สลด! นักท่องเที่ยวเมืองผู้ดี พลัดตกท่อป่าตองดับ

สลด! นักท่องเที่ยวเมืองผู้ดี พลัดตกท่อป่าตองดับ ภาพวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน ขาดอากาศหายใจ ญาติไม่ติดใจสาเหตุเสียชีวิต 

วันที่ 20 พ.ย. 67 ร.ต.อ.พงศธร โพธิ์ทอง รองสว.(สอบสวน ) สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุพบศพอยู่ในคูน้ำ สี่แยกโรงพยาบาลป่าตอง บริเวณถนนพระเมตตา ตรงข้ามโรงพยาบาลป่าตอง ขอให้เดินทางไปตรวจสอบ 

คอนเทนต์แนะนำ

ที่สุดแห่งปี 2567 อุทกภัยใหญ่เหนือสุดยันใต้สุด ฤดูหนาวมาพร้อมน้ำท่วม

นาที ดีเจแมน ได้รับอิสรภาพ เผยอยากเจอลูกสาวที่สุด

แม่ร่ำไห้รับศพ แบงค์ เลสเตอร์ เอ็ม-เบิร์ด ขอสังคมอย่าหากินกับคนตาย

หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ ผกก.สภ.ป่าตองทราบ พร้อมประสานมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตอาสาสมัคร และแพทย์นิติเวช รพ.วชิระภูเก็ตรุดไปที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นสถานที่เกิดเหตุไว้ และได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบเป็นช่องท่อน้ำบนฟุตบาท มีแผงเหล็กกั้นสูงประมาณ 1 เมตร ภายในท่อพบศพสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว เชื่อว่าเป็นเพศชายลอยอยู่ในท่อดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด สัญชาติใด ศพอยู่ระหว่างเก็บกู้โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ เพื่อนำร่างขึ้นมาให้แพทย์ทำการชันสูตร 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อสืบทราบพฤติการณ์แห่งการตายในครั้งนี้ โดยละเอียดภายหลังเมื่อนำร่างศพขึ้นมาแล้ว นพ.ตุลยวิชญ์ วรรณศรี แพทย์นิติเวช ได้ทำการชันสูตรพลิกศพแล้วเป็นเพศชาย ทราบชื่อผู้ตายภายหลัง ชื่อนายเฟรเซอร์ ไรท์ (MR.FRASERW RIGHT) สัญชาติอังกฤษ อายุ 36 ปี ไม่พบร่องรอยบาดแผลตามร่างกาย และได้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 ชั่วโมง เชื่อว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ 

พนักงานสอบสวนสอบถาม น.ส.เคที่ อิสาเบล (Miss.Katie Isabel) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นญาติของนายเฟรเซอร์ ไรท์ ผู้ตาย ทราบว่านายเฟรเซอร์ ไรท์ ผู้ตายและครอบครัวรวม 3 คน เดินทางมาเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 67 และพักอาศัยอยู่ที่โรงแรม ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 67 เวลาประมาณ 22.00 น. นายเฟรเซอร์ ไรท์ ผู้ตายได้หายออกไปจากห้องพัก และไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งวันที่ 20 พ.ย. 67 พนักงานสอบสวนได้ติดต่อให้ญาติทราบ และเดินทางมาตรวจสอบศพนายเฟรเซอร์ ไรท์ ผู้ตาย 

โดย น.ส.เคที่ อิสาเบล ยืนยันว่าเป็นญาติของตนจริง และไม่ติดใจในสาเหตุการตายในครั้งนี้ เนื่องจากได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุแล้วไม่พบว่าผู้ใดทำร้ายร่างกายผู้ตาย 

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ส่งศพไปยัง รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง แล้วลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานสถานทูตให้ทราบต่อไป