วันที่ 11 ธันวาคม 2567 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมผู้เสียหาย 70 คน ซึ่งเป็นตัวแทนผู้เสียหายกว่า 150 คน ถูกบริษัทช่วยปิดหนี้หลอกซื้อคอนโดฯ เสียหายเป็นหนี้ 3 พันล้าน มาแจ้งความกับตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)
นางปวีณา กล่าวว่า วันนี้ได้ไปพูดคุยประชุมกับทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้รับเรื่องไปตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ว่าเข้าข่ายอะไรอย่างไร ขณะเดียวกันได้ประสานกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) วันนี้ได้พาตัวแทนผู้เสียหายจำนวน 70 คน มาแจ้งความ วันนี้เมื่อรับเรื่องเสร็จสิ้น จะต้องพิจารณาว่าหน่วยงานไหนจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและกรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำงานร่วมกัน
นางปวีณา กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือเรื่องหนี้เสีย ซึ่งผู้เสียผลประโยชน์มี 2 ฝ่าย คือผู้เสียหายที่ไปกู้เงินมา และธนาคาร จึงขอให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นคนกลางที่จะให้ธนาคารทุกธนาคารเรียกลูกหนี้ทุกรายมาพูดคุยเจราจากันว่าจะมีหนทางใดหรือไม่ที่จะพักหนี้ หรือลดดอกเบี้ย เพราะทุกคนไม่ได้โกงแต่โดนหลอกไป คาดว่าจะมีหนี้เสียสูงถึง 3 พันล้านบาท จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญและมาแก้ไขปัญหาร่วมกันกับผู้เสียหาย
ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของผู้เสียหายทุกคน คือมีหนี้อยู่หนึ่งก้อน แล้วอยากลดภาระเพื่อให้ครอบครัวมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น จึงค้นหาช่องทางที่จะช่วยลดปลดหนี้ได้บ้างทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน หลังจากนั้นบริษัทดังกล่าวได้ติดต่อกลับเข้ามาว่ามีโครงการช่วยเหลือปิดหนี้ให้เข้าไปพูดคุยกันที่บริษัท ซึ่งมีหลักแหล่งชัดเจนและมีความน่าเชื่อถือจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา โดยตัวเองมีหนี้บัตรเครดิต 500,000 บาท แต่ตอนนี้ต้องเป็นหนี้ 16 ล้านบาท จากการเช่าซื้อห้องจำนวน 5 ห้อง
น.ส.มีน (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตัวเองเป็นพนักงานบริษัทเงินเดือน 4 หมื่นกว่าบาท ก่อนหน้านี้เป็นหนี้บัตรเครติดอยู่ 9 แสนบาท จู่ๆ มีบริษัทแห่งหนึ่งโทรมาเสนอปิดหนี้บัตรเครดิตให้ แล้วเขาก็จ่ายเงินปิดให้จริง โดยมีเงื่อนไขห้ามไปเป็นหนี้อะไรอีก เพราะต้องการให้ปลอดหนี้ที่แสดงในเครดิตบูโร ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเขารู้เรื่องหนี้สินได้อย่างไร จากนั้นก็ได้มีการไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.คูคต ว่าบริษัทปิดหนี้ให้ และทำสัญญาจะต้องร่วมกับบริษัทในโครงการกู้ซื้อคอนโดฯ ผ่านไป 3-6 เดือน เมื่อบูโรใสสะอาดเขาก็ให้กู้ซื้อคอนโดฯ ซึ่งครั้งแรกคิดว่าคงกู้ซื้อห้องเดียว แต่ปรากฎว่าบริษัทนำเอาเอกสารไปยื่นทุกธนาคารพร้อมกัน และตัวเองก็กู้คอนโดฯ 4 แห่ง 4 ห้องผ่าน เป็นหนี้ 16 ล้าน โดยบริษัทบอกให้ตัวเองผ่อน 1 ห้อง และบริษัทจะผ่อนอีก 3 ห้อง มีสัญญา 2 ปีจะซื้อคืน แต่ผ่านไประยะหนึ่ง บริษัทก็ไม่ผ่อนทำให้ถูกธนาคารทวงถามและบอกจะฟ้อง
เช่นเดียวกันกับผู้เสียหายรายอื่นๆ บางคนมีหนี้บัตรเครดิต 6 แสน บริษัทปิดหนี้ให้ แต่ต้องเป็นหนี้คอนโด 5 ห้อง 15 ล้าน บางคนมีคอนโดฯ ถึง 6 ห้องเป็นหนี้ 25-40 ล้านก็มี ผู้เสียหายได้มีการตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นและมีสมาชิกกว่า 200 คน ทุกคนเครียดมาก เพราะบริษัทปล่อยทิ้งมีหนังสือบอกให้ไปประนอมหนี้กับธนาคาร บริษัทปิดดำเนินการแล้ว ซึ่งตัวเองเครียดจัดกำลังจะผูกคอตาย แต่ได้โทรติดต่อไปยังมูลนิธิปวีณาฯ ได้พูดคุยกับนางปวีณา จึงได้ขอความช่วยเหลือ
Advertisement