จากกรณีเกิดเหตุรถเก๋งโตโยต้าอัลติส ของหนุ่มไทยเชื้อสายอินเดียวัย 30 ปี ขับเฉี่ยวชนไรเดอร์ค่ายสีชมพูแล้วหนี ไรเดอร์พยายามทวงถามความรับผิดชอบ แต่ถูกชก ก่อนที่ไรเดอร์จะขึ้นจักรยานยนต์ไฟฟ้าขับรถหนี โดยมีรถเก๋งขับไล่ตามไปชนจากเลนขวาไปถึงเลนซ้ายสุด ทำให้ร่างของไรเดอร์คนดังกล่าวกระเด็นลอยไปกระแทกกับเสาไฟเสียชีวิต
ด้านนางสาวสายใจ ตามบุญ อายุ 39 ปี ภรรยาของไรเดอร์ผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ตอนเที่ยงตนทราบข่าวจากเพื่อนของสามีที่เป็นไรเดอร์เหมือนกัน เข้ามาบอกตนที่บ้านว่ามีคนในกลุ่มไลน์แจ้งว่าสามีของเธอถูกรถชนและเสียชีวิตคาที่ ตอนนั้นเธอยอมรับว่าสติแตก รีบไปเรียกลูกสาวให้พาไปดูพ่อที่จุดเกิดเหตุ เมื่อไปถึง เธอเห็นเจ้าหน้าที่นำผ้าขาวคลุมร่างสามีไว้แล้ว
เธอจึงขอเปิดผ้าเพื่อยืนยันว่าใช่สามีหรือไม่ ทันทีที่เห็นหน้า เธอบอกว่าใจแทบสลาย เพราะไม่คิดว่าจะเจอกันในสภาพไร้วิญญาณแบบนี้ โดยที่ยังไม่ได้พูดคุยหรือร่ำลากันเลย เธอพยายามถามคนในที่เกิดเหตุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทราบว่ามีการเฉี่ยวชนบนถนน ซึ่งเธอเข้าใจว่าบนถนนอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่ไม่ควรเกิดคือการไล่ชนกันจนถึงขั้นเสียชีวิต
เธอเล่าว่า สามีของเธอพยายามยกมือไหว้ขอโทษคนขับรถคู่กรณีแล้ว ก่อนจะขี่รถออกมา แต่กลับถูกตามไล่ชนจนเสียชีวิต ซึ่งเธอมองว่าการกระทำแบบนี้เป็นเจตนาฆ่าชัดเจน ไม่ใช่อุบัติเหตุ
นางสาวสายใจ เล่าอีกว่า สามีเป็นเสาหลักของครอบครัว มีลูก 4 คนที่ต้องดูแล ทั้งยังต้องเลี้ยงเธอและพ่อของสามีอีกด้วย แม้สามีจะป่วยหรือไม่สบายแค่ไหน เขาก็ต้องออกไปทำงานตั้งแต่เที่ยงคืน และกลับบ้านประมาณ 11 โมงเช้า เพราะเขาต้องหาเงินให้ได้เช้าละ 500 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านและส่งลูกไปโรงเรียน
วันนี้เป็นวันที่ลูกคนที่สอง รอลุ้นผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามีของเธอบอกกับลูกก่อนออกไปทำงานว่า “ขอให้ลูกทำได้นะ เดี๋ยวป๋าจะรอฟังข่าวดี” แต่สุดท้ายเขาไม่ได้กลับมาฟังผลสอบกับลูก เพราะมาเกิดเหตุร้ายเสียก่อน
ตอนนี้ครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะลูกสาวเสียใจมาก และเธอกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุการณ์นี้ เธออยากให้ตำรวจเห็นใจ และช่วยเหลือครอบครัวเธอให้ได้รับความยุติธรรมในคดีของสามีด้วย
Advertisement