จากกรณี ร.ต.ท.บรรรัง เกษาพร รอง สวป.สน.สายไหม ถูกนายอรรณพ ศรีสืบ หรือ ช่างสันต์ ออเงิน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงเข้าที่ท้ายทอย และบริเวณร่างกาย รวม 7 นัด เสียชีวิต บริเวณหน้าร้านตัดผมแห่งหนึ่ง ริมถนนเฉลิมพงศ์ เขตสายไหม กทม. ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา สาเหตุจากการห้ามปรามเหตุทะเลาะวิวาท ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 4 ม.ค. 68 พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รองผกก.สน.สายไหม เปิดเผยว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นการกระทำแบบอุกอาจ โดยใช้อาวุธปืนยิงตำรวจจำนวน 15 นัด โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตำรวจได้ขยายผลถึงกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง
จากข้อมูลการสืบสวนคาดว่าน่าจะมีผู้ร่วมกระทำความผิดหลายคน รวมถึงบุคคลใกล้ชิด ช่วยเหลือนำวัตถุพยานไปซุกซ่อน โดยบุคคลใกล้ชิดได้อ้างว่าที่นำปืนไปซุกซ่อน เนื่องจากกลัวผู้ก่อเหตุนำปืนไปก่อเหตุซ้ำ แต่จากที่สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานข้อเท็จจริงของตำรวจค่อนข้างที่ขัดแย้งกัน จะต้องสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นความผิดกฎหมาย หรือเจตนาช่วยคู่กรณีกระทำความผิดหรือไม่หากพบเข้าข่ายกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์จะร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนสาเหตุการทะเลาะวิวาทจนนำไปสู่การฆาตกรรม จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเบื้องต้นให้การว่า มีปัญหากับชายเสื้อขาวคนหนึ่ง ที่ไม่พอใจจากการมองหน้ากัน โดยใช้เสื้อขาวที่กล่าวอ้างเดินไปพูดคุยกับ ร.ต.ท.บรรรัง กลุ่มผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปสอบถาม แต่กลับมีปากเสียงกัน และอ้างว่า ร.ต.ท.บรรรัง พยายามควักปืนยิงใส่ตัวเองจึงพยายามใช้ปืนที่พกมาด้วยป้องกันตัว แต่การป้องกันตัวด้วยการยิงปืนถึง 15 นัด ถือว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ พนักงานสอบสวนยังไม่เชื่อคำให้การทั้งหมดอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนให้หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ส่วนชายเสื้อขาวที่ถูกกล่าวอ้าง ระบุว่าเป็นชายชาวเมียนมาก่อนหน้านี้ ตำรวจยังไม่สามารถติดตามตัวหรือสามารถระบุตัวตนได้ แต่เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดในพื้นที่ไว้ครบทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุตรวจสอบแล้วเบื้องต้นเป็นอาวุธที่จดทะเบียน แต่ยังต้องตรวจสอบต่อไปว่าชื่อที่อยู่ในทะเบียนตรงกับผู้ก่อเหตุหรือไม่
ต่อมาเวลา 14.15 น. นางนิตยา เกษาพร อายุ 52 ปี ภรรยา ร.ต.ท.บรรรัง พร้อมญาติพี่น้อง และพ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหมจำนวนหนึ่ง นิมนต์พระวัดเกาะ เดินทางมารับศพ ร.ต.ท.บรรรัง ท่ามกลางความโศกเศร้า ที่แผนกนิติเวช รพ.ภูมิพล
นางนิตยา กล่าวด้วยความเสียใจว่า ทราบข่าวร้ายมีญาติโทรมาบอก รีบเดินทางมาจากย่านเมืองเอก รังสิต พบว่าสามีถูกนำส่งโรงพยาบาลปั๊มหัวใจช่วย ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร แต่ทราบว่าสามีแสดงตัวเป็นตำรวจแล้ว และยังใส่ชุดครึ่งท่อนคนร้ายยังก่อเหตุ ถูกจับไปที่โรงพักยังยิ้มให้กล้องไม่มีสีหน้าสลด และปืนหาซื้อกันง่ายมาก
ส่วนผลชันสูตรสามีถูกยิงตามร่างกายกว่า 10 นัด คาดว่านัดแรกเข้าหลัง แพทย์ผ่าตัดเอากระสุนตามร่างกายออกแล้ว แต่มี 2 นัดถูกยิงเข้าท้ายทอยกระสุนไปฝั่งที่กระดูกต้นคอและศีรษะ แพทย์ไม่เอาออก แพทย์แจ้งไม่ต้องตกใจ กระสุนนัดอื่นกระจายตามร่างกายและทะลุ หลังจากรับสามีจะนำศพไปเชิญวิญญาณที่เกิดเหตุ ก่อนไปตั้งสวดที่วัดสายไหม โดยผลชันสูตรแจ้งในเอกสารเบื้องต้นว่า บาดแผลกระสุนปืนที่ศีรษะ
นางนิตยา กล่าวอีกว่า ตนอยู่กับสามีมาประมาณ 25 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน มีคนหนึ่งเป็นหมัน สามีเป็นคนตั้งใจทำงาน
ก่อนอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างออกจากโรงพยาบาลไปเชิญวิญญาณผู้ตายที่จุดเกิดเหตุ โดยมีรถยนต์สายตรวจ สน.สายไหม เปิดสัญญาณไฟนำขบวน
Advertisement