ย้อนเส้นทางมรณะ 7 ปี ถนนพระราม 2 เกิดอุบัติเหตุซ้ำซากมากกว่าสองพันครั้ง สังเวยชีวิตไปแล้วร้อยกว่าศพ! ถนนกินคน ที่ไม่มีวันจบสิ้น
จากกรณี คานทางด่วนถนนพระราม 2 ถล่มลงมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงาน และปัญหาอุบัติเหตุจากการก่อสร้างที่เกิดขึ้นซ้ำซากกับถนนสายนี้
ดร.ธวัชชัย ปิยนนทยา ประธานคณะทำงานปราบปรามการทุจริตพรรคไทยสร้างไทย ได้เปิดเผยข้อมูลสถิติในรอบ 7 ปี (2561-2567) พบว่าถนนพระราม 2 เป็นพื้นที่อันตรายที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถึง 2,242 ครั้ง คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 132 ราย และบาดเจ็บอีก 1,305 ราย โดยปัญหาซ้ำซากที่พบ คือ แผ่นปูนถล่ม เครนพังทลาย รอยแตกร้าวบนสะพาน และพื้นถนนทรุดตัว ล้วนเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าเส้นทางนี้กำลังแปรเปลี่ยนจากถนนหลวงกลายเป็น "เส้นทางมรณะ"
นอกจากนี้ ดร.ธวัชชัย ยังตั้งคำถามและเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้แสดงความรับผิดชอบ รวมถึงให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอแผนการแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง ทั้งการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศโดยฉุกเฉิน โดยเฉพาะเส้นทางที่มีประวัติความเสี่ยงสูง การเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบและรายละเอียดงบประมาณที่ใช้ในแต่ละโครงการอย่างครบถ้วนให้ประชาชนได้รับทราบและสามารถตรวจสอบได้
ข้อมูลจาก กรมทางหลวง สถิติการเกิดอุบัติเหตุถนนพระราม 2 ในเวลา 6 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2561-2566 มีการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้นจำนวน 2,242 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 132 ราย และผู้บาดเจ็บ 1,305 ราย แบ่งเป็นจำนวนของอุบัติเหตุที่เกิดในแต่ละปี ดังนี้
• ปี 2561 เกิดอุบัติเหตุ 491 ครั้ง เสียชีวิต 38 ราย ผู้บาดเจ็บ 268 คน
• ปี 2562 เกิดอุบัติเหตุ 415 ครั้ง เสียชีวิต 23 ราย ผู้บาดเจ็บ 275 คน
• ปี 2563 เกิดอุบัติเหตุ 406 ครั้ง เสียชีวิต 20 ราย ผู้บาดเจ็บ 277 คน
• ปี 2564 เกิดอุบัติเหตุ 234 ครั้ง เสียชีวิต 21 ราย ผู้บาดเจ็บ 116 คน
• ปี 2565 เกิดอุบัติเหตุ 434 ครั้ง เสียชีวิต 16 ราย ผู้บาดเจ็บ 229 คน
• ปี 2566 เกิดอุบัติเหตุ 263 ครั้ง เสียชีวิต 13 ราย ผู้บาดเจ็บ 139 คน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไทม์ไลน์อุบัติเหตุใหญ่บนถนนพระราม 2 พบว่า นับตั้งแต่ปี 2564-2568 มีอุบัติเหตุสะเทือนขวัญประชาชนหลายครั้ง และทุกครั้งก็มักจะมีคำพูดที่ว่าจะเร่ง "ถอดบทเรียน" เพื่อป้องกันปัญหานี้ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงคำพูดลอยๆ ที่ใช้ปิดจบเหตุการณ์ แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ออกมาอย่างจริงจัง
• วันที่ 21 ส.ค.2564 คนงานหล่นจากคานทางด่วน พระราม 2 ช่วง กม.19 เสียชีวิตระหว่างทำการติดตั้งแผ่นรองรับตัวคาน คาดว่าเป็นช่วงมุดเข้าใต้ท้องสะพานจึงถอดเข็มขัดนิรภัยออก
• วันที่ 31 ก.ค.2565 สะพานกลับรถ หรือจุดยูเทิร์นเกือกม้า บนถนนพระราม 2 บริเวณ กม.34 หน้าโรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แผ่นปูนหนัก 5 ตัน พังถล่มลงมาทับรถยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย
• วันที่ 7 มี.ค.2566 ผู้รับจ้างใช้รถเครนยกรถแบ็กโฮที่จมเลน โดยในระหว่างที่ยกนั้น สลิงของรถเครนได้หลุดออกจากรถแบ็กโฮ ทำให้บูมรถเครนเหวี่ยงและหักขวางทางคู่ขนาน ช่วง กม.25+500 ด้านขาออก
• วันที่ 7 พ.ค.2566 เกิดเหตุคานคอนกรีตสำเร็จรูป (Segment) จากการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 2 หล่นในขณะติดตั้ง บนถนนพระรามที่ 2 ทำให้คนงานเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บหลายคน ตลอดจนมีรถยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหาย
• วันที่ 15 ธ.ค.2566 แม่แบบหล่อคอนกรีต เป็นเหล็กขนาดใหญ่หล่นทับคนงานชายชาวเมียนมา 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย สอบสวนคนงานในที่เกิดเหตุเล่าว่า ระหว่างที่เครนกำลังยกแม่แบบหล่อคอนกรีด หัวเสา รับสะพานต่างระดับ เพื่อทำการเคลื่อนย้ายเคลียร์พื้นที่ แต่หูยึดแม่แบบเกิดขาดหลุดออกจากสะลิงทำให้แม่แบบหล่นลงมาทับคนงานที่ทำงานอยู่บริเวณดังกล่าวเสียชีวิต
• วันที่ 18 ม.ค.2567 เกิดเหตุรถเครนสลิงขาดทำให้กระเช้ารถเครน ตกลงมาจนทำให้คนงานที่ขึ้นกระเช้ารถเครน เพื่อซ่อมบำรุงเครื่องจักร เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 คน ขณะก่อสร้างโครงการสร้างถนนยกระดับพระราม 2
• วันที่ 29 พ.ย.2567 เกิดเหตุทรัส หรือ คานเหล็กที่ใช้ยกแผ่นปูนก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ตอนที่ 1 ช่วงที่ 3 ขาออกกรุงเทพฯ ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนถึงตลาดมหาชัยเมืองใหม่ พังถล่มลงมา มีคนงานทั้งชาวไทยและเมียนมาเสียชีวิตรวม 6 ราย และบาดเจ็บหลายคน
• วันที่ 15 มี.ค.2568 คานทางด่วนถล่มลงมา จนทำให้คนงานทั้งชาวไทยและเมียนมาเสียชีวิตรวม 6 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก
อุบัติเหตุซ้ำซากบนถนนพระราม 2 คือความล้มเหลวเชิงระบบที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน หากรัฐบาลและผู้มีอำนาจยังคงเพิกเฉย โศกนาฏกรรมเช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก และอาจร้ายแรงยิ่งกว่า ถึงเวลาแล้วที่ความปลอดภัยบนท้องถนนต้องเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเป็นเหยื่อของความบกพร่องเหล่านี้อีกต่อไป
Advertisement