วันที่ 3 ธันวาคม 2367 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ ตัวแทน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย นายพิสิทธิ์ ลิ่มอรุณ,นายกษิดิศ วรวณิชชา,นายไม้เรียว ฤาชัย
เนื่องด้วยก่อนหน้านี้ เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้รับเรื่องร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายจาก นายสมเกียรติ ศิริไพบูลย์ทรัพย์ ผู้รับมอบอำนาจช่วงจาก บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (OR) ว่าตรวจพบบริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ตั้งโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม โดยไม่ได้เป็นบริษัทตัวแทนค้าต่างของบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด
อีกทั้งได้ตั้งโรงงานบรรจุก๊าซในพื้นที่ ต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา รวม 2 จุด มีการนําหีบห่อหรือภาชนะที่แสดงเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรอง หรือ เครื่องหมายร่วม ของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักรมาใช้สําหรับสินค้าของตนเองหรือของบุคคลอื่น เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ
ต่อมา เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปอศ.ร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจ กก.2 บก.ปคบ. ขออนุมัติหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง รวม 3 หมาย เข้าตรวจค้นบริษัทและโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 พ.ย.67 ที่ผ่านมา
ผลการตรวจค้นบริษัทและโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม 3 จุด
1. หจก. ธ. (สงวนชื่อจริง) พื้นที่เขต อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ตรวจค้นพบ
1) ถังก๊าซหุงต้มทำด้วยโลหะที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ปตท.จำนวน 42 ถัง
2) ถังก๊าซ ที่มี ตราสัญลักษณ์ ปตท. จำนวน 630 ถัง
3) ถังก๊าซที่ปลอมเครื่องหมาย มอก. จำนวน 47 ถัง
รวมของกลาง 5 รายการ จำนวน 744 ชิ้น
2. โรงผลิตถังก๊าซปลอม ด้านหลัง หจก. ธ. พื้นที่เขต อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ตรวจค้นพบเครื่องจักร ที่น่าเชื่อว่าใช้ผลิตถังก๊าซ และอุปกรณ์การผลิต 38 รายการ จำนวน 8,375 ชิ้น
3. โรงบรรจุก๊าซหุงต้ม หจก. ธ. สาขานครราชสีมา พื้นที่เขต ต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ตรวจค้นพบ
1) ถังบรรจุก๊าซหุงต้ม ทำด้วยโลหะที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ปตท. จำนวน 3 ถัง
2) ถังบรรจุก๊าซหุงต้มหมดอายุ จำนวน 311 ถัง
3) ถังบรรจุก๊าซหุงต้มไม่หมดอายุ จำนวน 550 ถัง
4) ซีลฝาถังก๊าซ และหัวบรรจุก๊าซ จำนวน 121 ชิ้น
รวมของกลาง 20 รายการ จำนวน 996 ชิ้น
ของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้ง 3 จุด เป็นถังก๊าซหุงต้มที่ไม่ได้มาตรฐาน/หมดอายุ และไม่ผ่านการตรวจสภาพ รวม 1,538 ถัง และถังปลอมเครื่องหมายการค้า ปตท.รวม 45 ถัง รวมทั้งสิ้น 1,583 ถัง และเป็นอุปกรณ์และเครื่องจักรหลายรายการ มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 4.2 ล้านบาท จึงได้ตรวจยึดและอายัด ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ในวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. และผู้แทนจากบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (OR) ได้ร่วมกันลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ร้านค้าปลีกก๊าซหุงต้ม และประชาชนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น รวม 3 จุด และพื้นที่ จ.นครราชสีมา รวม 4 จุด เพื่อเตือนภัยประชาชนให้ใช้ถังก๊าซหุงต้มที่ได้มาตรฐาน และเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
“ก๊าซหุงต้มเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน และจำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบและได้มาตรฐานตามที่หน่วยงานของรัฐกำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกคน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความอุ่นใจ บริษัทผู้ผลิตจึงจำเป็นที่จะต้องขออนุญาต และผลิตตามมาตรฐานที่กำหนด ถังก๊าซหุงต้มและวาล์วต้องมีฉลากหรือรูปรอยสลัก ที่ สมอ. กำหนด (มอก.) ผ่านการตรวจสอบและเป็นถังที่ไม่หมดอายุ ไม่ชำรุดเสียหาย หรือมีการนำมาพ่นสี ดัดแปลง หรือซ่อมบำรุงโดยบริษัทที่ไม่ใช่ตัวแทนค้าต่างของบริษัทผู้รับอนุญาตผลิต/บรรจุก๊าซ หุงต้มปิโตเลียมเหลว บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดที่ลักลอบบรรจุก๊าซปิโตเลียมเหลว โดยที่รู้ว่าตนไม่ใช่ตัวแทนค้าต่าง หรือบรรจุโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตถังก๊าซหุงต้มโดยไม่ผ่านมาตรฐานจาก มอก. จะมีความผิดตามกฎหมาย โทษสูงสุดถึง 2 ปี ปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดอันตรายเพลิงไหม้ครัวเรือน และก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้”
Advertisement