วันที่ 23 ธ.ค. 67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นาย สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล เดินทางมายื่นหลักฐานต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. คดีการเสียชีวิตของ นาย ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง อดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร นายกอบจ.ปราจีนบุรี ช่วงค่ำวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการคดีกับ โกทร พร้อมลูกน้อง รวม 7 คน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
โดยนาย สันธนะ กล่าวว่า คดีนี้ทางตำรวจไม่ต้องการให้ตนไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวน เพราะตนบอกแล้วว่าคลิปภาพ และคลิปเสียง ตนได้มาหลังจากเกิดเหตุทันที ซึ่งคดีนี้ประชาชนให้ความสนใจ เป็นคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง แต่ถามว่าทำไมถึงปล่อยให้รองผู้การกองปราบฯ พูดคดีนี้เพียงคนเดียว
เพราะคดีนี้ ผบ.ตร.ต้องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ทำให้เหมือนกับคดีที่เคยทำกับตน ที่แต่งตั้งตำรวจมาทำคดีมากถึง 173 นาย และตนก็ค่อยๆ ทยอยยื่นฟ้องกลับทีละคน และดูว่าจะหัวหดกันหมดไหม ซึ่งคดีนี้ตนขอเดิมพันเก้าอี้ ผบ.ตร. แลกกับชีวิตของตนก็ได้
เมื่อถามว่า เท่าที่คุยกับ โกทร ในวันนี้จะให้พรรคพวก หรือญาติพี่น้องลงสมัครชิงตำแหน่ง นายกอบจ.ปราจีนบุรีแทนหรือไม่ นาย สันธนะ กล่าวว่า เรื่องนี้ในวันนั้นที่ตนเจอโกทร หลังเกิดเหตุเพียงชั่วโมงเดียว และครั้งเดียว ตนถามว่าพี่ทรเรื่อก นายกอบจ.ว่าไง ซึ่งพี่ทรกล่าวว่า หากเป็นไปตามจริง พี่ก็สนับสนุนเขา (สจ.โต้ง) แต่เขาควรลงสมัครในนามอิสระ ตนก็ถามว่าแล้วถ้าว่าไม่ใช่ล่ะ โกทรก็ตอบว่าอืม ก็คิดอยู่ แต่ตัวพี่ทรตอบมาชัดเจนแล้ว และลูกสาวก็บอกว่าตัวพี่เขาไม่ลง เพื่อรักษาสัจจะที่รับปากไว้กับคนตาย
เมื่อถามว่า แล้ว ณ ตอนนี้ ล่าสุดว่าอย่างไร นาย สันธนะ กล่าวว่า เรื่องลงเลือกตั้ง พี่ทรประกาศแน่นอนว่าไม่ลง ซึ่งลูกสาวเขาพูดแทนแล้วว่าไม่ลง ส่วนจะทั้งตระกูลวิลาวัลย์หรือไม่ อย่าเพิ่งไปพูดเหมา เราต้องพูดว่าลูกสาวเขาพูดว่าพี่ทรไม่ลงนายก อบจ. ส่วนตนก็บอกว่า อยากให้คนที่อยากจะลงมาก รักจังหวัดปราจีนบุรีมากนัก ก็ขอให้ลง เพราะถ้าลงสมัครปุ๊บ ก็จะครบองค์ประกอบ ขอให้ชนะ
เมื่อถามว่า เท่าที่คุยแล้วตระกูลวิลาวัลย์ จะไม่ลงสมัคร นายกอบจ.ปราจีนบุรีใช่หรือไม่ นาย สันธนะ กล่าวว่ าถ้านามสกุลวิลาวัลย์ ตนเชื่อว่าไม่มีลงสมัคร ซึ่งหมายถึงพี่ทรและลูกสาวพี่ทร
พร้อมกันนี้ นาย สันธนะ ยังเปิดคลิปเสียงให้ผู้สื่อข่าวฟัง พร้อมยืนยันว่าจะคลิปเสียงและคลิปวิดีโอทั้งหมดที่ตนมีสามารถยืนยันได้ว่าฝั่งโกธรไม่ได้ยิง เพราะตนได้คลิปมาจากหลังเกิดเหตุประมาณ 2-3 วัน จึงสบายใจ ตนมีพยานหลักฐานก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ สามารถเชื่อมโยงได้
เมื่อถามถึงว่า หากโกทรไม่ได้ฆ่า แล้วใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง นาย สันธนะ กล่าวว่า ตนก็บอกว่าลูกน้องเขาทะเลาะ และยิงกันเอง ฟังจากคลิปเสียงโกทรก็ไล่ให้กลับไป 3-4 ครั้ง ถ้าจะมีการฆ่ากันก็คงบอกให้เข้ามาเพียงคนเดียว นี่โกทรไล่ไปตั้งหลายครั้ง จะมาให้โกทรรับผิดชอบความตาย ขอให้ไปเอาเรื่องคนที่โทรตาม สจ.โต้งเข้ามาในบ้านครั้งสุดท้าย
เมื่อถามว่า แล้วทำไมตำรวจตั้งข้อหาโกทร ร่วมกันฆ่าและเจตนาฆ่ากับโกทร นาย สันธนะ กล่าวว่า คดีนี้หากสืบสวนสอบสวน ได้ความชัดจริง และไม่กลั่นแกล้ง ให้ความเป็นธรรม ทางโกทรจะเป็นเพียงพยาน และก็ไม่ใช่ประจักษ์พยานด้วย เพราะไม่ได้อยู่ขณะเกิดเหตุ มันยิงกันแล้วโกทรจึงออกมา ถือเป็นพยานแวดล้อมหลังเกิดเหตุ เพราะขนาดเกิดเหตุคือลูกน้องสองโกทรคนนั้นจริงๆ หากสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 7 ปากก็จะเข้ากับพยาน เพราะเขม่าดินปืนที่ตัวโกทรก็ไม่มี ถามว่าทำไมต้องไปแจ้งข้อหาโกทร
เมื่อถามว่า วันนี้จะมอบพยานหลักฐานให้ ผบ.ตร.หรือไม่ จากนั้นนาย สันธนะ ก็ตะโกนเสียงดังทันทีว่า “กิตติ์รัฐ น้อง! มารับเอกสารพยานหลักฐานจากพี่ด่วน”
ก่อนที่ นาย สันธนะ จะพูดกับผู้สื่อข่าวว่า “สรุปก็ไม่มา ยังไงก็ไม่กล้ามา”
เมื่อถามว่า แล้วแบบนี้จะเอายังไงต่อ นาย สันธนะ กล่าวว่า ขอให้ทนายของโกทรฟังไว้ว่า รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ตนมี ไปยื่นขออนุญาตศาลปล่อยตัวชั่วคราวโกทร ถ้าคุณรักโกทรจริง คุณควรเอาเอกสารทั้งหมดที่ตนมีไปยื่นศาล ตนเชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมแน่นอน ส่วนตนพร้อมเป็นหลักประกันให้ศาล และไม่ต้องห่วงความปลอดภัยโกทร หากได้รับการประกันตัวออกมา ขอให้มาอยู่กรุงเทพฯกับตน ตนเปิดห้องสูทให้พี่นอน ผมนอนติดกับพี่คนละห้องเลย ไม่ต้องห่วง และสิ่งที่ควรจะต้องรีบทำ ใครอยากยุ่งเรื่องนี้ให้รีบเข้ามา อย่าเห็นแก่ตัวปล่อยให้รองผู้การฯทำคดีนี้คนเดียว หากเป็นลูกผู้ชายจริง อย่าทำกับเด็กแบบนี้
และตนจะขอให้โกทรเซ็นมอบอำนาจให้ตนดำเนินคดีกับทุกคนที่กระทำกับพี่ทร ตนเชื่อว่าตนขอเรื่องนี้พี่ทรจะให้ตน ยืนยันไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร ตนจะขอมันส์ และสนุก เพื่อเก็บกวาดความชั่วออกไปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จากนั้น นาย สันธนะ ได้เปิดคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงของนายชาติ คนขับรถ สจ.โต้ง และอ้างว่าเป็นเสียงของรองอุ๊ พูดคุยกันภายหลังจากเกิดเหตุ ซึ่งมีความยาว 7 นาที 5 วินาที ซึ่งเนื้อหามีการพูดถึงระหว่างเกิดเหตุว่า มีลูกน้องของงทั้งสองฝั่งเข้าไปในบ้านโกทรจำนวนมาก และแต่ละคนพกอาวุธปืนเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตามในคลิปเสียงก็ไม่ได้มีข้อมูลชัดเจนว่าการยิงครั้งนี้มีใครสั่งการหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีการพูดคุยประเด็นเรื่องเงิน จำนวน 20 ล้านบาท โดยมีคลิปวิดีโอ ขณะ สจ.โต้ง นั่งรถกระบะสีดำไปขนเงินภายในบ้านรองอุ๊ โดยมีลูกน้องขับรถตามไปคุ้มกัน อีกทั้งมีภาพนิ่งเป็นกล่องที่บรรจุเงินสดเป็นแบงค์ร้อยรวมกันหลายมัด และในคลิปเสียงยังมีการคุยกันเรื่องที่ สจ.จอย ไปประชุม เพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุนการเลือกตั้งจากสมาชิก อบจ.
นาย สันธนะ กล่าวว่า ตนได้คลิปนี้มาจากสายโจรและตำรวจก็ได้คลิปเสียงนี้มาเหมือนกัน ส่วนคนอัดเสียงก็คาดว่าเป็นรองอุ๊อัดเสียงไว้ เพื่อจะจัดการตัวเองหลุดออกมา ฟังจากน้ำเสียงการพูดคุยไม่ได้มีสคริปต์ และที่ผ่านมาตำรวจไม่เคยเรียกมาสอบ และไม่มีชื่ออยู่ในสำนวนเลย เพราะพยานในที่เกิดเหตุมีอยู่แค่นั้น ก็ขอให้ตำรวจแยกสอบ แต่ละปาก ถ้าให้การขัดแย้งกันก็ดูจากวิธีกระสุน ผลพิสูจน์หลักฐานออกมามันก็ชัดแล้ว
“สำนวนนี้ถ้าทำตรงไปตรงมา ทุกอย่างมันก็จบ แต่มันมีเงินก้อนเชื่อมโยงไปถึงนักการเมือง และไปถึงใครที่นั่งถ่ายรูปคู่กัน อีกทั้งยังประกาศตัวสนับสนุน แถมยังมีสีเสื้ออีก แล้ววันนี้กฎหมายการเลือกตั้งมีแล้วด้วย อย่างไรก็ตามถ้าวันนี้ ผบ.ตร.ไม่มารับเอกสาร ผมก็จะไปยื่นเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช.ว่า ผบ.ตร.ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”
Advertisement