จากกรณี ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดไต่สวนที่ทนายความยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ ขอประกันตัวนาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ซึ่งเป็นจำเลยคดีร่วมกับพวกฉ้อโกง และฟอกเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ มาดามอ้อย เศรษฐินีชื่อดังที่เคยถูกรางวัลกว่า 5,700 ล้านบาท ภายหลังพนักงานอัยการคดีพิเศษยื่นฟ้อง นายษิทรา กับพวกรวม 7 คนต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา
โดย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัว ทนายตั้ม มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนางปทิตตา มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 3 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลไต่สวนคำร้องการยื่นขอประกันตัวของนายษิทราและนางปทิตตาแล้วเสร็จ ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง มีรายงานว่านายษิทรา ยิ้มแย้มปกติ มีกำลังใจดี น้ำตาคลอตอนที่ได้กอดลูกๆ ส่วนนางปทิตตา ร้องไห้เช็ดน้ำตาอยู่ตลอดเวลา โดยมีลูกชาย 2 คนและลูกสาว คอยเข้าไปกอดให้กำลังใจทั้งคู่ ก่อนรอเวลาศาลพิจารณาในช่วงบ่ายวันนี้
ล่าสุด 16.10 น. ศาลได้เบิกตัวนายษิทราและนางปทิตตา มานั่งรอฟังผลพิจารณาคดี โดยทั้งคู่นั่งข้างกัน มีลูกๆ ทั้ง 3 คน และพี่สาวของนางปทิตตา รวมถึงคนในครอบครัว นั่งฟังด้วย ศาลพิจารณายกคำร้องไม่ให้ประกันตัวทั้งสองคน เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบปากคำให้การ และไต่สวนตรวจคำร้อง
ซึ่งหลังจากทั้งคู่รับฟังแล้ว ปรากฏว่านายษิทรามีสีหน้าถอดสี ร้องไห้ แตกต่างกับเมื่อเช้า ก่อนจะเอามือลูบหลัง โอบไหล่ภรรยา เพื่อให้กำลังใจ หลังจากนั้นครอบครัวของโผลเข้ากอดกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีและเดินจับมือกันออกไป
ส่วนทีมทนายทั้งสองคน เคร่งเครียด ก่อนพูดคุยกับจำเลยหลังรับฟ้องศาลพิจารณา
ขณะที่นาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความระบุว่า “ด่วนศาลยกคำร้องขอประกันตัวภรรยาทนายตั้ม รายงานคดี คดีหมายเลขดำที่ อทย. 109/2568
ระหว่าง พนักงานอัยการสำนักงานอัยการ (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1) โจทก์ กับ นายณัฐวุฒิ หรือศิธา หรือษิทรา เบี้ยบังเกิดที่ 1 กับพวกรวม 7 คน
พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว จำเลยที่ 1 (ษิทรา) และจำเลยที่ 2 (ปทิตตา) เป็นสามีภรรยากัน คดีมีอัตราโทษสูง แม้มีผู้เสียหายรายเดียว แต่มีค่าเสียหายจำนวนมาก หากอนุญาตให้มีการปล่อยตัว มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนีหรือโยกย้ายทรัพย์สิน อันเป็นการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ให้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว”
Advertisement