เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 29 พ.ย. 67 ร.ต.ท.เดชนคร จันทร์ภูมิ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบเหตุ “ทรัส” หรือตัวยกแผ่นปูนที่ใช้สร้างทางยกระดับถนนพระราม2 ตอนที่1 ช่วงที่3 พื้นที่ กม.21+600–กม.22+100 ถนนพระราม2 ขาออกกรุงเทพฯ หมู่ที่4 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทอุดมศักดิ์เชียงใหม่ถล่มลงมา
เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายอภิวัฒน์ พะพันทาง อายุ 30 ปี กับนายชิงโกโก สัญชาติเมียนมา ส่วนอีก 1 รายยังไม่ทราบชื่อ
ขณะที่ผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลต่างๆ อีก 10 คน นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายที่ยังหาตัวไม่พบอีก 1 คน ส่วนที่เหลือ 25 คนได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยโดยรวมมีคนงานก่อสร้างที่กำลังทำงานอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุทั้งสิ้น 39 คน ซึ่งคนงานที่หนีออกมาได้อย่างปลอดภัยต่างก็ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว บางคนถึงกับเป็นลม เนื่องจากผู้เสียชีวิต หรือผู้สูญหายเป็นญาติ
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ ได้เข้าไปดูพื้นที่ พร้อมสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงานหัวหน้างาน และคนงานก่อสร้าง โดยเบื้องต้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า จุดที่เกิดเหตุนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม2 เกิดการถล่มลงมาจนมีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังประเมินความเสี่ยง และเข้าไปตรวจสอบหาผู้สูญหาย
ขณะที่ในส่วนของการจราจรบนถนนพระราม2นั้น ก็ขอให้ผู้ที่จะต้องสัญจรผ่านบริเวณมหาชัยเมืองใหม่มุ่งหน้าลงใต้ หรือเข้ากรุงเทพฯ หากหลีกเลี่ยงได้ขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวในระยะนี้ โดยจะเร่งปรับสภาพถนน เพื่อคืนพื้นที่การจราจรให้เร็วที่สุด
ด้านนายมนตรี วงศ์วิวัฒน์ รองผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร บอกว่าแต่เพียงว่าตอนนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ทำให้ทรัสถล่มลงมาได้ ซึ่งต้องรอให้ทางวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบเช่นเดียวกับเรื่องของการเข้าคลี่คลายพื้นที่ก็ต้องรอประเมินความเสี่ยงก่อนเช่นกัน
ส่วนหัวหน้าคนงานเล่าให้ฟังว่า ตอนเกิดเหตุนั้นทุกคนกำลังทำงานกันอยู่ด้านบนพอช่วงที่กำลังจะย้ายมาทำงานอีกข้างหนึ่งอยู่ๆ ตัวยกแผ่นปูนก็ถล่มลงมาโดยไม่มีสัญญาณใดๆ ทำให้ลูกน้องตกลงมาเสียชีวิต และบางคนเชื่อได้ว่าน่าจะถูกทับอยู่ใต้ซากคานที่ถล่มลงมา ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่จำได้คือภาพที่ลูกน้องตกลงมาเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.10 น. สารวัตรตำรวจทางหลวงนครปฐมขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้เส้นทางถนนพระราม2 จากทางภาคใต้ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางถนนพระราม2 ตั้งแต่จ.เพชรบุรี โดยให้ใช้เส้นทางเลี่ยงถนนเพชรเกษมแทน ส่วนรถที่มาจากกรุงเทพฯ จะเดินทางลงภาคใต้ให้ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม หรือถนนบรมราชธานีแทน
ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น จะมีวิศวกรจากบริษัทผู้รับจ้าง และสำนักก่อสร้างสะพานกรมทางหลวงเข้ามาตรวจสอบ และประเมินความเสียหาย และจะมีการเตรียมนำรถเครนขนาด 400 ตัน 1 คัน และ 200 ตัน 2 คันเข้าเคลียร์พื้นที่หลังประเมินเสร็จสิ้น ส่วนการจราจรบริเวณที่เกิดเหตุถนนพระราม2 มีการปิดช่องทางหลัก ให้ใช้ช่องทางขนานสภาพการจราจรรถหนาแน่นเคลื่อนตัวได้ช้า
สำหรับผู้สูญหายเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายงานว่าพบร่างติดอยู่ภายในซาก ไม่พบสัญญาณชีพ คาดว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จะทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิตต่อไป
Advertisement