จากกรณีที่เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงแรมสูง 6 ชั้นแห่งหนึ่ง ย่านข้าวสาร บนถนนตานี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม. เป็นเหตุทำให้มีนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ภายในโรงแรมจำนวนมาก ภายหลังพบว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 3 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในห้องพักชั้น 5 ที่เกิดเหตุ 1 ราย และผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 ราย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 30 ธ.ค. 67 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าทางกรุงเทพมหานครได้ปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอันตรายห้ามบุคคลใดเข้าออกพื้นที่ ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เฝ้าตรวจตราความเรียบร้อยของที่เกิดเหตุ โดยได้รับรายงานว่า ในช่วงสายของวันนี้ จะมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
โดยในเวลา 08.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทีมฝ่ายวิศวกรโยธากรุงเทพและวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
จากการสอบถามผู้จัดการแผนกต้อนรับโรงแรมที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า มีนักท่องเที่ยวจองห้องพักเข้ามาจองห้องพักเข้ามาทั้งหมด 48 ห้อง ตามจำนวนห้องของโรงแรม แต่มีเข้าเช็คอินในวันเกิดเหตุ 38 ห้อง ซึ่งตอนนี้ลูกค้าที่มีความประสงค์จะพักต่อ ได้ประสานไปที่โรงแรมย่านสี่แยกราชประสงค์ โดยสำรองห้องพักเอาไว้ 40 ห้อง แต่ทราบว่าลูกค้าไม่ได้เข้าพักทั้งหมด
นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้นเพลินคาดว่ามาจากชั้น 5 ห้องหมายเลข 511 ซึ่งอยู่บริเวณส่วนหลังของอาคาร ไม่ติดถนน ปีกขวา แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้แน่ชัด เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบ พบว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารดัดแปลงจำนวน 11 ห้องแถว พื้นที่รวมประมาณ 1,515 ตารางเมตร ได้รับการขออนุญาตถูกต้องเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้วเปิดให้บริการเมื่อเดือนเม.ย. ปี 2565
สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งก็ได้รีบมาที่เกิดเหตุภายใน 5 นาที โดยพบว่ามีกลุ่มควันหนาแน่น เป็นจำนวนมากภายในอาคาร เลยทำให้ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่อพยพหนีขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าประมาณ 34 ราย จากจำนวนผู้พักอาศัยทั้งหมด 75 คน ส่วนที่เหลือพักอาศัยอยู่ด้านล่างที่สามารถหนีออกมาได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องใช้รถกระเช้า เพื่อช่วยลำเลียง ผู้ประสบภัยจากชั้นดาดฟ้าลงมา
ขณะที่จากการเข้าสำรวจอาคารหลังเกิดเหตุพร้อมทีมวิศวกรและฝ่ายโยธา พบว่าอาคารหลังดังกล่าวมีบันไดหนีไฟ 2 จุด และมีอุปกรณ์ถังดับเพลิงครบถ้วน เพียงแต่อาคารหลังดังกล่าวไม่เข้าเกณฑ์ที่ต้องบังคับติดตั้งสปริงเกอร์ เพราะเป็นเพียงอาคารขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาพอาคารที่เป็นสภาพปิดและไม่มีระเบียง เลยทำให้กลุ่มควันกระจายบริเวณบันไดหนีไฟ และทั่วทั้งอาคาร โดยภาพรวมอาคารหลังดังกล่าวมีมาตรการ และระบบเตือนภัยหนีไฟอย่างครบถ้วน บันไดหนีไฟไม่มีอะไรกีดขวาง และกฎหมายไม่ได้บังคับให้อาคารขนาดเล็กต้องมีระเบียง แต่หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบทั้งแบบแปลนและระบบเตือนป้องกันไฟอย่างละเอียด โดยพิสูจน์หลักฐานว่าเข้าเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายหรือไม่ เพราะเนื่องจากถึงแม้ว่าอาคารไม่มีระเบียง แต่ต้องมีระบบการป้องกันอัคคีภัยระบบอื่นที่ต้องมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เนื่องจากเหตุอัคคีภัยดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางกรุงเทพมหานครจะเรียกความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า ในระยะแรกจะต้องเพิ่มความเชื่อมั่นด้วยการสั่งการให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบโรงแรมและสถานประกอบการ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ให้มีระบบป้องกันอัคคีภัยที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน และพร้อมใช้งานได้จริง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ส่วนในระยะยาว จะต้องดำเนินการแก้กฎหมายควบคุมวัสดุภายในอาคาร เพราะเนื่องจากขณะนี้กฎหมายบังคับเฉพาะอาคารขนาดใหญ่ แต่ยังไม่รวมถึงอาคารโรงแรมขนาดเล็ก
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตยืนยันอยู่ที่ 3 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เพศหญิง สัญชาติบราซิล และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ราย เป็นเพศชายทั้งคู่ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ไชน่าทาวน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างรอการยืนยันชื่อและสัญชาติ
ส่วนยอดผู้บาดเจ็บเบื้องต้นมีทั้งหมด 5 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เพศชาย ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย นำส่งโรงพยาบาลกลาง และได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นชาย 1 ราย สัญชาติแคนาดา มีอาการสำลักควันและกระดูกซี่โครงหักจากการกระโดดที่ชั้น 3 เพื่อเอาตัวรอด ส่งโรงพยาบาลกลาง กับหญิง 1 ราย มีอาการสำลักควัน ส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว
ขณะที่มีรายงานจากตำรวจ สน.ชนะสงครามว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ได้สอบปากคำนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี 3 ราย ที่เป็นผู้พักอาศัยในห้อง 511 คาดว่าเป็นห้องต้นเหตุ โดยทั้ง 3 รายให้การยืนยันตรงกันว่า ไม่ได้อยู่ห้องในขณะเกิดเหตุ และไม่ได้เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ แต่ทางตำรวจต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากพบผู้เสียชีวิตในห้อง 511 แต่ผู้เสียชีวิตเช็คอินที่ห้อง 502 โดยต้องตรวจสอบรายละเอียดว่า ทำไมผู้เสียชีวิตมาเสียชีวิตที่ห้องต้นเพลิง พร้อมกันนี้มีรายงานว่า ทางตำรวจ สน.ชนะสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ได้ประชุมเพื่อติดตามถึงสาเหตุและผลความคืบหน้าของเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ สน.ชนะสงคราม
Advertisement