วันที่ 5 ก.พ. 68 พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการ ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 จัดกำลังพลร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารชปข.2 (ชุดปฏิบัติการข่าวที่2) และนฝด.11 (หน่วยเฝ้าระวังชายแดนที่11) ออกทำการลาดตะเวณป้องกัน และสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดนด้าน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายป้องกันเข้มชายแดนสกัดขบวนการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักลอบเข้า-ออกเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติของนายกรัฐมนตรี และกองทัพบก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมร้อย ทพ.1201ได้ตรวจพบชายต้องสงสัย สวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋าเป้สีฟ้า เดินเท้าลัดเลาะมาตามป่าละเมาะช่องทางธรรมชาติจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย ระหว่างจุดตรวจชายแดน จต.อ.20-จต.อ.21 ชายแดนบ้านท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงนำกำลังเข้าตรวจพบว่าเป็นชาวไทย ชื่อนายภาณุวัฒน์ ราชชมภู อายุ 34 ปี ชาวอ.เวียงชัย จ.เชียงราย ไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอนุญาตเดินทางเข้า-ออกประเทศแต่อย่างใด
โดยนายภาณุวัฒน์อ้างว่าถูกเพื่อนชาวเขมรหลอกไปสแกนหน้าบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในฝั่งปอยเปต เมื่อเสร็จกิจถูกไล่กลับจึงลักลอบข้ามแดนมาตามช่องทางธรรมชาติ และมาถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานจับกุมได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาร่วมกันซักถามที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการซักถามเบื้องต้นนายภาณุวัฒน์ อ้างว่าเป็นชาว จ.เชียงราย แต่มาทำงานที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม มีเพื่อนชาวกัมพูชาชื่อนายใสชักชวนให้ไปเที่ยวบ้านเกิดในกัมพูชา
โดยนายใสบอกให้นำสมุดบัญชีธนาคารติดตัวไปด้วย อ้างว่าจะหาเงินให้ตน จึงนำสมุดบัญชีธนาคารของตน ซึ่งมีอยู่ 3 บัญชี
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 68 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้มีคนไทยเพศชายขับรถโตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์ไม่ทราบทะเบียนมารับตนจากบ้านพักใน จ.นครปฐม บอกว่า นายใสว่าจ้างให้มารับในราคา 1,200 บาท จากนั้นคนขับได้จอดแวะที่ห้างสรรพสินค้าใน จ.ฉะเชิงเทรา และบอกให้ตนไปเปิดบัญชีธนคารเพิ่มอีก 1 บัญชี แต่ตนไม่ยอม จากนั้นคนขับรถได้ขับพาตนมาส่งที่หน้าห้างสรรพสินค้าตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วเวลาประมาณ 19.00 น. และได้เจอกับนายใสที่ยืนรออยู่
จากนั้นได้มีหญิงชาวไทยขี่รถจักรยานยนต์มารับไปส่งยังบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบพื้นที่ที่แน่นอน เนื่องจากโดนปิดตาด้วยผ้าสีดำ จากนั้นตนได้เดินเท้าข้ามช่องธรรมชาติออกไปฝั่งกัมพูชา โดยมีชาวเขมรขี่รถจักรยานยนต์มารับไปส่งที่พักของนายใส ซึ่งเป็นห้องแถว จากนั้นนายใสได้ยึดโทรศัพท์ และสมุดบัญชีธนาคารของตนไป โดยบอกว่าที่นี่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ และคุมขังบังคับให้ตนอยู่แต่ในห้องพัก ต่อมาวันที่ 3 ก.พ. 68 ได้มีชาวไทยนำโทรศัพท์ของตนมาทำการสแกนหน้าหลายครั้ง ต่อมาวันที่ 4 ก.พ. 68 เวลานายใสได้มาบอกตนว่าเสร็จภารกิจแล้วให้ตนกลับประเทศไทยได้ โดยนายใสได้พาตนมาที่ชายแดนช่องธรรมชาติแล้วให้ตนเดินเท้าข้ามชายแดนจากฝั่งปอยเปตกลับเข้าประเทศไทยจนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานจับตัวได้
หลังซักถามเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ ร้อยทพ.1201ได้ควบคุมตัวนายภาณุวัฒน์ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลว่าถูกหลอกลวงมา หรือมีส่วนร่วมกับขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ต่อไป
Advertisement