จากกรณีกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน บุกเข้าไปสังหารโหด นายกิตติ ปิดฉิม อายุ 53 ปี เจ้าของสวนยาง พื้นที่บ้านอ่างทอง ม.11 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พร้อมทั้งทำร้ายร่างกาย นายพรชัย โพธิ์สนิท ลูกน้องอาการสาหัส โดยชาวบ้านในพื้นที่ได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลนาดี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 31 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.นัทธกานต์ ประทุมตรี ผกก.สภ.นาดี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.นาดี สืบทราบว่า รถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นรถยนต์ปิคอัพ อีซูซุ สีเขียว ทะเบียน บพ 4855 ปราจีนบุรี ซึ่งอยู่หมู่บ้านที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเจ้าของรถ พร้อมรถยนต์ไปที่ สภ.นาดี และจากการสอบสวน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายอัครชัย ใจกล้า หรือ โทน อายุ 30 ปี นายธนทัต พื้นผา หรือ ทัต อายุ 20 ปี นายสหภาพ จันทร์เสงี่ยม หรือ บิ๊ก อายุ 27 ปี จึงได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหารได้ทั้ง 3 ราย
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีการท้าทายกันทางเฟซบีก เนื่องจากนายพรชัย คนเจ็บ เป็นหนี้ค่าสนุ๊กเกอร์เพียงหลักร้อย และมีการท้าทายในโชเชียล ผู้ก่อเหตุได้มาตามคำท้า นั่งรถยนต์ปิคอัพ เข้าไปเพื่อทวงหนี้ จนทำให้เกิดการโต้เถียงกัน ผู้ก่อเหตุจึงร่วมกันเข้าทำร้ายร่างกาย ด้านนาย กิตติ ปิดฉิม อายุ 53 ปี นายจ้างเจ้าของสวน เห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปช่วย ทำให้ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงนายกิตติเสียชีวิต และนายพรชัยได้รับบาดเจ็บ ก่อนขึ้นรถยนต์หลบหนีไป
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” ส่วนเจ้าของรถสองสามีภรรยาที่ผู้ก่อเหตุวานให้มาส่งที่สวนยาง ไม่มีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาทำการสอบสวนในฐานะพยาน
พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุบางคนรับสารภาพ บางคนก็ไม่รับ แต่ทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าไปด้วยกัน ถึงไม่ได้จ้วงแทงก็ถือว่าร่วมกันกระทำผิด แค่มีการท้าทายกันในโลกโชเชียล แต่ทั้งหมดรับว่าฝ่ายคนเจ็บรับว่าติดหนี้ค่าสนุ๊กเกอร์แค่หลักร้อย กลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บมีการท้าทายกันแล้วบันดาลโทสะ คนตายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย เป็นเจ้าของสวนจะเข้าไปห้าม ผู้ก่อเหตุเห็นก็เลยแทงเข้าไปเลยที่แขนขวา 1 แผล ถูกเส้นเลือดใหญ่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ตอนนี้เราก็จับได้ครบแล้ว 3 คน ส่วนที่ว่าไป 5-6 คน เป็นเจ้าของรถ 2 คน ซึ่งเขาไม่รู้เรื่อง เราจึงนำตัวมาสอบเป็นพยานทั้งหมด 4 คน ทั้งผู้ต้องหาและคนเจ็บเขารู้จักกัน แต่คนตายไม่รู้จักเขา คนที่บาดเจ็บเป็นลูกน้องของคนที่ตายจริงๆ คนเจ็บและคนก่อเหตุก็เป็นเพื่อนกัน เขาต่อยกันแล้วก็มาดีกัน ลักษณะเพื่อนในวงสนุ๊ก คนเจ็บติดหนี้ค่าสนุ๊กแล้วไม่จ่ายพรรคพวกเขา แต่คนที่มาก่อเหตุอาสามาทวงหนี้แล้วทางผู้บาดเจ็บบอกว่าอย่ายุ่ง คนที่มาทวงหนี้ก็เลยบอกว่าไปหามันหน่อยซิ คนที่มีเรื่องจริงๆ ไม่มีอาวุธ เราเรียกพยานอีกหลายคน ทางพนักงานสอบสวนก็ทำการสอบสวนครบแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี พบนายพรชัย ถูกแทงที่บริเวณแขนซ้ายและหน้าอกซ้าย ทางแพทย์ได้ทำการรักษาเป็นเป็นที่ปลอดภัยแล้ว ก่อนให้ข้อมูลว่า “ผมกลับเข้าบ้านมา นายกิตติแกก็มาทำกับข้าวรอผม พอกินข้าวเสร็จก็คุยเล่นกัน แล้วก็ว่าจะพากันลงไปกรีดยาง จู่ๆพวกนั้นก็มาถึงมากันประมาณ 4-5 คน ตัวผมถูกแทงตรงแขนซ้าย และหน้าอกซ้าย ผมไม่รู้ว่านายกิตติที่ถูกแทงเสียชีวิต ถูกทำร้ายส่วนไหนบ้างจนตำรวจมา นายกิตติแกก็เดินไม่ค่อยสมประกอบ เพราะแกเป็นโรคกระดูกทับเส้น ผมก็ว่าแกก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วย คนตายไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย ไม่น่าทำเขาหรอก แกช่วยเหลือครอบครัวของผมทุกอย่าง เพราะบ้านผมก็ไม่ค่อยมี คนที่ทำร้ายเราผมก็พอจำหน้าได้ เขาชื่อ ท. ส่วนอาการบาดเจ็บผม ตอนนี้ก็ปวดแขน”
Advertisement