หิ้ว “แม่-สามารถ” ฝากขัง ค้านประกันตัว ตะโกนลั่น ไม่ได้รับความเป็นธรรม
คุมตัว “แม่-สามารถ” ฝากขังศาลอาญา พร้อมคัดค้านประกันตัว แม่ตะโกนลั่น "ไม่ได้รับความเป็นธรรม" ขณะที่ สามารถ บอก "อยากพูดแต่พูดไม่ได้"
วันนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าว ระบุว่าตามที่ได้มอบหมายให้กองคดีฟอกเงิน ดำเนินการสอบสวนกับผู้โอนและรับโอนเงิน ที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานในคดีของบริษัท ดิไอคอน กับพวกต่อเนื่องจากเมื่อวาน (25พ.ย.67) ที่ได้มีการควบคุมตัว ดำเนินคดีกับนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ไว้แล้ว ซึ่งทั้งคู่ถูกออกหมายจับในข้อหาฟอกเงิน-สมคบฟอกเงิน
คอนเทนต์แนะนำ
และเมื่อคืนนี้ประมาณ 5 ทุ่ม ชุดจับกุมได้นำตัวนายสามารถ มาส่งให้กับพนักงานสอบสวนที่ทำการสอบสวน มีการดำเนินการตามกระบวนการ แจ้งสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทราบ และสอบปากคำ
เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้กระทำความผิดฐานฟอกเงิน อ้างว่าเป็นเงินยืมและเป็นเงินทำบุญ ตามที่นางวิลาวัลย์ ผู้เป็นแม่ให้ข้อมูล ในทำนองเดียวกัน และจะขอยื่นคำให้การแก้ข้อหาเป็นเอกสารภายใน 15 วัน
และภายหลังจากสอบปากคำเสร็จในวันนี้ ก็จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปฝากขังที่ศาลอาญา ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีมติร่วมกันแล้วว่า “คัดค้านการประกันตัว”
ส่วนเรื่องเส้นเงินที่โอนเข้ามาในบัญชีนางวิลาวัลย์ แม่นายสามารถ โอนมาเพราะอะไร พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า นายสามารถยังไม่ได้บอกเพราะจะชี้แจงเป็นเอกสารภายใน 15 วัน โดยรวมๆ นายสามารถอ้างว่าเป็นเงินที่ได้จากการทำบุญ และเงินกู้ยืม
โดยอ้างว่าเป็นเงินที่ยืมมาจากบอสพอล ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การในทำนองเดียวกัน และไม่ได้บอกถึงเหตุผลการกู้ยืม และส่วนหนึ่งก็เป็นเงินทำบุญ
ส่วนความเชื่อมโยงเส้นเงิน พบไปแตะใครบ้างหรือไม่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับคนที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า ซึ่งในขณะนี้ที่เกี่ยวข้องก็มีบุคคลที่ถูกออกหมายจับ และอีกคนหนึ่ง ที่ยังต้องสอบสวนดำเนินการ ก็คือบอสปีเตอร์ ที่มีเงินโอนมาประมาณ 500,000 บาท ส่วนคนอื่น หรือเงินที่มาจากบุคคลอื่นหรือแหล่งอื่นๆ ที่เข้ามายังนางวิลาวัลย์ ประมาณ 100 ล้านอยู่ระหว่างการสอบสวน
และขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อมูลว่านางสาวกฤษณ์อนงค์ สุวรรณวงศ์” เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง/กฤษอนงค์online/ศคอ.ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ เข้าไปเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับเส้นเงินนี้ด้วย
จากการสอบปากคำนางวิลาวัลย์ พบว่ามีอาการเครียดแต่ยังให้การไม่เป็นประโยชน์ ส่วนนายสามารถ ก็มีอาการเครียดบ้าง
และคำให้การของผู้ต้องหา ไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่มี เพราะมีการรับโอนเงิน ที่ได้มาจากการกระทำความผิดในลักษณะที่มีเจตนาปิดบังอำพราง เพราะเราเชื่อว่านายสามารถ เป็นผู้ใช้บัญชีนี้ แต่ว่ามีการโอนเงินผ่านมายังบัญชีนางวิลาวัลย์ ที่เป็นแม่ ถือเป็นการปกปิดอำพราง
ส่วนเหตุผลที่ทำไมนายสามารถ ถึงให้โอนเข้าบัญชีแม่ ไม่โอนเข้าบัญชีตนเองโดยตรง เพราะสนิทกับบอสพอล พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า ผู้ต้องหายังไม่ได้ให้การ ซึ่งคาดว่า ผู้ต้องหาจะให้การเป็นเอกสารภายใน 15 วัน แต่ตามพยานหลักฐาน เชื่อว่านายสามารถ เป็นคนถือบัญชีของนางวิลาวัลย์ ส่วนบัญชีนางวิลาวัลย์ เป็นบัญชีม้าของนายสามารถหรือไม่ ก็อาจเป็นไปได้
ส่วนหลักฐานในสำนวน มีคลิปเสียงประกอบสำนวน หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลยืนยัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวน
ส่วนกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าใน ดีเอสไออาจมีเกลือเป็นหนอน พ.ต.ต.ยุทธนา ยืนยันว่า ไม่มี แต่อาจจะมีคนเฝ้าสังเกตดูอยู่ก็ได้ ว่าเรามีความเคลื่อนไหวอย่างไร เพราะมัน ปรากฏเป็นข่าวอยู่สักพักแล้วว่า มีการตรวจพบบัญชีการเงินของตัวเขา เขาจึงมีความระมัดระวังตัว
ส่วนที่เมื่อวานนี้(25พ.ย.67)นายสามารถ บินไปที่จังหวัดเชียงราย มีการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า หรือบินไปอย่างเร่งรีบพ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า เรื่องนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นอ้างว่าไปทำบุญ เพราะตอนที่จับกุมได้ ก็ไปจับกุมได้ที่วัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงราย ส่วนจะมีพฤติการณ์หลบหนีออกนอกประเทศหรือไม่ ยังไม่ปรากฏข้อมูล ว่าจะออกนอกประเทศหรือไม่ รวมทั้งมีบุคคลอื่นเดินทางไปด้วยหรือไม่ก็ต้องสอบสวน และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการเตรียมสัมภาระเดินทางไปด้วย
ส่วนเส้นเงิน จะมีการนำเงินไปทำบุญที่วัดแห่งนี้ด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบ ว่ามีการทำบุญจริงหรือไม่ตามที่กล่าวอ้าง
จากนั้นเวลา 12.15 น.เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นางวิลาวัลย์ ออกมาเป็นคนแรก พร้อมกับยื่นกระดาษซึ่งเป็นจดหมายเขียนด้วยลายมือให้กับนักข่าว พร้อมตะโกนว่า "ไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นเงินทำบุญตั้งแต่ปี 64" ก่อนที่จะถูกคุมตัวขึ้นรถไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้ควบคุมตัวนายสามารถ ออกมา และบอกกับนักข่าวสั้น ๆ ว่า "อยากพูด แต่พูดไม่ได้"
Advertisement
