ขนลุก นิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร เผยได้ยินเสียงผู้หญิงปริศนาตอนจำลองตกเรือ

ขนลุก นิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร เผยได้ยินเสียงผู้หญิงปริศนา สั่งให้กระโดด ตอนจำลองตกเรือจนทำให้ตกน้ำ 2รอบ ด้านบอสณวัฒน์เชื่อเสียงแตงโมและอาจเป็นจุดตกเรือ

หลังจากการจำลองเหตุการณ์ตกเรือของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาว ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 หรือ 3 ปีก่อน ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

โดยมีอาสาสมัครที่แสดงเป็น “แตงโม” เพื่อจำลองเหตุการณ์ขณะปัสสาวะท้ายเรือและตกน้ำ ประกอบด้วย 1.น้องปอย มิสแกรนด์นครพนม 2. น้องเฟริน มิสแกรนด์นครสวรรค์ 3. น้องฟ้าบาร์บี้ มิสแกรนด์ เชียงใหม่ 4. น้องนิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร 5. ครูลิต้า ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก ส่วนผู้จำลองเป็น “แซน” คือ น้องหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา

โดยการจำลองเหตุการณ์ “แตงโม” ตกเรือ 2  จุด คือ ท่าเรือโรงแรมริเวอร์ไรน์ และท่าเรือพิบูลสงคราม 1 (วัดปากน้ำ) นนทบุรี ส่วนผู้จำลองเป็น “แซน” คือ น้องหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา

เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ผ่านมา ทีมจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือได้กลับเข้ามาสรุปข้อมูลหลังเสร็จสิ้นการจำลองเหตุการณ์แล้ว ที่ห้องประชุมที่โรงแรมริเวอร์ไรน์ เพลส โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ โดยมีเหล่าอาสาสมัครจำลองเหตุการณ์นางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม” ตกเรือทั้ง 6 คน ประกอบด้วย ครูลิต้า ครูสอนว่ายน้ำนางเงือก , ปอย มิสแกรนด์นครพนม , ฟ้าบาร์บี้ (มิสแกรนด์เชียงใหม่) , เฟ-ริน มิสแกรนด์นครสวรรค์ , นิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร และหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล นั่งแถลงข่าวเปิดใจกับสื่อมวลชนหลังได้ร่วมทดลองตกน้ำในวันนี้ โดย “ปอย” มิสแกรนด์นครพนม เปิดใจคนแรกว่า “ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองครั้งนี้ เพราะเธอได้ติดต่อไปทางเพจของอาจารย์ปานเทพ วันนี้พอได้ไปอยู่บนเรือจริง ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่คิดไม่ผิดเลยที่เอาตัวเองมาทำแบบนี้ จึงรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก“

ส่วนตอนที่เดินอยู่บนเรือ เธอไม่ได้มีความรู้สึกกลัวเลย เพราะอยากทำ อยากรู้ว่าถ้าเธอสวมบทบาทเป็นแตงโมจะรู้สึกอย่างไร ในหัวมีแต่ภาพความสงสัยและอยากรู้มากกว่า

“ปอย” ยังบอกอีกว่า ช่วงที่ตกน้ำลงไป ยอมรับว่ามันทรงตัวยากมากและเธอก็พยายามเป็นแตงโมให้ได้มากที่สุดว่าจะทรงตัวได้หรือไม่ ในขณะที่เรือกำลังแล่นด้วยความเร็ว 8 นอต และยิ่งช่วงตอนไปนั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือ มือหนึ่งต้องจับขาเพื่อนไว้และอีกมือต้องถกกระโปรงขึ้น รวมถึงยังต้องขยับไปปัสสาวะให้ใกล้น้ำมากที่สุด ก่อนตกน้ำลงไป ก็รู้สึกกลัว เพราะไม่รู้ว่าใต้น้ำเป็นอย่างไร แต่โชคดีที่เราสวมเสื้อชูชีพ มันอาจจะไม่ได้ทำให้ตัวเราจมลงขนาดนั้น แต่เท่าที่เห็นสภาพใต้น้ำ มันมืดมาก และก็มีขยะ มีดินเยอะมาก น้ำสกปรกพอสมควร

ส่วนพอได้ใส่ชุดแตงโมในวันนี้ ก็รู้สึกขนลุก เพราะชุดเหมือนมาก ยิ่งอยู่ในช่วงจำลอง ยิ่งพูดถึงชื่อ “แตงโม” น้ำตามันจะไหล เพราะเราไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องจริง มันน่าเศร้ามาก การที่เราตกน้ำลงไปและยิ่งไม่มีใครเหลียวหรือคิดที่กลับมาวนหา มันน่าสงสาร จึงขอขอบคุณที่อาจารย์ปานเทพและคุณอัจฉริยะที่ตั้งใจจะกลับมารื้อคดีและคืนความยุติธรรมให้กับแตงโม

ต่อมา “ฟ้าบาร์บี้” มิสแกรนด์เชียงใหม่ บอกว่า รู้สึกคิดถูกมากที่มาสมัครครั้งนี้ พอประกาศผล ก็รู้สึกอุ่นใจที่ทั้งหมดเป็นมิสแกรนด์ เพราะจะได้ดูแลกันได้ และเจ้าหน้าที่เองก็มีระบบเซฟตี้ที่ดี จึงไม่มีความรู้สึกกังวลใจและรู้สึกว่าคิดถูกที่มาร่วมทดลองวันนี้ โดยเธอยอมรับว่ารู้สึกว่าคดีนี้มีความไม่ชัดเจนหลายอย่าง จึงอยากมาร่วมพิสูจน์และอยากเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม

ส่วนวินาทีที่เดินลงไปที่ท้ายเรือ ก็แอบกังวลใจนิดหน่อย ระหว่างที่เดินไปก็แอบคิดว่า ถ้าเป็นแตงโมจริงและปวดปัสสาวะจริง แล้วจะต้องเดินไปท้ายเรือจริง มันสามารถเป็นไปได้หรือไม่ ก็เลยคิดสวมบทบาทดูว่า ถ้าเป็นแตงโมจะรู้สึกอย่างไร พอเดินไปที่ท้ายเรือ ก็รู้ว่ามันไม่น่าที่จะเดินไปปัสสาวะได้ เพราะว่ามันมีความโครงเครงของเรือและยิ่งถ้ามีอาการมึนเมา ยิ่งไม่สามารถที่จะเดินไปได้เลย จึงมองว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถกกระโปรงขึ้น แล้วไปปัสสาวะตรงนั้น เพราะมันเสี่ยงที่จะร่วงน้ำไปเลย อีกทั้งตอนนั่งน้ำมันขึ้นมาจนถึงเอวด้วย

“ฟ้าบาร์บี้” ยังบอกอีกว่า ตอนตกน้ำ ก็ยอบรับว่าหวั่นๆ แต่ก็พยายามเป็นแตงโม และตะโกนเรียกแซนให้เหมือนจริงที่สุด ซึ่งวินาทีนั้น ไม่ได้กังวลใจอะไร พอลงไปน้ำ ก็พลิกตัวนิดนึง และก็มีเจ้าหน้าคอยดูแล จึงไม่เจ็บและไม่สำลักน้ำ ส่วนการโดนใบพัดเรือ เป็นไปได้ยากมาก เพราะเรือมันพุ่งไปเลย แถมคลื่นดันตัวออกมาอีก

ส่วนวันนี้ที่ได้สวมชุดแตงโม ครั้งแรกที่ใส่ชุดก็รู้สึกคิดถึงเขา เพราะเขาได้หายไปจากพวกเราเกือบ 3 ปี มันทำให้เรากลับมาเห็นภาพเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาจะรู้สึกอย่างไรที่เขาตกน้ำอย่างโดดเดี่ยว เขาคงรู้สึกเหงา และรอคอยว่าใครจะมาช่วย จึงอยากทำภารกิจในวันนี้ให้มันสำเร็จ ให้ได้รับความกระจ่างที่เขาควรจะได้รับ วันนี้พวกเราได้ทำเพื่อแตงโมแล้ว เชื่อว่าเขาคงรับรู้ได้ว่ายังคงมีคนที่คิดถึงเขาและรักเขา ไม่เคยที่จะลืมเขาเลยสักครั้ง

จากนั้น “เฟ-ริน” ตอบเช่นกันว่า คิดถูกที่มาวันนี้ จึงพยายามเป็นแตงโมให้มากที่สุด ยิ่งตอนบนเรือและไปที่ท้ายเรือ เธอไม่กลัวอะไรเลย มีแต่ความสงสัยว่า “มันจะเป็นไปได้หรอ ผู้หญิงที่เป็นดาราเบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย จะสามารถไปนั่งแหวกกระโปรงให้ผู้ชายคนอื่นดู มันไม่น่าจะเป็นไปได้ และยิ่งถ้าเมา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเรื มันโครงเครง หรือถ้าตกลงไปจริง มันไม่มีทางโดนใบพัดได้“

ส่วนตอนตก ก็รู้สึกว่าถ้าเป็นแตงโมในวันนั้น เธอคงจะตะโกนสุดเสียง จึงสงสัยว่าเพื่อนจะไม่ได้ยินเราเลยหรอ มันแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย

โดยการสวมชุดที่เป็นภาพจำของใครหลายคนในวันนี้ ยิ่งเป็นคดีใหญ่มาก จึงรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มันหดหู่และเศร้าใจ เราจึงพลังกันและเราจะสู้และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแตงโม

ด้านน้องนิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร ซึ่งตกลงน้ำ 2 รอบ น้องนิวหยก เล่าว่าที่ ตกเรือสองรอบ เพราะหนูได้ยินเสียงคนนับ "หนึ่ง สอง ซั่ม" ได้ยินแล้วหนูก็ปล่อยตัวเองร่วงลงไปเลย ตอนแรกเข้าใจว่าเพื่อน (หนูวรรณ) นับ

นิวหยก บอกว่า หนูยืนยันในคลิปได้ หนูได้ยินเสียงคนนับเป็นเสียงผู้หญิง หนูเข้าใจว่าเป็นเสียงของหนูรรณ ก็เลยปล่อยตัวเองลง ปรากฏว่าเรือวนมารับหนูอีกรอบ แล้วบอกว่าขออีกทีนึง

ด้าน บอสณวัฒน์ บอกว่า ตนก็ได้ยินเสียงคนนับเหมือนกัน ตนนึกว่า หนูวรรณเป็นคนพูดอะไรหลุดออกไป เลยส่งสัญญาณให้นิวหยก ตอนนั้นตนได้ยินคำสุดท้ายที่หนูวรรณพูดว่า "เดี๋ยว" ตอนนั้นตนยังรู้สึกว่า เฮ้ยใครนับ เพราะว่าปกติ คนที่จะนับคิวคือ อาจารย์ปานเทพ

ด้าน หนูวรรณ ระบุว่า หนูก็ได้ยินคนนับเหมือนกัน หนูยังคิดเลยว่าพี่นิวหยกเป็นคนนับ ด้าน บอสณวัฒน์ บอกว่าตนคิดว่าทุกคนน่าจะได้ยิน

ด้านนิวหยกบอกว่า หนูเป็นคนที่พยายามฟังมาตลอด อีกฝั่งนึงจะเป็นเสียงเครื่องเรือ หนูก็เลยพยายามตั้งใจฟังว่ามีใครนับอยู่บ้าง แล้วที่หนูได้ยินก็คือ หนึ่ง สอง ซั่ม หนูก็เลยปล่อยตัวเองลง แล้วจากนั้นถึงได้ทราบว่า อ้าว ไม่มีใครนับเลย ทุกคนก็สงสัยเหมือนกันว่าใครเป็นคนนับ หนูก็เข้าใจว่าเป็นหนูวรรณ เพราะว่าบนเรือมีแค่หนูกับหนูวรรณที่เป็นผู้หญิง หนูยืนยันและหนูก็มีคลิปยืนยันด้วย สามารถไปรีเช็คได้เลยในคลิปที่อัดไว้

ด้านบอส ณวัฒน์ บอกว่านาทีนั้นผมไม่อยากจะตำหนิใคร เพราะว่าเหตุการณ์มันเกิดไปแล้ว ในใจคิดว่าเป็นเสียงหนูวรรณ เพราะว่าอาจจะสับสนซึ่งกันและกันก็คุมสถานการณ์ แต่ว่าไอ้เสียงเพิ่งมาคุยกันตอนหลัง หลังจากที่จำลองเสร็จแล้ว ว่าเป็นเสียงอะไรกันแน่ ก็ไปช่วยกันฟัง ซึ่งหนูวรรณก็ยืนยันว่าไม่ได้นับ ก็ยิ่งประหลาดกันใหญ่ สงสัยเป็นจุดที่แตงโมเขาตก เขาบอกให้ลงได้แล้ว ถึงเวลาแล้ว

นิวหยก บอกว่า รอบที่สองหนูก็รอฟังสัญญาณอย่างดี จากอาจารย์ปานเทพและจากบอส จริงๆแล้วหนูหมดความตื่นเต้นตั้งแต่เพื่อนคนที่สองลงไปแล้ว ก็รู้สึกเบาใจ ไม่มีอะไรที่กังวล หนูใช้สัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ เหมือนที่บอสได้บอกว่าลองคิดดู ว่าถ้าเมาแล้วไม่มีสติเดินไปหลังเรือเราจะเป็นคนที่เดินไปในสภาพยังไง หนูก็เลยไม่ใช้สติ เดินแบบคนเมา ตอนที่ลงไปนั่งมันรู้สึกได้ว่ามันเปียก เกือบถึงเอว แล้วคนปกติเค้าจะไปฉี่ท้ายเรือให้เปียกทำไม เราจะเดินให้ตัวเองลำบากทำไม ในเมื่อสติเรายังไม่ดีเลย

ต่อมา “หนูวรรณ” มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา บอกว่า วันนี้เธอร้องไห้ตั้งแต่เช้า และการได้รับบทบาทการจำลองเป็นแซน ก็ยิ่งรู้สึกใจหวิวถ้าเห็นเพื่อนลงน้ำไป ซึ่งเธอเองจำลองเป็นแซน 4 ครั้ง ก็ใจหวิวทุกครั้ง และคิดว่าถ้าเพื่อนร่วงลงไปจริงๆ ยังไงก็เห็นและต้องมีอาการตกใจแน่นอน โดยในครั้งที่ 5 เธอได้จำลองเป็นแตงโม ก็ยังรู้สึกว่าการจะเดินไปปัสสาวะที่ท้ายเรือนั้น เป็นไปไม่ได้ ส่วนเรื่องของการไม่ใส่เสื้อชูชีพในการจำลองนั้น เพราะอยากให้การจำลองสมจริง

ส่วน “ครูลิต้า” ระบุว่า เมื่ออาจารย์ปานเทพประกาศรับสมัคร เพื่อน ๆ ก็ส่งรายละเอียดมาให้ เธอก็เลยตัดสินใจมาเป็นอาสาสมัคร รู้สึกคิดถูกแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะทำไม่ได้เลย ถ้าหากว่าวันนี้ไม่ได้สมัคร เธอก็คงจะเสียใจที่ไม่ได้มาเป็นอาสาและไม่ได้รู้สึกกังวลใจอะไร

ส่วนวันนี้สวมชุดแตงโม ก็นึกถึงเหตุการณ์วันนั้น เพราะเป็นชุดสุดท้ายของชีวิตเขา วันนั้นเขาสวยมาก

อย่างไรก็ตามเหล่าอาสาสมัครอย่างตั้งข้อสังเกตว่า บนเรือยังมีหลักฐานรองเท้าของแตงโมหรือไม่ เพราะถ้าแตงโมตั้งใจเดินสายไปที่ท่าเรือ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ และยิ่งเมาด้วย ช่วงที่แตงโมเดินผ่านไปจนถึงท้ายเรือ ไม่มีใครห้ามหรือเตือนอันตราย ปล่อยให้แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือจริงหรือไม่ รวมไปถึงประมาณว่าการไปนั่งท้ายเรือมันยากมาก และยิ่งเป็นนักแสดง เขาจะไม่รักตัวเองเลยหรอ