จากกรณีเกิดอุบัติเหตุสลด รถกระบะเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ร่องกลางถนนสาย 41 บริเวณหน้าขนส่งไชยา ขาล่องใต้ กม.124 + 500 หมู่ที่ 4 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นพี่น้องเครือญาติเดียวกัน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 2 ม.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังศาลาเอนกประสงค์ของวัดดอนยาง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายบ้านมาบอำมฤต-บ้านทุ่งมหา ม.3 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นสถานที่จัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พบบรรดาญาติและเพื่อนบ้านในละแวกที่ทราบข่าวนับ 100 คน ต่างเดินทางมาร่วมช่วยกันทำความสะอาด และจัดเตรียมความพร้อมรับศพทั้ง 7 ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรดน้ำศพ
นายบุญนำ พินันชัย อายุ 51 ปี ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สำหรับเหตุในครั้งนี้ สร้างความสูญเสียให้กับครอบครัวตนเองเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนที่เสียชีวิตเป็นเครือญาติกันหมด โดย 1 ในนั้น คือ นางศรีสุนันท์ พินันชัย หรือ พี่แมว อายุ 72 ปี ศักดิ์คือพี่สะใภ้ของตนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกับรถกระบะ ซึ่งกำลังจะไปเที่ยว จ.นครศรีธรรมราช โดยไปกันจำนวน 11 กว่าคน รถยนต์จำนวน 2 คัน เป็นรถเก๋ง 1 คัน และรถกระบะ 1 คัน ทั้งหมดได้ออกเดินทางจากบ้านที่ ต.ดอนยาง อ.ปะทิว เมื่อเวลา 03.30 น. และตนเองพร้อมญาติมารู้อีกที่เมื่อเวลา 10.00 น.ว่า รถได้เกิดอุบัติเหตุที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และเสียชีวิตหมดทั้งคัน
นายบุญนำ กล่าวว่า สำหรับการจัดพิธีทางศาสนานั้น ยังไม่กำหนดตายตัวว่าจะทำกี่วัน แต่ทั้งนี้นั้น ณ ศาลอเนกประสงค์วัดดอนยางแห่งนี้จะตั้งศพเพียง 4 ศพ คือ นางนิตยา นางศรีสุนันท์ นายชูชีพ และนายศุภชัย ส่วน น.ส.ปภาวดี เป็นมารดาของเด็กแฝดชาย 2 ขวบ รวมถึงเด็กฝาแฝดทั้งสองคน ทางญาติได้ติดต่อมาว่าจะขอนำศพทั้งสาม ไปทำพิธีที่วัดท่ายาง ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของพ่อแม่ของผู้ตาย
ขณะที่นายสมบัติ เกิดชาตรี อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นสามีของนางนิตยา เปิดเผยว่า จริงๆแล้วการเดินทางไป จ.นครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ก็เพื่อไปทำบัตรประชาชนให้กับลูกเขยของตน ซึ่งไม่มีบัตรประชาชนมานานแล้ว และได้ติดต่อไปทางต้นทางมีกำนันในพื้นที่จะมาเซ็นรับรองให้ จึงได้ชักชวนกันไป นอกจากจากทำธุระแล้วก็จะได้แวะไปเที่ยวกราบไหว้วัดไอ้ไข่อีกด้วย แต่ไม่คิดว่าการเดินทางไปครั้งนี้ ภรรยาตนและญาติจะไปแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลย หลังจากที่ลูกเขย ซึ่งนั่งไปกับรถเก๋งโทรมาตอนเช้าว่ารถของแม่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต
นายสมบัติ กล่าวว่า ส่วนคนขับรถคันเกิดเหตุนั้นเป็นลูกชายของลูกสาวตนเอง และลูกสาวตนเองได้เสียชีวิตไปนับ 10 กว่าปีแล้ว ตนเองและยายหมีก็เป็นคนเลี้ยงมาจนเติบโตเป็นหนุ่ม ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ด้านขนส่งพัสดุภัณฑ์ และมีภรรยาคือนางประภาวดี ซึ่งเป็นม่ายลูกติด 2 คนเป็นชายฝาแฝดที่เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ส่วนพ่อของ หลานชายนั้น หลังจากที่ลูกสาวตนเองเสียชีวิตไป ลูกเขยก็หายหน้าหายตาไปตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ทราบเพียงว่าทำมาหากินอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ตนเองเชื่อว่าหลานชายไม่ได้ขับรถโดยประมาท และเชื่อว่าไม่ได้ขับเร็วจนเกินไป เพราะที่ผ่านมาทุกกครั้งที่ตนเองนั่งไปด้วยจะเห็นว่าขับไม่เร็วจนเกินไป ประกอบกับทางบริษัทได้มีกฎข้อบังคับพนักงานทุกคนจะต้องขับรถอย่างสุภาพ และไม่เกินกฎหมายกำหนด อีกทั้งเดินทางในครั้งนี้ยังมียาย ภรรยาและลูกแฝดไปด้วย จึงเชื่อว่าไม่น่าจะขับเร็ว
“หลังจากที่หลานชายได้ครบเกณฑ์อายุที่จะต้องคัดเลือกเข้ารับราชการเป็นทหารเกณฑ์ ทางหลานชายได้พูดกับยายไว้ว่า หากจับไม่ติดทหาร ก็จะบวชทดแทนคุณให้กับตาและยายที่เลี้ยงดูมา และก็หลานชายก็จับไม่ได้ใบแดง จึงจะต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ กำหนดว่าหลังปีใหม่แล้วก็จะหาวันดีเพื่อบวชให้ตายาย แต่ไม่ทันได้บวช หลานก็มาเสียชีวิตไปก่อนแล้ว” นายสมบัติ กล่าว
Advertisement