จากกรณี น.ส.ธณัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ เจ๊หนิง อดีตอาจารย์สอนพิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ร้องทุกข์กล่าวโทษ นาง ศิรินัดดา หักพาล มาดามกุ๊บกิ๊บ ภรรยาของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก อดีตรองผบ.ตร. ข้อหาลักทรัพย์ ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. โดยอ้างว่าทรัพย์สินที่ถูกลักทรัพย์คือ ทองคำหนัก 120 บาท และเงินสด 6 แสนบาท ซึ่งในภายหลังภรรยาของบิ๊กโจ๊กได้ประกันตัวชั้นพนักงานสอบสวน
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับที่ 1118/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 2567 ให้จับกุม น.ส.ธณัฏฐา หรือ เจ๊หนิง และหมายจับที่ 1119/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.2567 ของนายภีมพจน์ (สงวนนามสุกล) ซึ่งเป็นตำรวจและเป็นสามีของเจ๊หนิง และหมายจับที่ 1120/2567 ของนายพงษ์พัฒน์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นหลานเจ๊หนิง ในข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนเป็นการ เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 พ.ย. 67 ที่สน.พระโขนง เจ๊หนิง พร้อมสามีได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ๊หนิง กล่าวว่า ตนและสามีได้รับหมายศาล แจ้ง 2 ข้อหาคือ แจ้งความเท็จและกลั่นแกล้งผู้อื่นต้องโทษทางอาญา ส่วนที่มีข่าวว่าหลายชายถูกหมายจับด้วยนั้น ยืนยันว่าหลานเป็นพยานให้ตน ไม่ใช่คนที่แจ้งความ และยังไม่เห็นหมายจับ ทั้งนี้ในส่วนของสามีได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนแล้ว
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า ก่อนหน้านี้เป็นโจทก์ แต่ครั้งนี้ทำไมถึงมาเป็นจำเลยในคดีเดียวกัน เจ๊หนิง กล่าวว่า ตนก็สงสัยเหมือนกันว่าจากที่เป็นผู้เสียหาย ทำไมต้องมาโดนเป็นผู้ต้องหา ส่วนรายละเอียดตนยังไม่ทราบข้อมูล และรายละเอียดข้อกล่าวหา ยังรู้สึกงงเหมือนกัน ยิ่งมีหมายจับยิ่งงงเหมือนกัน ทั้งนี้ตนยืนยันว่ามีการลักทรัพย์ตนไปจริง และยืนยันว่าเรื่องทองมีหลักฐานการซื้อขายจริง ทั้งใบเซอร์และรูปทอง โดยตนจะให้หลักฐานในชั้นศาลเท่านั้น เพราะเราไม่สามารถส่งหลักฐานทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ จากประสบการณ์ที่เคยขึ้นศาลมาก็ต้องเก็บหลักฐานไว้บ้างเ เพราะขนาดตนยังไม่ได้ให้หลักฐานทั้งหมด รวมถึงใบเซอร์ของทองยังโดนหมายจับ ถามว่าความยุติธรรมอยู่ที่ไหน
เจ๊หนิง กล่าวว่า ยืนยันว่ามีทอง 120 บาทที่หายไป พร้อมเงิน 6 แสนบาทจริง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปทำแผนที่บ้าน และที่คอนโดหมดแล้ว ยืนยันว่าวันนี้จะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้แจ้งความเท็จ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะสู้คดี และตนเองคือผู้เสียหาย ซึ่งในวันนี้หลานของตนไม่ได้เดินทางมาด้วย เพราะไม่ได้หมายเรียกและหมายจับ ในส่วนของตนโดนหมายจับตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ย. 67 ถามว่าทำไมตนเพิ่งจะมามอบตัววันนี้ เพราะเขาเล่นนอกกรอบ ถ้าเล่นในกรอบตนไม่กลัว ตนโดนคุกคาม และไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ถูกสะกดรอยติดตาม และอาจจะมีการดักฟังโทรศัพท์ ทั้งก่อนและหลังออกหมายจับ อีกทั้งมีหมายเรียกแค่ 1 ครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ออกหมายจับเลย โดยไม่มีหมายเรียกครั้งที่ 2 วันนี้ก็ต้องแอบมามอบตัว
เมื่อถามว่า เหตุใดในคดีเดียวกันถึงมีหมายจับทั้งสองฝ่ายได้ ทนายความของเจ๊หนิง กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของเอกสาร ต้องเห็นเอกสารก่อน เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าเจ๊หนิง หรือภรรยาของนายพลตำรวจ ต้องมีคนใดคนหนึ่งโกหกใช่หรือไม่ เจ๊หนิง กล่าวว่า ใช่ค่ะ ต้องมีคนใดคนหนึ่งโกหก ตนก็รู้สึกงงเหมือนกันที่มีการออกหมายจับตนและคู่กรณีทั้งสองฝ่าย รายละเอียดต้องไปดูในเอกสาร ยืนยันว่าตนให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมด และมีหลักฐานทุกอย่าง แม้กระทั่งกระเป๋าใบสีดำ ทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ก็มาเก็บหลักฐานไปหมดแล้ว และยืนยันว่าหลายชายของตนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ยืนยันว่าพยานไม่ได้ให้การขัดกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นคดีอาญา เป็นเรื่องคุกตะราง ไม่มีการแต่งพยานเท็จแน่นอน และตนก็อยากทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงมีออกหมายจับตน
เมื่อถามว่า อยากให้สามีที่เป็นตำรวจออกมาชี้แจงบ้าง เจ๊หนิง กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะตนต้องเซฟสามี ยืนยันไม่มีการปิดบังอะไร แต่เพราะกลัวว่าจะกระทบการทำงานของเขา เนื่องจากเป็นข้าราชการ และตอนนี้โดนพักราชการทุกอย่าง รวมถึงตั้งกรรมการสอบวินัย
Advertisement