วันนี้ (25พ.ย.67) เวลา 14.00 น.พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์ภายหลังนำหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 24 พ.ย.2567 เข้าจับกุมนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่ของนายสามารถ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสบคบกันฟอกเงิน จากคดีพิเศษที่ 115/2567 กรณี การฟอกเงินทางอาญา โดยในส่วนของแม่ของนายสามารถ ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนนายสามารถ ถูกจับกุมได้ที่ จ.เชียงรายล
พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า เช้าวันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในส่วนของคดีฟอกเงิน ได้ไปตรวจคนเป้าหมาย สถานที่ 2 แห่ง แห่งแรกเป็นหมู่บ้าน ในพื้นที่ตลิ่งชัน พรานนก แห่งที่ 2 คือซอยพญานาค เขตราชเทวี เพื่อค้นพบบุคคลซึ่งถูกออกหมายจับ และพบสิ่งของที่ใช้เป็นพยานหลักฐาน สืบเนื่องจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีฟอกเงิน จากการกระทำความผิด ของดิไอคอนกับพวกเป็นคดีพิเศษ หลังจากนั้นดีเอสไอ ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และพบว่ามีเงินจากการระดมทุนของสมาชิก ไปยังบริษัทและโอนต่อมายังบุคคลซึ่งถูกออกหมายจับในหลายทอดด้วยกัน
พฤติการณ์ดังกล่าว เป็นการโอนหรือรับโอน เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือเพื่อปกปิดอำพรางซุกซ่อน ลักษณะแท้จริง การได้มาของทรัพย์สิน เข้าข่ายเป็นความผิดอาญา ในฐานร่วมกันฟอกเงิน และส่งคบกันฟอกเงิน
โดยเมื่อเช้านี้ได้มีการควบคุมตัว บุคคลซึ่งถูกออกหมายจับ เบื้องต้น 1 รายเป็นนางวิลาวัลย์ มารดา ขณะนี้ได้นำตัวมา เพื่อดำเนินการ ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนอีกรายคือนายสามารถ ไม่พบ ในสถานที่พำนัก แต่ได้ติดตาม แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ประสานมาว่าได้พบตัวแล้ว ซึ่งคงจะมีการดำเนินการ นำตัวมาดำเนินคดี ในช่วงค่ำๆนี้
ส่วนการสอบปากคำนางวิลาวัลย์ แม่สามารถอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งยังให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของคำให้การได้
ส่วนเส้นเงินพบว่ามาจากการระดมเงินจากสมาชิกไปยังบริษัท และบริษัท ได้โอนต่อมายังผู้ต้องหาบุคคลหนึ่ง ก็คือบอสพอล หลังจากนั้นก็มีการโอน เงินต่อมายังนางวิลาวัลย์ แม่นายสามารถ
ส่วนที่ อ้างว่า เป็นเงินทำบุญ หรือเป็นเงินยืม พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า เราก็รับฟัง แต่ต้องช่างน้ำหนักว่าเชื่อถือได้หรือไม่ ว่าการรับโอนเงินในปริมาณที่จำนวนหลักแสน มาเป็นห้วงๆในทุกๆเดือน และเป็นเงินที่ตรงมาจากบริษัทที่เป็นผู้ต้องหาอยู่
โดยเงินที่โอนมายังนางวิลาวัลย์ มาจากหลายแหล่ง ซึ่งแหล่งที่โอนมาจาก ดิไอคอนพบ 2.5 ล้านโดยประมาณ ซึ่งโอนมาจาก บอสพอล
ขณะเดียวกัน ก็พบว่า บอสปีเตอร์ โดนมายังบัญชีนางวิลาวัลย์อีกนับสิบครั้ง รวมประมาณ 5 แสนกว่าบาท และยังพบว่ามีการโอนเงินมาจากแหล่งอื่น ๆ อีก รวมแล้วประมาณ 100 ล้าน ซึ่งเงินจากแหล่งอื่นๆที่โอนมา จะเกี่ยวข้องกับดิไอคอนหรือไม่ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่าเส้นเงินที่โอนมาจากดิไอคอน โอนมาตั้งแต่ปี 64 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการทยอยโอน มา 2 บัญชีประมาณ 15 ครั้ง
โดยครั้งล่าสุดโอนมาเมื่อปี 66 โดยแต่ละเดือน จะโอนยอดไม่เท่ากัน แต่อยู่ในหลักแสน ซึ่งมีทั้ง 100,000 บาท 300,000 บาท สูงสุด 500,000 บาท รวมยอดเงินเฉพาะจากบอสดิไอคอนประมาณ 3 ล้านบาท และจะมีการขยายผลว่ามีการโอนไปที่วัด ไหนหรือไม่ หากอ้างว่าเงินที่โอนมาเป็นการทำบุญ แล้วมีใบอนุโมทนา เราก็รับฟัง ซึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นมาเพื่อการแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งก็จะตรวจสอบได้ว่าทำบุญจริงหรือไม่
ส่วนที่ทนายบอสพอล บอกว่าไม่ ติดใจดำเนินคดี ไม่แจ้งความ แม่และนายสามารถ จะกระทบต่อการดำเนินคดีหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า ในความผิดอาญาฐานฟอกเงิน เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่จำเป็นที่จะต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ เจ้าพนักงาน เมื่อพบการกระทำความผิดแล้วก็จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นการตัดวงจรการกระทำความผิดด้วยในเรื่องมาตรการของการฟอกเงิน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของทางกระทรวงยุติธรรมและรัฐบาลที่จะปราบปรามกลุ่มการกระทำความผิดในลักษณะหลอกลวงแบบนี้ให้ใช้กฎหมายในทุกมิติเพื่อที่จะป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ส่วนที่ทนายบอสพอล บอกว่า เป็นความผิดที่ยังไม่ชี้ชัดว่าดิไอคอน ผิดหรือไม่ผิด แต่มีการฟ้องเรื่องฐานฟอกเงิน ซึ่งมองว่ามันไม่เป็นธรรมหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่าเราพิจารณาดูแล้วว่า การกระทำความผิดมูลฐานนั้น ก็มีหลักฐานในระดับหนึ่ง ขณะที่ศาลได้ออกหมายจับทั้งความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หรือความผิดตามพ.ร.ก.กู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็เป็นความผิด มูลฐานทั้งสิ้น เมื่อมีพยานหลักฐานมูลฐานแน่ชัดในระดับหนึ่งแล้ว การที่ได้ทรัพย์นั้นจากการกระทำความผิดมาโอนหรือเปลี่ยนแปลงสภาพหรือปกปิดอำพรางก็ถือว่าเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงิน
เมื่อนักข่าวถามว่า การที่จับตัวนายสามารถ ได้ที่จังหวัดเชียงรายเ ป็นการเตรียมตัวหนีออกนอกประเทศหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่าจากการตรวจค้นที่บ้าน พบว่าบ้านแอร์ยังไม่ปิด เสื้อผ้าก็เพิ่งถอดเปลี่ยน ก็คาดว่าอาจจะต้องการเดินทางไปต่างจังหวัดจริง หรือก็อาจจะรับทราบว่าจะมีการออกหมายจับ จึงเร่งรีบออกไป แต่เชื่อว่าน่าจะออกไปก่อนที่ เข้าค้นแต่ไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด
ส่วนนายสามารถจะรู้ก่อนหรือไม่ว่ามีการออกหมายจับ จึงทำทีไปทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า เรื่องนี้ไม่ทราบก็ต้องตรวจสอบ เพราะเขาสามารถจองตั๋วเครื่องบินไว้ก่อนล่วงหน้า อาจจะไปทำบุญจริงก็ได้ แต่อาจจะรับทราบข้อมูลหรือกระแสมา ก็เลยรีบออกไปก่อน ซึ่งคงต้องมีการสอบสวนเจ้าตัวอีกที
และยังไม่ปรากฏข้อมูล ว่าเจ้าตัวจะข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ทราบแต่ว่า มีข้อมูล จากการสืบสวน พบอยู่ที่เชียงราย จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
ส่วนจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่าพนักงานสอบสวน จะได้มีการประชุม และดูพฤติการณ์ต่างๆประกอบอีกครั้งเพื่อพิจารณา สวนพฤติการณ์ที่จะคัดค้านการประกันตัว ก็คือมีลักษณะการหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
โดยวันนี้ได้ตรวจยึดพยานหลักฐาน ซึ่งบ้านของแม่ผู้ต้องหา เป็นโทรศัพท์ 5 เครื่อง บ้านที่ตลิ่งชัน ยึดโทรศัพท์และรถตู้ Alphard 1 คัน และเอกสารเกี่ยวกับเรื่องบัญชีการเงิน และเอกสารที่ใช้เป็นพยานหลักฐาน
ส่วนแม่ของนายสามารถมีท่าทีเครียดหรือไม่ เพราะถูกออกหมายจับเลยไม่ได้มีหมายเรียกมาก่อน พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า “ไม่เครียดมั้งครับ แต่ผ่อนคลายหรือเปล่าไม่รู้”
Advertisement