จากกรณีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย เศรษฐินีที่ใช้ชีวิตอยู่กับสามีในประเทศฝรั่งเศส เป็นโจทก์แจ้งความเอาผิด นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน เดินทางเข้าพบตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่นาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าให้ปากคำกับตำรวจก่อนหน้านี้ อ้างว่าทนายตั้มได้ใส่ชื่อตัวเองลงไปเป็นผู้จัดการมรดกของเจ๊อ้อย เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นกระบวนการฉ้อโกงหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลานานกว่า 12 ชั่วโมง
จนกระทั่งเวลา 22.30 น. วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.จตุพรพร้อมผู้ติดตามอีก 3 คน เดินลงมาจากอาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า จะเดินหน้าดำเนินคดีกับ ทนายตั้มให้ถึงที่สุด พร้อมระบุว่าจะเดินทางกลับที่ประเทศฝรั่งเศสในวันนี้
ขณะที่ พล.ต.ต.ตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า กรณีเชิญ น.ส.จตุพร มาให้ปากคำเพิ่มเติม มุ่งเน้นไปในเรื่องของตรวจสอบคำให้การก่อนหน้านี้ว่ามีส่วนใดขาดตกบกพร่อง เพื่อให้สำนวนการสอบสวนครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนประเด็นเรื่องการทำพินัยกรรมที่ให้ ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดกนั้น ในการสืบสวนที่ผ่านมาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่วันนี้อาจสอบถามเพิ่มเติมว่า พินัยกรรมเกี่ยวข้องกับคดีในส่วนใดหรือไม่ ทั้งนี้การเชิญให้ปากคำวันนี้มีเพียง น.ส.จตุพรที่ตำรวจนัดหมายเพียงคนเดียวเท่านั้น
Advertisement