จากกรณีการเสียชีวิตของนาย ธนาคาร คันธี หรือ แบงค์ เลสเตอร์ แร็ปเปอร์ขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย ซึ่งในระยะหลังๆ มักจะมีคนจ้างให้ แบงค์ เลสเตอร์ กินอะไรแปลกๆ จนกระทั่งมาเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ขณะไปร่วมงานเปิดร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยผลชันสูตรเบื้องต้นแพทย์ระบุว่า หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมนายเอ็ม เอกชาติ อายุ 32 ปี หลังแสดงหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ได้ออกหมายจับตามความผิดกระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 28 ธ.ค. 67 ที่ศาลจังหวัดจันทบุรี พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งเบญจา ได้คุมตัวนาย เอ็ม เอกชาติ ผู้ต้องหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไปยื่นคำร้องฝากขังผัดเเรกเป็นเวลา 12 วัน
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ มารดาของนายเอกชาติได้จัดเลี้ยงงานวันเกิด และเปิดตัวร้านขายปุ๋ยและเคมีการเกษตร ซึ่งในงานเลี้ยงวันเวลาดังกล่าวช่วงค่ำได้มีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และได้มี นาย ธนาคาร คันธี หรือ แบงค์ เลสเตอร์ ได้มาร่วมงานเลี้ยงในวันเวลาดังกล่าวด้วย ต่อมาวันที่ 25 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 23.00 น. นาย ธนาคาร ซึ่งเป็นคนพิการทางสมองตั้งแต่เกิด และอยู่ในอาการมึนเมาสุราได้เดินมาพบ นายเอกชาติจึงได้ท้าทายและยุยงให้ นาย ธนาคารดื่มสุราชนิดแบน หากนายธนาคาร ดื่มหมดแบนจะให้เงิน นายธนาคารแบนละ 1 หมื่นบาท
นายธนาคาร ตกลงจึงได้ดื่มสุราไปจำนวน 2 แบน อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในเวลาประมาณ 10-20 นาที ต่อมานายธนาคารมีอาการแอลกอฮอล์เป็นพิษหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีนี้ มีพยานหลักฐานเพียงพอ ยืนอันเชื่อได้ว่า นายธนาคารเสียชีวิตหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากท่านได้ยุยงส่งเสริม ให้นายธนาคารซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรามาก่อนแล้วและเป็นคนพิการทางสมองดื่มสุราในปริมาณมากจนเกิดอาการมึนเมาและเสียชีวิต การกระทำของท่านเป็นความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 49 ววรรค4, 249 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยมีเหตุอันเชื่อว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนีเนื่องจาก คดีมีอัตราโทษสูงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหนีพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก ต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องผู้ต้องหาจึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 12 วัน ในกรณีผู้ต้องหาขอให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ร้องขอคัดค้าน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหนี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศาลพิจารณาคำร้องฝากขัง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดจันทบุรี พิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เเล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์ร้ายเเรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราวในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
Advertisement