ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 ม.ค.68 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า ให้มันเป็นอุทาหรณ์ค่าดอง 150,000 บาท ไม่ได้ตามเป้า ฝ่ายหญิงไม่พอใจ ช่วงค่ำตามมาอาละวาดยับ ส่วนฝ่ายชายหยิบยืมเถ้าแก่มาได้แค่ 50,000 บาท ไปสู่ขอไปคุย ยังไงฝ่ายหญิงก็ไม่ยอม ก็เลยเกิดเรื่องขึ้นมาแบบนี้ #จากจะเป็นคู่สมรสสู่คู่กรณีของแท้ จากอยากได้ตังค์ก็มาเป็นเสียตังค์น้อ #ภาพประกอบบางส่วน ข้าวของในบ้านพังหมด จนถูกแชร์ในโลกโซเซียสจำนวนมาก ดังข้ามคืน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านไชยศรี ต.ป่าแฝก อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ อยู่ริมถนนหลวงสาย 222 บึงกาฬ-พังโคน ใกล้กับ อบต.ป่าแฝก ที่เป็นบ้านของนายวสันต์ อายุ 23 ปี บ้านหลังเกิดเหตุ โดยพบกับนางบุญมี อายุ 73 ปี ย่าของนางวสันต์ และ น.ส.นงลักษณ์พี่สะใภ้ของนายวสันต์ พร้อมพาผู้สื่อข่าวดูร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบริเวณใต้ถุนบ้านและภายในบ้าน พบมีโต๊ะหินอ่อนเสียหาย 1 ชุด กระติกน้ำร้อน 1 เครื่อง พัดลม 1 ตัว ตู้เสื้อผ้า 1 หลัง ลำโพงบูทูธ 1 ตัว ตู้เย็นมีร่องรอยถูกทุบไม่เสียหายมากนัก รถจักรยานยนต์เก่าที่อยู่หลังบ้านหน้าห้องน้ำล้มคว่ำตะแคงอยู่ 1 คัน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 4-5 พันบาท
และเมื่อวันที่ 3 ม.ค. เวลาประมาณ 20:27 น. นางบุญมี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.พรเจริญ ว่า นางสาววนิดา หรือ ก้อย อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของนายวสันต์(หลายชาย) ได้ทำลายทรัพย์สิน ข้าวของภายในบ้านได้รับความเสียหาย
โดยตำรวจสอบถามจากนายวสันต์ เบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงเช้าของวันดังกล่าว ได้มีการไปตกลงค่าสินสอดกับครอบครัวทางฝ่ายแฟนสาว ที่บ้านฝ่ายหญิง
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. นางสาวก้อย ได้กลับมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยมีลักษณะมึนเมา และได้ทุบทำลายข้าวของและทรัพย์สินภายในบ้าน โดยนางบุญมี ผู้เป็นย่า ประสงค์ที่จะดำเป็นคดี กับนางสาวก้อย และต้องการให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
หลังรับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ พ.ต.ต.สุพจน์ โพธิ์สุวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.พรเจริญ รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว และจะดำเนินการเรื่องคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาตกลงไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายต่อกันในวันจันทร์ที่ 6 ม.ค.นี้
ด้านย่าบุญมี กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นอยากให้ว่าที่หลานสะใภ้ มาชดใช้ความเสียหายเนื่องจากทรัพย์สินเป็นของที่ลูกชายและลูกสะใภ้ซื้อไว้ให้ ส่วนเรื่องของหลานชายและว่าที่หลานสะใภ้ นั้นแล้วแต่ 2 คนเขาจะตกลงกัน ว่าหลังจากนี้ จะยังอยู่ด้วยกันหรือไม่ หรือจะเลิกรากันไป ส่วนตัวไม่อยากให้หลานสะใภ้กลับมาอยู่บ้านหลังนี้ เพราะเกรงจะเกิดอันตรายเผาบ้านเผาเรือนทิ้ง
ด้านนายวสันต์ กล่าวว่า หลังไปตกลงค่าสินสอดกลับมา ฝ่ายหญิงก็กลับมาบอกว่าจะมาเอาผ้าห่ม และมีปากเสียงกันที่โต๊ะหินอยู่ใต้ถุนบ้าน ฝ่ายหญิงลงไม้ลงมือกับตัวเอง แต่ตัวเองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร และใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ล้มลง 2 ครั้ง ตนจึงเข็นรถจะเอาไปฝากไว้บ้านข้างๆกัน ช่วงนั้นฝ่ายหญิงก็เข้าไปทำลายข้าวของภายในบ้าน หลังจากนั้นก็กลับบ้านไป ตั้งแต่เกิดเหตุขึ้นก็ไม่ได้ติดต่อหรือมาขอโทษเลย จริงๆเรื่องนี้ก็ไม่อยากให้มันเป็นข่าว อยากให้แฟนมาชดใช้ค่าเสียหายและขอโทษเท่านั้นก็พอ เรื่องแต่งงานตัวเองก็ยังตอบไม่ได้เพราะถือเงินไปแล้วฝ่ายหญิงก็ไม่เอา คงจะได้จบกันเลย คงจะไปกันไม่ได้เพราะฝ่ายหญิงเรียกสินสอดสูงเกินไป 150,000 บาท ตัวเองมีแค่ 50,000 บาท แต่ใจก็ยังรักฝ่ายหญิงอยู่
นางอริญญา บุตรสา ส.อบต.ป่าแฝก ผู้นำชุมชนที่ครอบครัวนายวสันต์ นับถือเป็นผู้เหลักผู้ใหญ่ภายในหมู่บ้าน กล่าวว่า ตัวเองก็ได้ไปสู่ขอฝ่ายหญิงด้วยกันกับครอบครัวฝ่ายชายในเช้าวันที่ 3 ม.ค. เพราะย่าของฝ่ายชายร้องรอมา ว่าไปขอหลายครั้งแล้วตกลงกันไม่ได้ จึงเดินทางไปร่วมสู่ขอด้วย วันนั้นฝ่ายชายมีเงินไปเพียง 50,000 บาท เพื่อจะเอาไปวางฝ่ายหญิงก่อน ส่วนอีก 1 แสนขอเวลาหาเงินก่อน ซึ่งตอนนี้ไม่มี มีแค่นี้จะรับได้ไหม ฝ่ายชายมีมาให้แค่นี้ ฝ่ายหญิงเขาก็บอกรับไม่ได้ รับไม่ได้ก็จะยันเอาอย่างเดียว ตนก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นเขาจะเอาเป็นรอบเดียวไปเลย ก็ต้องให้ฝ่ายชายมาหาเงินก่อน ก็ไม่แน่ อาจจะเป็นวัน หรือ 2-3 วัน อาจจะมี หรือว่า อาจจะเดือน หรือว่าอาจจะ 2-3 เดือนอาจจะหาได้ ถึงจะไปหาฝ่ายหญิงเขาใหม่ ทีนี้ก็เลยตกลงกันว่าให้กลับมาก่อน ถ้าย่าไปรับปากเขาก่อนมันเสียคำพูด ว่าเดือนหนึ่งหรือ 2 เดือนถ้าไม่มีให้เขามันก็เป็นการเสียคำพูดผู้ใหญ่ ก็เลยว่าต้องกลับมาหาก่อน แล้วก็จะเอาไปให้ตามที่เขาพูดก็เลยพากันกลับมาบ้าน
น.ส.นงลักษณ์ พี่สะใภ้ฝ่ายชาย กล่าวว่า วันนั้นมีเงิน 50,000 บาท เพื่อไปสู่ขอ และจะพาฝ่ายหญิงมาอยู่บ้านหลังเกิดเหตุด้วย ที่ผ่านมาฝ่ายหญิงก็พูดกับฝ่ายชายว่าขอค่าดอง 100,000 บาท ถ้าไม่ได้ก็จะเอาลูกออก เพราะฝ่ายหญิงอ้างว่าตัวเองตั้งครรภ์เกือบจะเดือนแล้ว ฝ่ายหลานชายก็มารบเร้าปู่กับยาอยู่สวนยาง ที่นอนอาศัยกรีดยางพาราอยู่ภายในสวนยางห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ให้หาเงินไปแต่งงานให้ ย่าก็บอกว่าจะให้ไปหาเงินมาจากไหนเงินตั้งเป็นแสน อายุก็เยอะแล้วไปหาหยิบหายืมใครเขาจะให้ ทุกวันก็อาศัยกรีดยางพาราไม่กี่ไร่พอมีเงินได้ใช้จ่ายเท่านั้น
ส่วนความเสียหายก็อยากให้ ว่าที่หลานสะใภ้ มาชดใช้ค่าเสียหายเท่านั้น หลังจากนั้นเรื่องของหลานชาย และแฟนของเขา ก็ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 คนเขาจะตกลงกันยังไง ว่าจะไปกันต่อหรือจบความสัมพันธ์แค่นี้ หรือฝู่ใหญ่ฝั่งฝ่ายหญิงจะว่ายังไง ยืนยันว่าฝ่ายชายไม่ได้ประวิงเวลา หลานชายก็พยายามไปหาเงินมาสู่ขอ จนไปยืมจากเฒ่าแก่ที่ทำงาน เฒ่าแก่ก็ให้ยืมเพราะลูกน้องไม่เป็นอันทำงาน คิดแต่เรื่องแฟนสาว
หลังผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับครอบครัวฝ่ายชายที่เสียหาย แล้ว ได้ติดต่อฝ่ายหญิงที่ก่อเหตุยังเก็บตัวเงียบ ไม่รับสายโทรศัพท์ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อครอบครัวฝ่ายหญิงที่ก่อเหตุ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันก็บอกว่า บ้านของครอบครัวฝ่ายหญิงปิดบ้านเงียบ น่าจะออกไปกรีดยางหยอดกรดอยู่สวนยาง แต่ครอบครัวก็พูดคุยเกรินกับเพื่อนบ้านไว้แล้วว่า ทราบเรื่องที่ลูกสาวไปอาละวาดทำลายข้าวของที่บ้านของแฟนหนุ่มแล้ว และพร้อมจะเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันในวันที่ 6 ม.ค.นี้
Advertisement