ความคืบหน้ากรณีชิงเงินกลางกรุง ในพื้นที่ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เป็นการซื้อขายเงินดิจิทัลกับคนจีนกันเอง โดยโบรกเกอร์ซึ่งเป็นคนกลางการซื้อขายเชิดคริปโตไป โดยมี 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาใกล้เคียงกัน คือ มูลค่า 8 ล้าน กับ 5 ล้าน ซึ่งตำรวจ ได้ตรวจยึดเงินของกลางคืนมาแล้วทั้งหมด 13 ล้านบาท
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ มาติดตามคดีที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง โดยพบว่า รถที่ตรวจยึดได้เมื่อคืน อัลพาร์ทสีขาว ถูกจอดอยู่ด้านหน้า สถานีตำรวจโดยการกั้นพื้นที่ และติดป้าย ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเคลื่อนย้ายหรือสัมผัสรถของกลางดังกล่าว แต่เบื้องต้นวันนี้ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง อยู่ระหว่าง ลางาน จึงให้สัมภาษณ์ ความคืบหน้าทางคดีกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์
โดยพันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง ระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีการแบ่งสอบสวนเป็น 2 คดี คือคดีเงิน 5 ล้าน กับ 8 ล้าน เริ่มจากเงินคดี 5ล้าน สอบปากคำพยานไปแล้ว 3 ราย สอบผู้เสียหายไปแล้ว 1 ปาก และได้ยึดเงินไว้เป็นของกลางในคดี นับเงินแล้วขาดแค่ 2 พันบาท โดยได้นับเงินต่อหน้าเจ้าของเงิน ส่วนรถอัลพาร์ด พฐ.ได้เข้ามาตรวจสอบแล้ว วันนี้จะติดตามพยานที่เกี่ยวข้องในคดี 5 ล้านคือ เจ้าของอาคารที่ตามไปยึดเงินได้ มาให้ข้อมูล กลุ่มคนจีนที่ยังไม่เจอตัว และขณะนี้พิสูจน์ทราบคนจีนได้แล้ว 1 คน ให้ตม.ขึ้นแบล็กลิสต์ ไว้แล้ว ซึ่งเป็นเจ้าของรถ ที่เป็นชาวจีน เหลือคนจีนอีก 1 คน และคนไทย ที่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ
ยืนยันขณะนี้ยังไม่ได้มีการจับกุมตัวผู้ต้องหา เพียงแค่ได้เงินกลับคืนมา โดยฝั่งเจ้าของรถอัลพาร์ด คือ ฝั่งที่มาขายเหรียญ ฝั่งผู้เสียหายถือเงินมา แต่ฝั่งขายเหรียญบอกโอนเหรียญแล้ว แล้วก็ฉกฉวยเงินที่อยู่บนโต๊ะระหว่างคุยกันหนีออกมา แต่ฝั่งผู้เสียหายยังไม่ได้เหรียญ โดยทั้งสองฝั่งมีการดีลผ่านคนกลางคือ อาเฉิน ซึ่งเป็นอาเฉินเดียวกัน คดี 8 ล้าน โดยอาเฉินจะรู้ว่าใครมีความต้องการอยากซื้อ ขายเหรียญคริปโต ก็จะจับแพะชนแกะ และที่ผ่านมาเคยดีลมาแล้ว แต่เป็นลักษณะตกปลาเล็ก หลักแสน ทำมา 3-4 ครั้ง จนครั้งที่ 5 ตกปลาใหญ่ มูลค่าเหรียญ 5 ล้าน เมื่อได้เหรียญไปแล้วขาดการติดต่อ โดยใช้วิธีการติดต่อผ่านเทเลแกรม พอได้เหรียญแล้วก็ลบเทเลแกรม
ซึ่งจากการพิสูจน์ทราบ คดี 8 ล้านและ 5 ล้านมีเฉินคือ คนกลาง เพราะ จากากรตรวจสอบเจ้าของเงิน 8 ล้าน เคยแอบถ่ายรูปเฉินไว้ที่ร้านกาแฟ จึงได้นำภาพไปเช็คกับ ตม. ทำให้ได้ภาพชัดๆมา และนำไปให้ผู้เสียหายเงิน 5 ล้านดู จึงทำให้รู่ว่า เป็นเฉินคนเดียวกัน และเฉิน ออกนอกประเทศไทยปล้วตั้งแต่วันที่ 8 ส่วนเหตุเกิดวันที่ 9 จึงเชื่อว่า นายเฉิน ติดต่อผ่านเทเลแกรม ให้ทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน และมีการวางแผนที่จะเชิดเงินเอาไว้
ส่วนคดี 8 ล้าน มีการเชิญตัวทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกันแล้ว พร้อมนำเงินมา มอบคืนไว้ให้ แต่ตำรวจ ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางก่อน เนื่องจากทางฝั่งเจ้าของเหรียญได้โอนเงินไปให้กับเฉินแล้ว ซึ่งใช้วิธีการสื่อสารกับเหยื่อผ่านทางเทเลแกรม ฝั่งเจ้าของ เหรียญไปกันสองคน ส่วนฝั่งเจ้าของเงินมากัน 4 คน นายเฉิน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนติดตามตัวทั้งหมดมาสอบปากคำอย่างละเอียดแล้ว ในวันนี้
สำหรับตัวนายเฉิน เบื้องต้นทราบว่าเคยมา พบปะ เจอหน้ากับทางฝั่งผู้เสียหาย แต่ไม่ทุกครั้ง ที่มีการแลกเงิน ซึ่งที่ผ่านมาในการแลกเงินแต่ละครั้งไม่เคยมีปัญหา เนื่องจากเป็นเพียงหลักแสน ซึ่งก็คาดว่าในเฉินน่าจะวางเหยื่อ เพื่อ ให้ทางผู้เสียหายเชื่อใจ จนกระทั่งมาถึงจำนวนเงิน หลักล้าน จึงก่อเหตุเชิดเงินคลิปโดดังกล่าว
นอกจากนี้ในวันนี้ต้องติดตามในเรื่องของ เจ้าของรถ และเจ้าของอาคาร ที่เขาตรวจค้นมาให้ปากคำ รวมถึงให้นำกุญแจรถมาเปิดเนื่องจากทรัพย์สินบางส่วนของผู้เสียหายยังคงอยู่ในรถ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะพยายามติดตามตัวให้ได้ภายในวันนี้
ขณะเดียวกันทราบว่าที่พื้นที่สถานีตำรวจนครบาลมักกะสันมีผู้เสียหายชาวจีนที่ถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน 4.5 ล้าน และมีคนกลางที่ชื่อว่าอาเฉิน เช่นเดียวกัน แต่ได้นำรูปภาพไปให้กับผู้เสียหายในพื้นที่ดังกล่าวตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นคนละอา เฉิน
Advertisement