จากเหตุคนร้ายบุกยิง นายพบ ชูทอง อายุ 72 ปี เกษตรกรตัวอย่าง ในอ.ควนขนุน จ.พัทลุง ตามร่างกายถึง 6 นัดจนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (10 มกราคม 2568) ระหว่างที่นายพบผู้ตายเพิ่งเสร็จจากไปผสมเกษตรสละในสวน กำลังจะเดินทางกลับบ้านที่อยู่ห่างจากสวนไม่เกิน 200 เมตร
จากการตรวจสอบ ชาวบ้านได้ยินเสียงปีนดังติดกัน 5 – 6 นัดแต่เข้าใจกันว่าเป็นเสียงประทัด กระทั่งภรรยาผู้เสียชีวิตเห็นยังไม่กลับเข้าบ้านจึงออกไปตามที่สวนแล้วเจอนายพบ สามีนอนจมกองเลือดไม่รู้สึกตัวอยู่บนถนน ก่อนถึงสวนสละโดยมีรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดอยู่ใกล้กันมีรอยกระสุนปืนยิงโดนกระจกมองข้างจึงร้องขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านช่วยพาส่งรพ. ซึ่งทางครอบครัวเปิดเผยว่า นายพบ ผู้ตาย เป็นคนทำมาหากินเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร
เจ้าหน้าที่คาดขณะเกิดเหตุผู้ตายขี่รถออกจากสวนแล้วถูกคนร้ายใช้ปืนไล่ยิง ซึ่งก่อนหน้านี้มีชายในหมู่บ้านถูกตำรวจจับกุมข้อหายาเสพติดและอาวุธปืนช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาซึ่งชายคนนี้อาจคิดว่าผู้ตายเป็นคนแจ้งเบาะแสและหลังเกิดเหตุได้หายตัวไปจากหมู่บ้านเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุด วันนี้ (11 ม.ค.68) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนทางเข้าสวนผลไม้ รายล้อมไปด้วยสวนทุเรียน เเละสวนสละ ยังพบกองเลือดของผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณริมถนน เป็นจำนวนมาก พบว่าเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ควนขนุน , เเละชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ลงพื้นที่มาเก็บพยานหลักฐานต่างๆจากที่เกิดเหตุ รวมถึงรถจักรยานยนต์พ่วงข้างชองผู้เสียชีวิต ซึ่งยังจอดในลักษณะเสียหลักอยู่ข้างทาง
โดยตอนนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายแล้ว เป็นเครือญาติกันกับผู้เสียชีวิต ทราบชื่อหนึ่งในผู้ก่อเหตุ คือ นายสหภาพ เเสงดำ หรือ "โหม้ง"อายุ 52 ปี ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองราย มาดำเนินคดี
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยัง วัดควนปันตาราม สถานที่จัดพิธีศพของ นายพบ ชูทอง อายุ 72 ปี (ผู้เสียชีวิต) พบว่ามีญาติ ๆ เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทางทีมข่าวได้พูดคุยกับภรรยาของผู้เสียชีวิต คือ นางอุทัย วรรณะ อายุ 54 ปี ยังอยู่ในอาการเสียใจ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา 16.00 น. สามีของตนได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เข้าไปที่สวนสละ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไม่ไกลนัก จนกระทั่งเวลา 18.00 น. สามียังไม่กลับบ้าน ตนก็รู้สึกแปลกใจ เพราะโดยปกติแล้วสามีจะเข้าสวนใช้เวลาไม่นาน
หลังจากผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วก็เห็นคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ด้วยความเร็ว หลบหนีผ่านหน้าบ้านไป ซึ่งตนจำใบหน้าของคนที่ซ้อนท้ายได้ คือ นายสหภาพ หรือ"โหม้ง" ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุ ก็พบร่างสามีนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น เเน่นิ่งไปเเล้ว มีทั้งรอยยิง รอยฟัน และรอยแทง ซึ่งพฤติกรรมของคนร้ายโหดเหี้ยมเกินไป ตนเองเห็นสภาพศพของสามีเเล้วรับไม่ได้
นางอุทัย บอกว่า ตัวของนายโหม้งผู้ก่อเหตุนั้น มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งเสพเเละขาย ชาวบ้านในพื้นที่ต่างทราบกันดี เวลาหลอนยาก็มักจะมีอารมณ์รุนเเรง ชอบทุกทีคนในครอบครัว
ส่วนปมเหตุในการฆาตกรรม เชื่อว่าน่าจะเกิดจากความหวาดระแวง เนื่องจากสามีของตน เป็นผู้มีความรู้ในเรื่องการเกษตร ทำสวนสละแล้วประสบความสำเร็จ ทำให้ที่ผ่านมามักจะมีเกษตรกรเข้ามาขอความรู้ รวมถึงตำรวจในพื้นที่ก็จะเข้ามาดูงานที่สวนของตนด้วย เมื่อมีตำรวจแวะเวียนเข้ามาในสวนบ่อย ๆ ทำให้นายโหม้ง ที่หลอนยา เกิดความหวาดระแวง ว่าสามีของตนจะให้ข้อมูลเรื่องยาเสพติดกับตำรวจ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง // จนกระทั่งวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา นายโหม้ง ถูกตำรวจจับกุมในคดียาเสพติด และอยู่ระหว่างประกันตัว คงคิดว่าสามีของตนเป็นสาเหตุให้โดนจับ จึงมาก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งยืนยันว่าที่ผ่านมาสามีของตน ไม่เคยให้ข้อมูลกับตำรวจเรื่องยาเสพติดกับตำรวจ เเต่นายโหม้ง หลอนยาเเล้วคิดไปเอง จึงอยากให้ตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า นายโหม้ง หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ถูกจับคดียา เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัว เเล้วมาก่อเหตุยิง
Advertisement