คุม 2 ผัวเมียโหดทำแผนฆ่าชิงทรัพย์ชาย 60 ปี ทิ้งศพกลางทุ่งนา

ตำรวจคุม 2 ผัวเมียโหดทำแผนรับสารภาพ คดีฆ่าชิงทรัพย์ชายวัย 60 ปี ทิ้งศพไว้กลางทุ่งนา

คอนเทนต์แนะนำ

ตะวันฉาย ปะทะ ซุปเปอร์บอน รีแมตช์ ชิงแชมป์โลก ศึกONE 170

ผลบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ลิเวอร์พูล ชนะรวดเฉือน ลีลล์ สรุปผลทุกคู่

ด่วน! บังแจ๊ค ถูกตีศีรษะ และถูกแย่งโทรศัพท์มือถือไอโฟนไป

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 ธ.ค.67 ที่ สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร ได้สอบปากคำผู้ต้องหา ก่อนที่จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด หลังจับกุม นายสัมฤทธิ์ ไม้สนธิ อายุ 58 ปี และนางจิรวรรณ เอมพิน อายุ 32 ปี ในตัว อ.เมืองอุทัยธานี ช่วง 20.00 น.วันที่ 6 ธ.ค.67 โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น หลังก่อเหตุได้ทิ้งศพ นายอุดม ขุนพิลึก อายุ 60 ปี ในพื้นที่ทุ่งนา ม.1 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร

โดยนางจิรวรรณ ได้รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือใช้หมวกกันน็อค พร้อมขวดเบียร์ตีที่ใบหน้าและใช้มีดปอกผลไม้จ้วงแทงนับไม่ถ้วน โดยปมเหตุมาจากเรื่องที่ผู้ตายไม่ยอมจ่ายค่าเหล้าและอาหาร จำนวน 1,430 บาท ทั้งๆที่นั่งดื่มกินด้วยกัน ซึ่งตนนั้นเมาและเกิดความโมโหด้วย โดยได้มีการต่อสู้กัน โดยนายสัมฤทธิ์ เป็นผู้ล็อกตัวผู้ตายให้ หลังจากนั้นก็ทิ้งศพไว้ที่ทุ่งนา ตนเป็นคนก่อเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งหลังจากที่ซ้อนกันมาสามคน เพื่อที่จะไปเอาเงินที่บ้านพ่อของนายสัมฤทธิ์มาจ่าย แต่ก็เกิดการถกเถียงระหว่างทางจึงลงมือดังกล่าว ซึ่งผู้ตายก็รู้จักกับตนมาก่อนเคยร่วมหลับนอนด้วยกันมาก่อน เพราะผู้ตายไปเที่ยวที่ร้านคาราโอเกะดังกล่าว ตนก็เคยทำงานเป็นเด็กคาราโอเกะที่นั่น และอีกหลายที่ โดยในวันเกิดเหตุเจ้าของร้านคาราโอเกะก็มองตนแปลกๆแต่ก็ไม่พูดอะไร

ขณะที่นายสัมฤทธิ์ ก็ให้การว่าปมเหตุเกิดจากเรื่องค่าเหล้าและอาหาร ไม่เกี่ยวกับยาเสพติด และเรื่องที่ผู้ตายเคยมีความสัมพันธ์กับนางจิรวรรณมาก่อน ซึ่งในวันดังกล่าวเมียของตนโมโหว่าทำไมต้องมาคิดรวมค่าใช้จ่ายกับนายอุดมด้วย ทั้งๆที่เป็นเพื่อนกันมา ซึ่งก็ยังบอกกับนายอุดมว่าน่าจะช่วยกันจ่ายคนละครึ่ง ซึ่งผู้ตายบอกว่าไม่มีเงิน จึงพากันไปเอาเงินกับพ่อตนที่บ้านจนเกิดเหตุดังกล่าว

โดยทั้งคู่ได้ให้การว่าหลังจากก่อเหตุฆ่านายอุดมแล้ว ก็ได้ไปรื้อค้นสิ่งของมีค่าในบ้านของนายอุดม ได้พระพุทธรูป 3 องค์ มีดดาบหนึ่งเล่ม ซึ่งหวังจะได้เงินติดไปด้วย แต่ได้ไปเพียง 500 บาท จากนั้นก็มุ่งหน้าไปขอซื้อน้ำมันที่อู่ของหลานผู้ตาย และหลบหนีไปยังจังหวัดอุทัยธานี

ตำรวจชุดจับกลุ่มได้นำตัวสองสามีภรรยาไปทำแผน 2 จุด คือร้านคาราโอเกะ และบริเวณทุ่งนา ซึ่งก็มีประชาชนเดินทางมารอดูจำนวนมาก พร้อมกับตะโกนด่าทั้งคู่ว่า "พวกมึงไปฆ่าเขาทำไม" โดยตำรวจได้กั้นบริเวณไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้ เพราะเกรงว่าจะรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาทั้งสอง