จากกรณี หนุ่มรัสเซียโหดจับลูกชายโยนออกจากเรือสปีดโบ๊ต จนถูกใบพัดเรือฟันดับสยอง ขณะกลับจากเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
วันที่ 24 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานที่ สภ.คุระบุรี จ.พังงา พ.ต.ท.สมคิด อ่อนจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.คุระบุรี ได้สอบปากคำ Mr.Artem Bugorskiy ซึ่งเป็นบิดา อายุ 45 ปี สัญชาติรัสเซีย ที่ก่อเหตุทำให้ ด.ช.ลูคัส บูกอรสกี้ อายุ 13 ปี ลูกครึ่งสัญชาติไทย อาศัยอยู่ที่ จ.นครพนม ตกจากเรือจนเสียชีวิต ขณะที่เรือนำเที่ยวกลับมาจากเกาะสุรินทร์ เกือบจะถึงหมู่เกาะระ-เกาะพระทอง ประมาณ 200 เมตร ห่างจากฝั่งประมาณ 4 กิโลเมตร
โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทางผู้ต้องหา เพื่อหาสาเหตุแรงจูงใจที่ก่อเหตุ ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ให้การวกวน และบอกพนักงานสอบสวนว่าไม่สามารถให้การได้ เพราะเสียความทรงจำ ส่วนศพเด็กชาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งไปพิสูจน์ที่ศูนย์นิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และได้เบิกตัวผู้ต้องหานำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตะกั่วป่า เมื่อช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา
ด้านอภินันท์ และเยาะ เจ้าหน้าที่สำนักงานใหญ่กู้ภัยคุระบุรีร่วมใจพังงา กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุได้ออกไปรับตัวนักท่องเที่ยวบริเวณท่าเรือ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นเพศชายนอนหมดสติ มีบาดแผลบริเวณต้นแขน และศีรษะ ทางหน่วยกู้ภัยและแพทย์พยาบาลให้ช่วยกันปฐมพยาบาล นำตัวรักษาโรงพยาบาลคุระบุรีชัยพัฒน์
โดยมีคนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า พ่อลูกได้มีปากเสียงกัน และได้จับลูกไปโยนที่หัวเรือและผู้เป็นพ่อชาวต่างชาติได้กระโดดน้ำตามลงไป ทางกัปตันเรือและเจ้าหน้าที่ได้จอดเรือ และลงไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า พ่อลูกคู่นี้ได้จองที่พักและลงเรือไปพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งแต่เดือน พ.ย. และก่อนเกิดเหตุ พ่อลูกได้เก็บข้าวของที่พาไปนอนพักบริเวณอุทยานฯ กลับขึ้นมาทั้งหมด และได้ใช้บริการเรือลำดังกล่าวกลับขึ้นฝั่งคาดว่า สาเหตุน่าจะเป็นปัญหาเรื่องครอบครัวที่พ่อได้แยกทางกับภรรยาคนไทยที่เป็นแม่ของเด็กชายที่เสียชีวิต และหลังจากกลับขึ้นฝั่ง ทางลูกชายจะกลับไปอยู่กับแม่จึงทำให้เกิดเป็นแรงจูงใจให้ Mr.ArtemBugorskiy ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อหวังจะจบชีวิตทั้งคู่
Advertisement