จากกรณีที่มีภาพหลุดซึ่งเป็นภาพลักษณะคล้ายพระภิกษุสงฆ์สวมใส่หมวกไหมพรม คุยวิดีโอคอลกับหญิงสาวปริศนา โดยทางชายที่คุยวิดีโอคอลถอดเสืัอต่อมาปรากฏภาพโชว์อวัยวะเพศซึ่งภาพสยิวดังกล่าวได้ถูกส่งต่อให้กับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่
ล่าสุดวันนี้ (21พ.ย.67) ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 12 ตำบลวังตะเคียนอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ได้นัดรวมตัวกันที่วัดแห่งหนึ่งภายในพื้นที่ เพื่อทำการสอบถามกับทางเจ้าอาวาสวัดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยได้เชิญปลัดอาวุโสอำเภอกบินทร์บุรี พร้อมด้วยผู้นำชุมชนร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมซักถามกับเจ้าอาวาส ผู้ที่ปรากฏในภาพสยิวดังกล่าว
โดยพระอธิการ อายุ 56ปี เจ้าอาวาส บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้น เมื่อช่วง 20.30 น. ของวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนั้นกำลังที่จะอาบน้ำ ได้มีวิดีโอคอลทักเข้ามาหา ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เคยพูดคุยกัน อ้างว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นข้าราชการครู ที่ทักมาหา
ขณะที่คุยวิดีโอคอลนั้น ก็ไม่ได้เห็นใบหน้าของผู้หญิงที่โทรเข้ามาโดยขณะที่วิดีโอคอลอยู่นั้น อาตมาก็กำลังเปลือยกายอยู่โดยหลังจากที่คุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ออกจากห้องน้ำ ก่อนจะรู้สึกเอะใจว่า เขาสามารถที่จะอัดคลิปของตนไปแบล็คเมล์ได้หรือไม่พอผ่านไปสักพัก ประมาณ 5-10 นาที ทางผู้หญิงที่คุยวิดีโอคอลก็ได้แคปรูปภาพพร้อมแคปเพื่อนที่อยู่ในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นคณะสงฆ์และคนที่รู้จักส่งมาให้ดู และบอกว่าหากไม่อยากให้นำคลิปหรือรูปภาพที่แคปไว้ไปเผยแพร่ ให้โอนเงิน 50,000 บาท ทางฝั่งนั้นจะลบคลิปลบภาพออกให้หมด หลังจากนั้นจึงมั่นใจว่า น่าจะเป็นมิจฉาชีพ ที่มาหลอกคุย
แต่หลังจากตั้งสติได้ จึงคุยกับไวยาวัจกรวัด ว่าคงโดนแบล็คเมล์ จึงเดินทางไปแจ้งกับทางเจ้าคณะอำเภอ และเดินทางไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ชาวบ้านได้สอบถามกับทางเจ้าอาวาสวัด ว่าคนที่ปรากฏในภาพนั้นเป็นเจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และทำไมเจ้าอาวาสถึงรับโทรศัพท์ในขณะที่กำลังอาบน้ำ ซึ่งทางเจ้าอาวาสก็ยอมรับว่าควบคุมสติตัวเองไม่ได้ และยอมรับผิดในเรื่องนี้
ส่วนอวัยวะเพศที่ปรากฏในภาพนั้นยืนยันว่าไม่ใช่อวัยวะเพศของอาตมา เป็นภาพที่ถูกตัดต่อนำมาเผยแพร่ พร้อมทั้งกล่าวเพิ่มเติมว่า พระในพื้นที่ของอำเภอกบินทร์บุรีก็โดนกลุ่มมิจฉาชีพจำพวกนี้ได้กระทำเช่นเดียวกันและเสียเงินมาแล้วร่วมแสน
ทั้งนี้ทางผู้สื่อข่าวยังได้ทำการสอบถาม ประธานสงฆ์บ้านโนนเจริญ ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า อาตมาก็ถูกมิจฉาชีพแบบนี้โทรมาหาลักษณะเดียวกันกับเจ้าอาวาส โดยได้มีการวิดีโอคอลlมาชักชวนพูดคุย จากนั้นทางฝั่งที่โทรมาได้ถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ พร้อมเล่นเสียวโชว์ต่อหน้า โดยจะพยายามให้ทำตามคำสั่งที่เขาบอกคือช่วยเหลือตัวเองโชว์ผ่านหน้าวิดีโอคอล แต่โชคดีที่มีสติและคิดได้จึงไม่หลงกล
ด้านนายกฤษณพงศ์ สีวิจิตร อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ได้กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องมาจากกลุ่มบุคคลหนึ่งที่รู้จักกันและทราบเรื่องมาจากนักข่าวว่าทางสำนักพุทธ ได้ส่งภาพมาให้โดยเรื่องที่กล่าวมานั้นทราบตั้งแต่วันที่13-14 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนรูปภาพเพิ่งได้มาเมื่อวานนี้(20-พ.ย)ซึ่งหลังจากที่เห็นภาพแล้ว คนที่ปรากฏในภาพด้านบนนั้น คิดว่าใช่เจ้าอาวาสที่อยู่ในวัด ส่วนภาพด้านล่างตนไม่แน่ใจว่าเป็นภาพของเจ้าอาวาสหรือไม่
โดยหลังจากที่ชาวบ้านเห็นภาพดังกล่าว ก็เริ่มเสื่อมศรัทธาจนวันนี้จึงได้รวมตัวกันหาความจริง สอบถามกับทางเจ้าอาวาสว่าใช่อย่างที่ปรากฏในคลิปหรือไม่
ถ้าหากตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องจริง ถือว่าไม่เป็นการเสพเมถุนแต่เป็นโลกวัชชะ และอีกหนึ่งเรื่องที่ชาวบ้านยังแคลงใจ ก็คือเรื่องของการเงินภายในวัด ซึ่งจะได้มีการประชุมจัดตั้งคณะกรรมการควบคุมบัญชีภายในวัด โดยเดือนที่ผ่านมาทางชุมชนได้จัดกฐินสามัคคีได้เงินมาเกือบ 600,000 บาท จึงอยากจะตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
ส่วนทางด้านนายธวัชชัย บุพลับ ปลัดอาวุโสอำเภอกบินทร์บุรี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากร่วมเป็นสักขีพยาน ว่า หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปของเจ้าอาวาสวัด ก็ได้เดินทางมาร่วมพูดคุยกับทางชาวบ้าน โดยทางหลวงพ่อก็ได้ยอมรับว่ามีการวิดีโอคุยกับทางสีกาจริง ส่วนในเรื่องของการวินัยสงฆ์หรือไม่ ทางอำเภอก็จะนำเรื่องไปแจ้งทางคณะอำเภอ และนำเรื่องไปพูดคุยกับทางสำนักพุทธว่าทางสำนักพุทธและทางอำเภอจะสามารถป้องกันหรือแก้ไขเพื่อที่จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในพื้นที่ส่ วนในเรื่องการบริหารจัดการวัด ทางอำเภอจะได้พูดคุยร่วมกับทางผู้ใหญ่บ้านก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการดูแลวัดต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการลงโทษทางวินัย ต้องรอเจ้าคณะอำเภอและสำนักพุทธลงมาทำการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
Advertisement