วันที่ 27 พ.ย. 67 นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดาของนาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน กล่าวในรายการ “โหนกระแส” ตอนหนึ่งถึงกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ดำเนินการจับกุมว่า ตนรู้สึกตกใจที่ถูกออกหมายจับ เพราะคิดว่าต้องมีหมายเรียกก่อน ซึ่งตนก็ทราบจากข่าวว่าจะมีการเรียกแม่ของสามารถมาสอบสวน ตนก็รออยู่ที่บ้าน หากมีหมายเรียกเมื่อไหร่ก็จะไปให้ปากคำ แต่เขาเล่นหมายจับเลย และมาตอน 7 โมงครึ่ง ตนยังไม่ตื่นนอนเลย
ตอนนั้นมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมากันเป็น 10 กว่าคน ค้นห้องและยึดมือถือตนไป 5 เครื่องสาเหตุที่มีโทรศัพท์มือถือเยอะ เพราะมีลูกศิษย์เยอะ เนื่องจากตนทำอาชีพรับดูดวง ซึ่งตนก็รู้มาตลอด ตอนนี้โดนทั้งราหู และดาวเสาร์เล่นงาน แต่ตนก็ไม่ได้รู้สึกเครียดเพราะเราไม่ผิด เมื่อวานจึงเขียนจดหมายออกมาถามว่าใครคือผู้เสียหาย เพราะยังไม่มีใครเดือดร้อนกับเราเลย แต่มาจับเราและเล่นเราในข้อหาฟอกเงิน
นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า ตนไม่รู้เรื่องกฎหมาย ไม่เข้าใจว่าไปฟอกเงินตรงไหน เพราะตอนแรกก่อนเขียนจดหมายน้อยคิดว่าจะไม่ได้ออกมาจะคุกแล้ว ตนดูดวงตัวเอง ก็รู้มาตลอด ตนก็ไม่ได้เตรียมการอะไรเลย ยืนยันว่าจะต่อสู้
สำหรับตนโดนข้อหาคดีฟอกเงิน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าดีเอสไอมาแจ้งข้อกล่าวหานี้กับตนได้อย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า มีเส้นเงินจากบอสพอล ผู้ต้องหาคดีดิไอคอน โอนเงินมาที่บัญชีแม่จำนวน 2.5 ล้านบาท และมีบอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาคดีดิไอคอนอีกคน โอนมาอีก 5 แสนบาท รวมเป็น 3 ล้านบาท ซึ่งตนยืนยันไปในสำนวนแล้ว และเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการชั้นศาล ยืนยันได้ว่าการโอนเงินทั้งหมด 15 ครั้งนี้ เป็นเงินทำบุญ และเงินกู้ยืม ที่บอสพอลเองก็ได้เขียนจดหมายออกมาแล้วว่าเขาได้รับเงินครบแล้วทุกบาททุกสตางค์ มีลายเซ็นเขาเรียบร้อย
เมื่อถามว่า ธรรมดาแล้วนายสามารถใช้บัญชีธนาคารของแม่หรือไม่ นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า ไม่ได้ใช้ เมื่อถามอีกว่า แล้วทำไมบอสพอลต้องโอนเงินมาให้แม่ด้วย นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า เป็นเงินทำบุญ ซึ่งตนเป็นคนทำบุญ และทำบุญทุกเดือน ตนเป็นคนใจบุญ และเรื่องนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ ปี 64 บอสพอลก็อยากร่วมทำบุญ เขาก็โอนมาโอนเงินมาในบัญชีตน จากนั้นก็ร่วมทำบุญกันต่อเนื่อ งซึ่งยืนยันว่าไม่รู้จักบอสพอลเป็นการส่วนตัว แต่เคยดูดวงให้บอสพอลด้วย ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังลงโดนดาวเสาร์เล่นงานอยู่
สมมติว่าเดือนนี้เขาทำบุญ 1 แสนบาท เขาก็จะโอนมา 1 แสนบาท ตั้งแต่ ปี 64 ถึง ปี 65 เป็นเวลาสองปีครั้งละ 100,000 บาทบ้าง ครั้งละ 50,000 บาทบ้าง แต่มีเงินยืมด้วย ซึ่งก็มีการกู้ยืมและคืนเงินไปทั้งหมด บอสพอลก็เซ็นหนังสือรับรองมาให้แล้วทั้งหมดอยู่ในกระบวนการชั้นศาล ไม่สามารถนำออกมาให้ดูได้
นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า ส่วนที่ทำไมไม่ขอยืมเงินจากนายสามารถนั้น เพราะนายสามารถไม่มีเงินให้ยืม ส่วนที่ทำไมมีบัญชีตนโอนให้เงินให้นายสามารถนั้น เป็นเงินที่ต้องการโอนคืนให้บอสพอลจากการที่ไปยืมเงินมา เพราะตนไม่มีเลขบัญชีของบอสพอล และเรื่องเหล่านี้ก็จบเรียบร้อยตั้งแต่ ปี 65 ถามว่าแล้วทำไมเอาเรื่อง ปี 65 โยงมา ปี 67 ในเมื่อเรื่องมันจบไปแล้ว
ส่วนเรื่องคลิปเสียงที่มีบทสนทนาระหว่างชายคนหนึ่งที่มีเสียงคล้ายกับมีเสียงคล้ายนายสามารถสนทนากับบอสพอลนั้น ตนไม่ขอตอบรายละเอียดว่าเป็นเสียงของใครส่วนที่ตนยังอารมณ์ดีอยู่นั้น เพราะคิดว่าปัญหามีไว้แก้ ต้องผ่านทุกอย่างไปให้ได้ และยืนยันว่าตนเองจะรอดจากวิกฤตครั้งนี้แน่นอน หลังจากที่ดูดวงของตัวเองแล้ว เพราะความยุติธรรมยังมีอยู่
นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนเขียนจดหมายน้อย 8 ข้อนั้น เพราะดีเอสไอคัดค้านการประกันตัว ยืนยันว่าตนเองไม่รับความเป็นธรรม และโดนกลั่นแกล้ง เมื่อโหนกระแสเป็นคนจุดไฟดิไอคอน ตนจะเป็นคนดับไฟนี้เองจึงมาออกรายการโหนกระแสในครั้งนี้
ส่วนที่มีข่าวว่านายสามารถเครียดมาก ไม่ยอมกินข้าวกินปลา ตนยืนยันว่าเป็นความจริง เพราะเขาต้องการประท้วงขอความเป็นธรรม เขาบอกว่าในเมื่อกระบวนการยุติธรรมไม่ให้ความเป็นธรรมกับเขา เขาก็จะอดข้าวอดน้ำ เพื่อประท้วง เพราะเขาคิดว่าเขาไม่ได้ผิดอะไร และปัญหาเกิดจากดิไอคอน ทีดิไอคอนก็ยังไม่โดนคดีฟอกเงินเลย แต่เราสองคนแม่ลูกโดนคดีฟอกเงินแล้ว เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาหลักแล้ว แต่ศาลก็ยังไม่ได้ตัดสินถือว่าเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่แม่ลูกโดนก่อนแล้ว ซึ่งจริงๆ ตนสามารถประกันตัวได้ชั้นดีเอสไอได้ แต่เขาไม่ให้ประกันตัว ทำให้ตนต้องนอนที่ดีเอสไอ 1 คืน แต่ตนได้รับการประกันในชั้นศาล
และยืนยันว่า นายสามารถไม่เคยคิดจะหนี เพราะหลังจากที่เกิดปัญหา เขาเดินสายไหว้พระทุกวัน เพื่อให้บุญช่วยกรรม ต้องการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป กรณีที่ไปจุดเทียนชัยวัดห้วยปลากั้ง หลวงพ่อให้ไปจุดเทียนชัยเขาจึงไป เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหนี เพราะสามารถรู้ตัว เขาก็ไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ
อย่างไรก็ตามจากนี้ก็จะต้องมีการต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป ตนยืนยันว่าตนไม่มีศัตรูกับใคร และไม่เคยให้ร้ายกับใคร และไม่เคยแก้แค้น ไม่เอาขยะปากคนอื่นมาเก็บไว้ในใจ ต่อให้โดนตบก็ไม่โกรธ ตนต้องถอยเ พราะต้องการผูกมิตร ยืนยันว่านายสามารถไม่ได้เอาชื่อบัญชีตนไปใช้ และยืนยันว่าไม่เคยให้มีการโอนเงินผ่านบัญชี ส่วนตัวตนมีสองบัญชี
ตนอาจจะไม่รู้เรื่องกฎหมาย และใครคือผู้เสียหายในเมื่อเงินคืนไปหมดแล้ว เรื่องนี้ตั้งแต่ปี 64-65 ฉะนั้นตนยังไม่เข้าใจประเด็นว่าใครคือใครคือผู้เสียหายตรงนี้ และเมื่อดีเอสไอมาฟ้องว่าตนฟอกเงินตนก็ถือว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม
นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเข้าโรงพยาบาล ตอนอยู่ที่เอสไอเพราะช็อก ความที่เราไม่เคยเจอ และคิดว่าฉันทำอะไรผิดเหรอ หลังจากโดนดีเอสไอจับ ตนก็รู้สึกรับไม่ได้ เพราะทำดีมาตลอด ทำไมต้องมาโดน จึงเกิดการร้องไห้ในห้องของดีเอสไอ แล้วก็เกิดการหายใจไม่ออก เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นก็เข้ามาช่วย หลังจากนั้นตนก็ชักเกร็งจากอาการเครียด ปากเบี้ยว จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ส่งตัวของตนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ทำการเจาะเลือด หน้าเบี้ยวแขนขายกไม่ได้ แต่หมอก็ช่วยรักษา ส่วนอาการหายดีขึ้น
เมื่อรู้ว่าไม่ได้ไปประกันตัวจากดีเอสไอก็ต้องไปศาลที่อาญาฯ จากนั้นตนก็ร้องไห้อีก ตลอดเวลาตนช่วยคนพ้นทุกข์มา 6,000 คน เพราะตนมีลูกศิษย์ดูดวงทั้งหมด 6,000 คนทุ กคนมีปัญหาชีวิตหมด ตนก็ช่วยแก้ปัญหาชีวิตให้ทั้งหมด พอถึงเวลาตัวเองทำไมต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้ ตนก็นำผ้าปูเตียงจับมาผูกคอแล้วเจ้าหน้าที่ดีเอสไอก็เข้ามาเห็นแล้วก็เข้ามาช่วย เขาก็เลยยึดผ้าอะไรไปทั้งหมด เขาก็บอกว่าตนไม่ได้ฆ่าคนตาย มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้ ขอให้กลับไปสู้ จึงเป็นที่มาของการเขียนจดหมายน้อย 8 ข้อทั้งหมดนี้
ขอบคุณข้อมูล : รายการโหนกระแส
Advertisement