Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ร้องกองปราบ โดนมิจฉาชีพปลอมบัตรปชช.ผูกบัตรเครดิต สูญเงิน 7 หมื่น

ร้องกองปราบ โดนมิจฉาชีพปลอมบัตรปชช.ผูกบัตรเครดิต สูญเงิน 7 หมื่น

20 ม.ค. 68
13:19 น.
|
115
แชร์

ผู้เสียหาย ร้องกองปราบ โดนมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ สวมรอยปลอมแปลงบัตรประชาชนผูกบัตรเครดิตออนไลน์ สูญเงินเกือบ 7 หมื่นบาท 

วันที่ 20 ม.ค. 68 นาย รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานเครือข่ายมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมพานาย กิตติณัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พนักงานบริษัทสำรวจน้ำมันแห่งหนึ่ง นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม หลังถูกมิจฉาชีพที่อาศัยอยู่ จ.กระบี่ สวมรอยทำเอกสารบัตรประชาชนปลอม ไปขอออกซิมมือถือใหม่ โทรไปขอเปิดใช้บัตรเครดิตสูญเงินไปเกือบ 70,000 บาท 

โดยนาย กิตติณัฐ เปิดเผยว่า เริ่มแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนพบว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือถูกตัด จึงติดต่อไปยังเครือข่ายมือถือ ทางเครือข่ายก็แจ้งว่าไม่ได้มีการตัดสัญญาณให้ตรวจสอบอีกครั้ง กระทั่งพบว่ามีการใช้จ่ายบัตรเครดิตของตนผ่านทางออนไลน์ 3 ครั้ง ในวันเดียวกัน โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที รวมเป็นจำนวนเงินเกือบ 70,000 บาท ซึ่งบัตรเครดิตตัวนี้เป็นบัตรเสริมที่ไว้ใช้จ่ายออนไลน์เท่านั้น ไม่ได้มีการออกเป็นบัตรจริง โดยมิจฉาชีพใช้จ่ายบัตรดังกล่าวเต็มวงเงิน จึงมีการพยายามเข้าแอปพลิเคชันบัตรเครดิตอีกหนึ่งใบ 

ต่อมาตนติดต่อไปยังเครือข่ายมือถืออีกครั้ง จนทราบว่าหมายเลขโทรศัพท์ของตนมีการแจ้งขอเปลี่ยนซิมเบอร์เดิม ที่สาขาใน จ.กระบี่ ตนจึงได้มีการติดต่อไปยังสาขาดังกล่าว และทราบว่ามีหญิงชายสองคนเดินทางมาแจ้งกับพนักงานสาขาว่าซิมหาย จึงขอเปลี่ยนซิมเบอร์เดิม โดยใช้หลักฐานเป็นภาพถ่ายบัตรประชาชนที่ปลอมแปลง โดยใส่ข้อมูลชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน รวมถึงวันเกิดที่เป็นข้อมูลจริง ส่วนรูปภาพเป็นภาพของมิจฉาชีพ และรายละเอียดอื่นๆ นั้นไม่ตรงกับของตน 

โดยพนักงานอ้างว่าที่อนุมัติให้ซิมใหม่ไปนั้น เนื่องจากพบว่ารูปบัตรประชาชนตรงกับตัวคนที่มาขอเปลี่ยนซิม ทางมิจฉาชีพจึงนำเบอร์ของตนไปเข้าระบบการใช้จ่ายออนไลน์ที่มีการผูกบัตรเครดิตออนไลน์ของตนไว้ โดยใช้เพียงแค่รหัสโอทีพีที่จะถูกส่งยืนยันไปในเบอร์ของตนที่มิจฉาชีพนำไปใช้เท่านั้น ก็สามารถใช้จ่ายได้ ตนจึงทำการอายัดซิมและโทรอายัดบัตรเครดิตทั้งหมด 

ส่วนข้อมูลของตนนั้น ก็ไม่ทราบว่ารั่วไหลได้อย่างไร เพราะตนไม่เคยทำบัตรประชาชน หรือบัตรเครดิตหาย จากนั้นพนักงานสาขาก็ได้มีการมอบภาพกล้องวงจรปิดของหญิงชายดังกล่าวให้กับตน และแจ้งให้ตนไปติดต่อประสานกับสำนักงานใหญ่ของเครือข่ายมือถือ ตนก็ได้รับการประสานจากผู้บริหารของค่ายมือถือดังกล่าวแล้ว 

ก่อนหน้านี้ตนยังได้เข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งพนักงานสอบสวนก็กล่าวอ้างว่า อำนาจการสืบสวนสอบสวนอยู่ที่ จ.กระบี่ และไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ตนจึงมีการติดต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้รับคำแนะนำว่าสามารถแจ้งความได้ทุกพื้นที่ ทาง สน.ทุ่งสองห้องจึงแจ้งว่า รับคดีได้ แต่ไม่สะดวกที่จะรับในวันที่ไปแจ้งความ โดยอ้างว่าติดภารกิจ และนัดให้ตนมาอีกวันก่อนที่จะอ้างอีกครั้งว่าติดภารกิจเช่นเดิม 

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังกล่าวว่า หากตนรู้จักชื่อของคนร้ายจะทำให้คดีดำเนินไปได้รวดเร็วกว่า ตนจึงรู้สึกว่ากระบวนการมันล่าช้า นอกจากนั้นตนก็ยังได้มีการประสานไปยังที่ สภ.กระบี่แล้ว แต่ทางพนักงานสอบสวน สภ.กระบี่ ก็ได้แจ้งให้ตนเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อทำการแจ้งความ ตนจึงเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนช่วยเร่งรัดดำเนินคดีให้ เพราะมองว่าอำนาจการสอบสวนได้ครอบคลุม 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. รับแจ้งสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

แชร์
ร้องกองปราบ โดนมิจฉาชีพปลอมบัตรปชช.ผูกบัตรเครดิต สูญเงิน 7 หมื่น