ภายหลังจากที่ตำรวจ วิสามัญ นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือ “ยุทธ” อายุ 49 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามอาก้า ยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และมีตำแหน่งเป็นประธานสภาอบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เข้าชายโครงขวา1นัดกระสุนทะลุหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่นายยุทธพล จะขับรถเก๋งหลบหนี ข้ามไปยังจังหวัดขอนแก่น ทิ้งรถหนีเข้าไปซุกซ่อนตัวในป่าอ้อย และพยายามขัดขืนต่อสู้ ยิงใส่ตำรวจ จึงถูกวิสามัญเสียชีวิตพร้อมยึดอาวุธปืนอาก้า รวมถึงกระสุนปืนกว่า 200 นัด และลูกระเบิดมืออีก 2 ลูก จากนั้นได้นำศพนายยุทธพล ไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ศรีนครินทร์ขอนแก่น
โดยนายยุทธพล มีประวัติเป็นบุคคลอันตรายมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ในบัญชีของตำรวจ แต่ไม่สามารถหาหลักฐานจับกุมได้เพราะเป็นนักบินรับจ้าง ส่งยาบ้าระยะสั้น ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เก็บตัวเงียบในกระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน ไม่สุงสิงกับใครอีกทั้งพบข้อมูลว่ามีภรรยาเป็นชาวลาว ถือเป็นสิงห์สองฝั่งโขงที่เชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญ ที่ตำรวจติดตามพฤติกรรมมาตลอด แต่ไม่เคยมีปัญหาทำร้ายร่างกายใครมาก่อน
ส่วนคดีเคยถูกจับกุมข้อหาทำร้ายร่างกายได้พ้นโทษมานานกว่า 5 ปี และไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาทำร้ายเพื่อนบ้านที่คุ้นเคยสนิทสนมกันเสมือนพี่น้อง และมีการพูดคุยทักทายกันตลอด ส่วนสาเหตุญาติเชื่อว่าหลอนยา เพราะมีพฤติกรรมทั้งเสพยาบ้าทั้งค้ายาเสพติด เชื่อว่าขาดสติเกรงว่าคนจะมาทำร้าย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปสอบถามนางใส มณีรัตน์ อายุ 60 ปี ภรรยาประธานสภาคนเจ็บ ขณะมารอเฝ้าดูอาการสามีที่โรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุสามี อยู่คนเดียว เนื่องจากตนได้พาแม่ของนายยุทธพล ไปหาหมอที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม เพราะสนิทคุ้นเคยกันกับครอบครัวนายยุทธพล เสมือนญาติพี่น้อง
สอบถามสามี ก็บอกว่าไม่มีปัญหาทะเลาะกัน แค่นายยุทธพล ขับรถเก๋งผ่านมาหน้าบ้าน จึงเรียกถามไปไหน แต่กลับถูกลดกระจกจ่อยิงแบบไม่ตั้งตัว
อย่างไรก็ตามขออโหสิกรรมเพราะเข้าใจหัวอกพ่อแม่ของนายยุทธพล ไม่อยากให้เกิดแต่เป็นเหตุที่ไม่คาดคิด สามีรอดชีวิตถือว่าดีใจแล้ว
Advertisement