เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.20 น. วันที่ 9 ธ.ค. 67 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งเหตุ แท่งเหล็กขุดเจาะดินขนาด 3 ขา ล้มทับคนงานเสียชีวิตภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 57/2 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.
ทราบชื่อต่อมาคือ นายอนุวัต นาคเรืองศรี อายุ 19 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพหงายท้อง จมกองเลือด สวมกางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมเสื้อ บริเวณใบหน้าไปจนถึงท้องมีรอยฟกช้ำ และห้อเลือด ข้างลำตัวพบหมวกแก๊ปสีดำตกอยู่ ในที่เกิดเหตุเป็นที่ดินว่างเปล่ามีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางวา ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้าน
นายติ๊ก อายุ 56 ปี ตัวแทนผู้รับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า ตนทำหน้าที่รับเหมาก่อสร้าง และขุดเจาะตามกำหนดการ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของอุปกรณ์ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องนั้นจะต้องรอทางบริษัทที่เป็นเจ้าของมาบอกรายละเอียดอีกครั้ง พร้อมบอกว่าตรงจุดนี้เริ่มสร้างประมาณวันที่ 2 ธ.ค. มีการลงเสาเข็มเป็นวันแรกก็ทำการก่อสร้างมาโดยปกติ แต่ขณะที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตทำหน้าที่ประคองแท่งเหล็กขุดเจาะสามขา โดยที่มีพ่อตาเป็นคนบังคับเครื่อง คาดว่าขณะที่เกิดเหตุน่าจะมีการสื่อสารกันผิดพลาด ปกติแล้วการลงแท่งเหล็กขุดเจาะสามขาจะต้องทำเป็นทีม แต่คาดว่าในขณะที่เกิดเหตุน่าจะมีการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน รวมถึงเวลาที่เปิดใช้เครื่องจะมีเสียงเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างดัง และจะต้องตะโกนคุยกันเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดไปเพียงแค่เสี้ยววินาที และทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น
ด้านคนงานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ขณะที่ทำงานอยู่นั้น แท่งขุดเจาะดินขนาด 3 ขา ได้เสียหลักเอนล้ม เนื่องจากบริเวณในหลุมมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งมีผู้ที่บังคับเครื่องจักรมีศักดิ์เป็นพ่อตาของผู้เสียชีวิต ได้ตะโกนให้สัญญาณบอกว่าแท่งเหล็กกำลังจะหลุดจากตะขอ ทันทีที่ผู้เสียชีวิตได้ยินดังนั้นก็พยายามจะวิ่งหนี แต่เคราะห์ร้ายที่แท่งเหล็กล้มไปทางที่ผู้เสียชีวิตหลบหนีพอดี ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามจะ CPR ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลว่า เจ้าของที่เพิ่งจะมาซื้อบ้านพร้อมที่ดิน เมื่อช่วงต้นปี 67 ก่อนจะทุบบ้านหลังเก่าทิ้งเมื่อช่วงเดือน พ.ย. และเริ่มก่อสร้างบ้านยกสูงชั้นเดียว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค. 68
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ได้ส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้แพทย์ชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป รวมทั้งเรียกบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบปากคำเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป
Advertisement