วันที่ 13 ม.ค.68 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่อชมรมอาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ติดตามคดีนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกตำรวจข่มขู่ รีดทรัพย์เป็นเงินรวมกว่า 7 ล้านบาท หลังเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายเดินทางมาพร้อมกับครอบครัวรวม 5 คน และพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.บางรัก
โดยในวันดังกล่าวมีนายแดเนียล ชาวสิงคโปร์ ซึ่งนายอัจฉริยะ บอกว่านายแดเนียล เป็นนกต่อ อ้างว่าจะช่วยคุยเรื่องคดีให้ โทรศัพท์ชวนนางสาวยูจินไปเที่ยวที่ตลาดนัดแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาภิเษก เธอจึงไปตามนัด แต่ต้องรีบกลับโรงแรม เพราะต้องพาครอบครัวไปร้านนวดต่อ โดยระหว่างทางนายแดเนียลพยายามโทรศัพท์เช็กอยู่ตลอดว่านางสาวยูจิน ถึงโรงแรมหรือยัง พอไปถึงโรงแรมพบว่ามีชายอ้างตัวเป็นตำรวจ สน.ประเวศ 2 นาย มายืนรออยู่ บังคับให้นางสาวยูจิน ไปที่สถานีตำรวจ จากนั้นมีตำรวจตามมาอีก 1 คน พร้อมแสดงบัตร แสดงตัว และเชิญนางสาวยูจินไปคุยที่ สน.
เมื่อไปถึงที่ห้องสืบสวน สน.ประเวศ ตำรวจพยายามเรียกเงินจากนางสาวยูจิน 70 ล้านบาท โดยอ้างว่านางสาวยูจินเป็นหนี้นางสาวนิชาภา ซึ่งเป็นญาติกับตำรวจ สน.ประเวศ ซึ่งนางสาวยูจิน ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับนางสาวนิชาภาเลย และเพิ่งเคยมาเที่ยวประเทศไทยเป็นครั้งแรก และยังถูกตำรวจข่มขู่อีกว่าหากไม่ยอมจ่ายจะไม่ปล่อยตัว จึงยอมจ่ายโดยเจรจาตกลงจ่ายที่ 7 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นสกุลเงิน USDT โอนเข้าบัญชีคริปโต 2 ครั้ง ครั้งแรก 150,000 USDT ครั้งที่ 2 50,000 USDT รวมทั้งหมด 200,000 USDT จากนั้นตำรวจจึงยอมปล่อยตัว
หลังจากนั้นนางสาวยูจิน จึงเดินทางกลับประเทศจีนและกลับมาแจ้งความอีกครั้ง เดือนสิงหาคม 2567 ที่ สน.บางรัก แต่กลับถูกตำรวจ สน.บางรัก เรียกตบทรัพย์อีก 260,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการและอำนวยความสะดวก นางสาวยูจิน จึงยอมจ่ายตามที่ตำรวจเรียกขอ โดยจ่ายเป็นเงินสด 2-3 ครั้ง ส่วนนายแดเนียลเดินทางกลับสิงคโปร์ไปแล้วเมื่อเดือนมกราคม 2567
สำหรับคดีนี้นายอัจฉริยะ ขีดเส้นตายให้พลตำรวจโทสยาม จับผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมขบวนการมาให้ได้ภายใน 3 วัน เพราะตำรวจไม่ยอมดำเนินคดีให้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย และอยากให้พบตำรวจโทสยาม ช่วยกวาดบ้านตัวเองให้สะอาด พร้อมเรียกร้องไปถึง พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสารวัตรแจ๊ะ อย่ามัวแต่ตะครุบกบ สร้างคอนเทนต์ ควรเร่งจับตัวผู้ก่อเหตุ เพราะตนได้ยื่นหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจไปแล้ว ไม่ต้องไปสืบอะไรเพิ่มแล้ว และอยากให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้มีรายงานว่านางสาวยูจิน เข้ามาจัดอบรมเชิญชวนลงทุนที่เมืองทองธานี โดยมีนางสาวนิชาภา เป็นผู้ร่วมอบรม ลงทุนไปกว่า 30 ล้านบาท ด้วยการเทรดผ่านแอปพลิเคชันที่นางสาวยูจินแนะนำ หลังลงทุนไปแล้วพบว่าดึงเงินออกมาไม่ได้ นางสาวนิชาภา จึงจะไปแจ้งความที่ สน.ประเวศ แต่ทราบว่านางสาวยูจิน อยู่ที่โรงแรมย่านกลางเมืองจึงขอให้ตำรวจ สน.ประเวศ ไปพาตัวนางสาวยูจินมาที่ สน. ซึ่งมีตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นาย เดินทางไปก่อนแต่นางสาวยูจินไม่ยอมมา อ้างว่าถ้าไม่มีตำรวจมาจะไม่ยอมไปด้วย จึงให้ตำรวจในเครื่องแบบไปเชิญตัวมา
ซึ่งมีข้อมูลอีกว่ามีผู้เสียหายคนอื่นๆอีกหลายคนไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี (บก.ปอท.) รวมถึงยังมีผู้เสียหายร้องเรียนไปที่เพจสายไหมต้องรอดอีกหลายคนด้วย
Advertisement