Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ผอ.กองกฎหมาย DSI ให้ปากคำปมฟ้อง เอก สายไหมต้องรอด หมิ่นประมาทฯ

ผอ.กองกฎหมาย DSI ให้ปากคำปมฟ้อง เอก สายไหมต้องรอด หมิ่นประมาทฯ

16 ม.ค. 68
16:06 น.
|
69
แชร์

ผอ.กองกฎหมาย DSI เข้าให้ปากคำกรณีเอาผิด เอกภพ สายไหมต้องรอด ฐานหมิ่นประมาทฯ

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ต.ค.67 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า เมื่อประมาณช่วงปี พ.ศ. 2564 ถึง 2565 มีบุคคลซึ่งนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ได้กล่าวใส่ความว่า “เทวดา” ในหน่วยงานของรัฐหลายหน่วย ซึ่งหมายความรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ความคุ้มครองดูแล บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เพื่อมิให้ถูกดำเนินคดี เมื่อบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ได้มีการกระทำความผิดตามกฎหมาย

ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ เห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง และอาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศ จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับในเรื่องดังกล่าว และผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง ปราศจากพยานหลักฐานอ้างอิงทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายโดยตรงได้รับความเสียหายการกระทำของบุคคลดังกล่าวกับพวก อาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมอบหมายให้ ผอ.กองกฎหมาย ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดฐาน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ม.ค. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายอำนวยชัย โฆษิตพานิชยกุล ผอ.กองกฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำต่อ ร.ต.ท.ชัยอนันต์ ไชยบุตร รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง และยื่นเอกสารกรณีได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินคดีอาญากับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้มีการนำเอาภาพข่าวที่ปรากฏตามหน้าสื่อทีวีโทรทัศน์มามอบให้พนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจรอให้ทางดีเอสไอ ทำการถอดเทปการให้สัมภาษณ์ของบุคคลดังกล่าวมาส่งมอบให้พนักงายสอบสวนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ามีใครบ้าง วันนี้จึงถือว่าเป็นการให้ถ้อยคำเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งทางตำรวจจะยังไม่มีการเรียก นายเอกภพ เข้าให้ปากคำแต่อย่างใด

และภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนประมาณ 30 นาที ทางตัวแทนดีเอสไอ ได้เดินทางออกทางประตูด้านหลังสน.ไป และกลับอีกครั้งพร้อมระบุเพียงสั้นๆว่า ตนเองกลับมาส่งหลักฐานเพิ่มให้พนักงานสอบสวน ส่วนในรายละเอียดขอให้ทางโฆษก ดีเอสไอเป็นผู้ให้ในรายละเอียด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าเนื่องด้วยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีอาญากับนายเอกภพ และพวก ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงทำให้ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญให้เจ้าหน้าที่ของดีเอสไอเข้าให้การเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว ตามที่มีการร้องทุกข์ไว้ ส่วนการให้ข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ตามกฏหมายแล้วทางพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้ตั้งคำถามเพื่อพิสูจน์องค์ประกอบของการกระทำความผิด ว่ามีการกระทำความผิดตามที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่ และมีพยานหลักฐานอะไรที่จะมาสนับสนุนคำร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งส่วนใหญ่พนักงานสอบสวนจะมีการตั้งประเด็นคำถามเปิดเพื่อให้ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษได้อธิบายชี้แจง นอกจากนี้ ทางดีเอสไอจะได้มีการเตรียมเอกสารและพยานหลักฐานอื่น อาทิ คลิปวิดีโอ เป็นต้น เพื่อประกอบคำให้การว่าบุคคลดังกล่าวได้มีการพูดจริงหรือไม่ อย่างไร ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานที่ดีเอสไอมอบให้ไปพิสูจน์ความผิดและความบริสุทธิ์ พร้อมยืนยันว่าการร้องทุกข์กล่าวโทษของดีเอสไอ ไม่ได้เป็นการฟ้องปิดปากแต่อย่างใด เนื่องด้วยดีเอสไอ ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกระทั่งพิสูจน์ทราบว่าประเด็นดังกล่าวไม่มีมูลความจริงตามที่มีการกล่าวพาดพิง

รายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุด้วยว่า ในเชิงกฎหมายหากดูองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยหลักแล้วจะตรงกันข้ามกับการติชมโดยสุจริต เพราะการติชมโดยสุจริต คือ การพูดด้วยข้อเท็จจริง หรือข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีหลักฐานรองรับในการพูดนั้น ๆ แต่ถ้าเป็นการพูดที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงหรือข้อมูลที่จะประกอบการพูด และยังเป็นการพูดที่ทำให้เกิดความเสียหาย ก็อาจจะไม่ใช่การติชมโดยสุจริต จึงอาจเข้าองค์ประกอบฐานหมิ่นประมาทได้

Advertisement

แชร์
ผอ.กองกฎหมาย DSI ให้ปากคำปมฟ้อง เอก สายไหมต้องรอด หมิ่นประมาทฯ