูดเล่นกับตนว่า นางสาวดาวมีดวงกินผัว เนื่องจากสามีตายด้วยโรงมะเร็งถึง 2 คน "ผมจะเป็นรายที่ 3 ไหม" ตนที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งจึงไม่ได้คัดค้านงานสู่ขอ เนื่องจากลูกชายอยากแต่งงาน ไม่คิดว่าลูกชายจะตายจริง ๆ

นางสาวดาว (นามสมมติ) อายุ 40 ปี แฟนผู้ตาย เล่าว่า ตนทะเลาะกับผู้ตายจึงได้เก็บของออกจากบ้าน สาเหตุที่ทะเลาะกันมาจากปัญหาสะสมหลายอย่างทั้งปัญหาส่วนตัวของผู้ตาย ปัญหาความสัมพันธ์ และปัญหาทางครอบครัวผู้ตาย โดยในวันเกิดเหตุ ผู้ตายอยู่บ้านเพียงคนเดียว นั่งดื่มสุราตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ตนได้โทรศัพท์บอกผู้ตายให้ขับรถมาหาตนที่กรุงเทพฯ แต่ผู้ตายไม่มา ตนจึงขับรถมาหาผู้ตายเอง

เมื่อตนมาถึงบ้านผู้ตายในเวลาประมาณ 21.40 น. ตนได้เดินไปเข้าห้องน้ำแล้วบอกพูดตายว่า "เราเป็นผู้หญิง เราขับรถมาหาเธอได้ แต่ทำไมเธอไม่ไปหาเรา" ซึ่งผู้ตายได้ตอบว่า "จะให้ทำยังไง" จากนั้นตนและผู้ตายก็ทะเลาะกันในปัญหาเก่า ๆ จากนั้นผู้ตายได้หยิบขวดเบียร์มาเขวี้ยง ตนจึงตัดสินใจเดินไปหยิบเสื้อผ้าในรถ เพื่อจะได้เข้าไปพักผ่อนภายในบ้าน แต่ขณะนั้น ผู้ตายได้เข้าไปหยิบปืนออกมาจากในบ้าน และเอามายิงศีรษะตัวเองจนเสียชีวิต ตนขอยืนยันไม่มีการยื้อแย่งปืนเกิดขึ้น

ซึ่งตนเดาไม่ออกว่าปัญหาอะไรที่ทำให้ผู้ตายถึงขีดสุดแล้วตัดสินใจก่อเหตุ ทั้งที่ผู้ตายรู้มาตลอดว่าตนตั้งครรภ์ ผู้ตายได้มาสู่ขอตนแล้ว แล้วจะแต่งงานในเดือนมกราคมปี 2554 ตนได้คุยกับผู้ตายถึงการถ่ายพรีเวดดิ้งและการฝากครรภ์แล้ว แต่ตอนนี้ตนถูกครอบครัวผู้ตายกล่าวหาว่าเพราะตนหนีกลับบ้านจึงทำให้ผู้ตายเครียดแล้วคิดสั้น แต่ตนยืนยันได้ว่าตนบริสุทธ์ใจ ไม่รู้ว่าภายในบ้านมีปืน ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ตนรักผู้ตายมาก แต่ผู้ตายเป็นคนอารมณ์ร้อน จึงอาจจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้

คอนเทนต์แนะนำ

หม่ำ จ๊กมก น้ำตาคลอ เสิร์ฟอาหารอีสาน ให้กำลังใจญาติเหยื่อตึกถล่ม

ดีเอสไอ เปิด 24 ตู้คอนเทนเนอร์ รวบรวมเอกสารการก่อสร้างตึกสตง.

ตะครุบโจรชิงทอง 50 บาท หนีได้ไม่ไกล เหตุลงบันไดเลื่อนย้อนศร