วันที่ 20 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวผ่านรายการนิวส์อาว (NewsHour) เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ตอนหนึ่งถึงนาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้มว่า นายโอ๋ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของทนายตั้มเคยเปิดเผยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี เจ้าตัวเคยไปทำพิธีจุดเทียนชัย ที่วัดพระสิงห์ จ.เชียงราย
หลังจากทำพิธี ทนายตั้มก็ได้มาพบกับ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย รวมถึงทนายตั้มเคยไปบอกนายโอ๋ว่าได้เงินมา 71 ล้านบาท ซึ่งในการทำพิธีจุดเทียนแต่ละครั้ง ทางทนายตั้มต้องเสียเงินค่าพิธีครั้งแรก 30,000 บาท หลังจากนั้นก็ต้องไปจุดเทียนชัยรายสัปดาห์ ครั้งละ 10,000 บาทอีก ไม่รู้ว่าต้องทำอีกกี่ครั้ง ซึ่งหลังจากทนายตั้มเจอเจ๊อ้อยประมาณ 4-5 เดือน พระที่เป็นผู้ทำพิธีก็ถูกสั่งปลด เพราะมีภาพหลุดว่าพระรูปดังกล่าว และพระอีก 4 รูป ไปเล่นพนันที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แถมยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางอยู่ข้างๆ ซึ่งข่าวถูกสั่งปลดออกมาในช่วงวันที่ 12 ต.ค. 66
ต่อมาพระที่วัดห้วยปลากั้ง ได้ทำนายดวงทนายตั้มว่าจะติดคุก รวมถึงทำนายว่าคู่กรณีของทนายตั้มเป็นคนที่มีบุญเยอะ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพระภิกษุที่ทนายตั้มไปประกอบพิธีจุดเทียนเป็นหนึ่งในพระภิกษุ 2-3 รูปที่เคยก่อเรื่องไปเล่นการพนันน้ำเต้าปูปลา มะโขกโหลกและบาคารา รวมทั้งมีแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คล้ายเบียร์อยู่บนโต๊ะ ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2566 มีตำแหน่งเป็นระดับเลขานุการรองเจ้าคณะภาคและเจ้าอาวาสวัดที่ อ.เมืองเชียงราย ต่อมามีผู้นำภาพเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ปีเดียวกันนั้น ทางคณะสงฆ์ได้มีการลงโทษทางวินัยต่อเจ้าคณะตำบล 1 รูป เจ้าอาวาสวัด 2 รูป และพระลูกวัดอีก 2 รูป โดยให้ทุกรูปพ้นจากตำแหน่งเดิมและให้พ้นจากสังกัดวัดเดิมด้วย
พระลูกวัดพระสิงห์รูปหนึ่งกล่าวว่า เมื่อปี 2566 ทนายตั้มมักไปทำบุญที่วัดปีละ 1-2 ครั้ง และร่วมพิธีทำบุญสืบชะตารวมทั้งมีความสนิทสนมเป็นส่วนตัวกับพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นการส่วนตัวด้วย โดยหลังจากพระภิกษุรูปดังกล่าวถูกลงโทษเรื่องที่ จ.ท่าขี้เหล็ก แล้วก็ออกจากวัดไปพักใหญ่จากนั้นก็ได้กลับไปอยู่วัดเดิม
Advertisement