Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
โป๊ะแตก! พ่อหอบลูกนั่งขายของเก่า ที่แท้หอบหนีหมายศาล

โป๊ะแตก! พ่อหอบลูกนั่งขายของเก่า ที่แท้หอบหนีหมายศาล

29 พ.ย. 67
17:54 น.
|
137
แชร์

โป๊ะแตก! พ่อหอบลูกนั่งขายของเก่าหาเงินเลี้ยงลูก ที่แท้หอบลูกหนีหมายศาล ด้านแม่ขอบคุณสื่อคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอหน้าลูกแล้ว

วันที่ 29 พ.ย.67 จากกรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอ พ่อพาลูกๆมาขายของเก่าที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. ช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม โดยในคลิปวิดีโอจะเป็นภาพ นายเกรียงศักดิ์ มะลิวัน อายุ 44 ปี ผู้เป็นพ่อ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน หมู่ 7 ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว จ.พะเยา นั่งขายของมือสองอยู่บริเวณริมฟุตบาทภายในปั๊มนำมัน กับน้องดวง (นามสมมติ) วัย 6 ขวบและน้องวาว (นามสมมติ) อายุ 20ปีลูกสาวบุญธรรม หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปทำให้มีคนเข้ามาดูและเห็นใจเป็นจำนวนมาก นั้น

จับโป๊ะพ่อพาลูกขอทาน

หลังจากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่มายัง ต.โคกสูง อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมาแล้วพบว่า นายเกรียงศักดิ์ และ ลูกทั้ง 2 คนได้นั่งขายของอยู่ริมข้างทาง สิ่งของที่ขายก็จะมีสลากกินแบ่งรัฐบาล แก้วน้ำ เคสโทรศัพท์มือถือ และตุ๊กตา รองเท้า

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเกรียงศักดิ์ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนอยู่กับลูกทั้ง 2 คน แบบนี้มาได้ 4 ปีครึ่งแล้ว หลังจากที่ตนเลิกรากับภรรยา เพราะภรรยาเป็นคนเก็บเงินเอาไว้ทั้งหมดแล้วไม่แบ่งให้กับตนใช้ จึงมีปัญหาแล้วแยกทางกันในที่สุด ซึ่งฝ่ายภรรยาได้เอาลูกคนโตไป 1 คน ส่วนตนเอาน้องดวง (นามสมมติ) ลูกคนเล็กมา หลังจากนั้นย้ายมาอยู่จังหวัดนครราชสีมาได้ประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมา แล้วมาขายล็อตเตอรี่ตามร้านอาหาร และของมือสองของต่างๆ ซึ่งตนมีรายได้เพียง 200-300 บาทต่อวัน จากการขายของ ส่วนที่พักก็เช่าอยู่เดือนละ 2,000 บาท ที่อำเภอโคกสูง

จับโป๊ะพ่อพาลูกขอทาน

ส่วนเด็กที่อยู่กับตนนั้นมีลูกชายแท้ๆของตน คือน้องดวง (นามสมมติ) อายุ 6 ปี ซึ่งน้องเป็นเด็กสมาธิสั้น เนื่องจากตนให้ดูการ์ตูนเยอะ และปัจจุบันก็ไม่ได้เรียนหนังสือ

ส่วนอีกคนคือน้องวาว อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นเด็กออทิสติก คนนี้เป็นลูกบุญธรรมของตน ตนรับมาเลี้ยงดู เนื่องจากคุณย่าของน้องได้เสียชีวิตไป ตนก็รับมาเลี้ยงดูต่อ เพราะไม่มีพี่หรือน้อง

ตอนนี้ตนต้องดูแลเด็กทั้ง 2 คน ซึ่งตอนนี้ตนอยากได้ความช่วยเหลือคืออยากให้น้องดวงลูกชายคนเล็กนั้นได้เรียนหนังสือ

โดยนายเกียงศักดิ์ ได้เอานำเนาบัตรประชาชนของ น้องวาว (นามสมมติ) มาให้ทีมข่าวดู ซึ่งบนกระดาษใบนั้นเขียนข้อความว่า นายเกียงศักดิ์ ได้รับน้องวาว มาดูแลในฐานะบุตรบุญธรรม ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากย่า ของน้องวาวเสียชีวิตไป

ต่อมาทีมข่าวได้ข้อมูลว่า นายเกรียงศักดิ์ นั้นมีหมายจับศาลเชาวชนและครอบครัวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากเคยฟ้องร้องแย่งบุตรกันกับภรรยา ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่นายเกรียงศักดิ์ ไม่ไปตามตำสั่งศาล จึงถูกออกหมายจับแล้วพาลูกหลบหนี ซึ่งแม่ของเด็กกำลังตามหาลูกชายวัย 6 ขวบอยู่

จับโป๊ะพ่อพาลูกขอทาน

นอกนี้ทีมข่าวยังได้ข้อมูลมาอีกว่า น.ส.วาว (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ไม่ใช่บุตรบุญธรรมตามกฏหมายของนายเกรียงศักดิ์ เพราะญาติของน้องวาว ได้มีการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สน.โชคชัย เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน2567 ที่ผ่านมาว่าน้องวาวได้หายตัวไป พร้อมกับนายเกรียงศักดิ์ และไม่สามารถจะติดต่อได้

ทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ภายหลังทางครอบครัวของน้องวาวนั้น ติดต่อน้องวาวได้แล้วและแจ้งว่าน้องวาว อาศัยไปกับแฟนหนุ่มคือนายเกรียงศักดิ์ ที่จังหวัดนครราชสีมา และไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด

หลังจากนั้น ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวีได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการสั่งการให้ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา นำกำลังเข้าจับกุมนายเกรียงศักดิ์ ตามหมายจับ พร้อมกับประสานไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา ให้เข้ามาคุ้มครองเด็กทั้ง 2 คน

จับโป๊ะพ่อพาลูกขอทาน

หลังจากนั้นทีมข่าวจึงประสานนัดเจอกับ นายเกรียงศักดิ์ เพื่อมอบเงินให้ 1,000 บาท เป็นทุนการศึกษาแก่ลูกชาย เพื่อให้นายเกรียงศักดิ์ ยอมมาพบกับทีมข่าวอีกครั้ง จากนั้นนายเกรียงศักดิ์ ก็ออกมาพบตามที่นัดหมาย ทีมข่าวจึงมอบเงินทุนการศึกษาให้ ซึ่งนายเกรียงศักดิ์ ก็ได้ขอบคุณทางอมรินทร์ทีวี ที่มอบทุนการศึกษาให้ลูกชาย

ต่อมาในระหว่างที่ทีมข่าวนัดกับนายเกรียงศักดิ์ ว่าจะมอบเงินให้ 1,000 บาท ทีมข่าวได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กเอาไว้ว่าให้เข้าจับกุมทันทีหลังมอบเงินให้ แต่นายเกรียงศักดิ์ ไหวตัวทันและขี่จยย. พาเด็กทั้ง 2 มุ่งหน้าไปยัง โรงเรียนจอหอ ระหว่างทางได้มีการแวะกดเงินที่ตู้ ATM ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมนายเกรียงศักดิ์ พร้อมกับอ่านหมายศาลให้ฟัง แต่นายเกรียงศักดิ์ ออกอุบายจะไปเอาของที่รถจักรยานยนต์ แล้วพยามยามจะหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องช่วยกันล็อคตัวจนจักรยานยนต์ล้มลงกลางถนน

หลังจากนั้นทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับนายเกรียงศักดิ์ หลังถูกจับกุมตัว ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าตนเองนั้นมีหมายศาลติดตามตัว เพราะตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้าน จึงไม่ได้รับหมายศาลและไม่ได้ไปตามนัดยืนยันไม่ได้หอบลูกหนี ซึ่งนายเกรียงศักดิ์ ได้ฝากบอกอดีตภรรยาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนว่าอย่าทำกับพี่อย่างนี้ ขอให้พูดความจริง เคยตกลงกันแล้วว่าฝั่งภรรยาจะเอาบ้านเอารถตนนั้นจะเอาลูกไว้

ขณะที่ทางเจ้าหน้าบ้านพักเด็กและเยาวชน ได้เข้าไปนำตัวน้องดวงและน้องวาว แยกออกจากนายเกรียงศักดิ์ ทันที พร้อมกับนำตัวไปให้ไว้ในที่ปลอดภัย จากการตรวจสอบพบว่าน้องดวง วัย 6 ขวบ ไม่ได้เรียนหนังสือเลย ส่วนน้องวาว อายุ 20 ปี ที่ป่วยออทิสติก ตั้งท้องได้ 6 เดือนแล้ว ซึ่งทางบ้านพักเด็กจะดูและเด็กทั้งสอง ก่อนจะส่งคืนไปหาผู้ปกครองตามภูมิลำเนาต่อไป

ต่อมาทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ น.ส.นันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี แม่ของน้องดวง (นามสมมติ) วัย 6 ขวบ ซึ่งอยู่ที่แม่ฮ่องสอนบอกกับทีมข่าวว่า เธอนั้นไม่ได้เจอลูกชายมา 3 ปีแล้ว หลังจากที่เลิกรากับนายเกรียงศักดิ์ ไปแล้ว เธอถูกนายเกรียงศักดิ์ ทำร้ายร่างกายแล้วลักพาตัวน้องดวงออกจากบ้านไป แล้วก็ขาดการติดต่อไปเลย จนกระทั่งปี 2565 เธอทราบเบาะแสว่า นายเกรียงศักดิ์ จะพาลูกกลับบ้านที่จังหวัดพะเยา เธอจึงตัดสินออกไปตามที่จังหวัดพะเยา หลังจากได้เจอกันก็มีการยื้อยุดฉุดกระชากแย่งแลกลูกกันที่นั่น

หลังจากนั้นนายเกรียงศักดิ์ ก็หอบลูกหนีไปอีกแล้วไม่มีเบาะแสเลยว่าอยู่ไหน จนกระทั่งมีผู้ใช้ติ๊กต็อกโพสต์คลิปนายเกรียงศักดิ์ อยู่กับลูกที่จังหวัดนครราชสีมา เธอก็ได้ประสานหาเจ้าของติ๊กต็อก ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวทันที พร้อมกับประสานทางเจ้าที่ พม.ให้ติดตามตัวลูกชายกลับมา ซึ่งตอนนี้ลูกชายของเธอปลอดภัยดีอยู่ที่บ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะมีการประสานส่งตัวกลับไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันอังคารหน้าที่จะถึงนี้

สุดท้ายเธออยากฝากถึงทีมข่าวทุกคนที่ให้การช่วยเหลือและนำตัวลูกชายของกลับมาได้อย่างปลอดภัยถ้าไม่มีสื่อมวลชน ชาตินี้เธอคิดว่าคงไม่ได้เจอหน้าลูกอีกแล้ว และขอขอบคุณเจ้าของโพสต์ติ๊กต็อก ที่ช่วยประสานนักข่าวของอมรินทร์ทีวี ให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือ จนกระทั่งสามารถช่วยเหลือลูกชายของเธอกลับมาได้อย่างปลอดภัย

Advertisement

แชร์
โป๊ะแตก! พ่อหอบลูกนั่งขายของเก่า ที่แท้หอบหนีหมายศาล