วันนี้ (25 พ.ย.67) นายสิระ เจนจาคะ อดีตสส. พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ขอหมายศาลออกหมายจับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ข้อหาร่วมกัน ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ว่า การออกหมายจับครั้งนี้เป็นคดีที่ดีเอสไอเห็นว่ามีข้อมูลเส้นทางการเงินของดิไอคอน ซึ่งเข้าข่ายความผิดข้อหาฟอกเงิน โดยเรื่องนี้ตนมองว่ามีหลายประเด็น ประการแรก ดีเอสไอดำเนินการถูกต้องในประเด็นข้อหาฟอกเงิน ตนรู้สึกสงสารแม่ของเขาที่มีลูกชายแบบนี้ ทำให้แม่ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน
ทั้งนี้ยังมองว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมหลบหนี และจากที่ทราบข้อมูลมาหลังจากดีเอสไอตรวจคนบ้านพัก ปรากฏว่าห้องนอนยังมีการเปิดแอร์อยู่ และยังทราบว่าเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) เขายังอยู่บ้าน ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าในดีเอสไอจะมีเกลือเป็นหนอนหรือไม่ และที่หนอนในดีเอสไอกล้าทำแบบนี้ คาดว่าเมื่อตอนนายสามารถ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีความใกล้ชิดกับคนในป่า หรือเจ้าหน้าที่รัฐ จึงอาจจะมีการช่วยเหลือในส่วนนี้ จึงอยากให้ทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการตรวจสอบว่ามีเกลือเป็นหนอนในองค์กรหรือไม่
ส่วนที่นายสามารถ ต้องหลบหนีไม่ใช่เพราะคดีของดิไอคอน แต่ทราบว่าอาจจะโดนเพิ่มอีก 1 คดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการกล่าวอ้างว่าสามารถจ่ายเงินดูแล ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับดีเอสไอ แต่จะดำเนินการโดยกองบังคับการปราบปราม ซึ่งมีการทำหนังสือให้ตรวจสอบว่าตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน นายสามารถดำรงตำแหน่งอะไรบ้าง ซึ่งความผิดนี้เข้าข่ายมาตรา 148 กรณีเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเงินซึ่งมีโทษสูง จำคุก 7 ปี ถึงประหารชีวิต
ส่วนประเด็นการเรียกรับเงินไม่ว่าบอสพอล จะเป็นผู้เสียหายหรือไม่ถือว่าไม่เป็นประเด็น เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดอาญาของแผ่นดิน
อย่างไรก็ตามเมื่อจับกุมตัวนายสามารถได้ อยากให้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมหลบหนีและอาจจะมายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้อยากให้ตรวจสอบในอดีต นายสามารถ เคยปรึกษานักกฎหมายรายหนึ่ง เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ได้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอย่างถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินก่อนรับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง มีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนซึ่งอาจจะมีการยื่นบัญชีเท็จตามหมายของป.ป.ช. แล้วจะได้เห็นชัดเจนว่าทรัพย์สินที่ได้ในปัจจุบันนี้ได้มาอย่างไร
ส่วนที่มีการระบุว่า นายสามารถ อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น นายสิระ ระบุว่า ตนเชื่อว่าดีเอสไอน่าจะตรวจสอบการเดินทางได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะการเดินทางทางอากาศหรือว่าทางรถ เมื่อถามย้ำว่านายสามารถ จะเข้ามอบตัวหรือไม่ มองว่ามี 2 ตัวแปร คือ นายสามารถ ยังเป็นห่วงและยังรักแม่หรือไม่ หรือหากเขารักตัวเองก็อาจจะหลบหนีไป
สำหรับประเด็นที่เกิดขึ้นจะสามารถเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นได้หรือไม่ โดยเฉพาะคนในป่า นายสิระ ระบุว่า มองว่าไม่น่าจะสาวไปถึงคนในป่า และเขาจะไม่สารภาพ และน่าจะจบที่เขาเพียงคนเดียว นอกจากประเด็นที่ถูกดีเอสไอออกหมายจับแล้วยังพบว่านายสามารถ ใช้บัญชีของแม่ทำธุรกรรมทางการเงิน 100 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นไปได้ว่าได้มาในช่วงที่มีความสนิทใกล้ชิดกับคนในป่า เจ้าหน้าที่รัฐระดับอธิบดียังเดินตามต้อยๆ
“ตนอยากฝากถึงนายสามารถว่า ถ้าให้การเป็นประโยชน์ก็อาจจะได้ลดโทษ แต่ตนยังไม่ทำถึงขนาดครูปรีชา ที่มีการหิ้วกาแฟโอเลี้ยงข้าวผัดไปเยี่ยมพร้อมฝากอีกว่าขอให้นายสามารถ ห่วงแม่ และดูแลแม่ด้วย เพราะตอนนี้ต้องคดีร้ายแรง และถ้ายังเป็นลูกที่ดีก็ควรมอบตัว”
Advertisement