คณะผู้แทนจากสหรัฐอเมริกาและยูเครน จัดการเจรจาในซาอุดีอาระเบียเมื่อวานนี้ (23 มีนาคม 68) อันเป็นส่วนหนึ่งของการทำหน้าที่ตัวกลางไกล่เกลี่ยของรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
รุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของยูเครนในการประชุมที่กรุงริยาด เปิดเผยว่า การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และเสร็จสิ้นลงเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวในแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ว่า ทีมยูเครนทำงานอย่างสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ บทสนทนาเป็นไปอย่างเป็นประโยชน์ และการทำงานของคณะผู้แทนยังคงดำเนินต่อไป แต่ไม่ว่ายูเครนจะคุยอะไรกับสหรัฐฯ สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ออกคำสั่งที่จริงจังเพื่อยุติการโจมตี และระบุว่า ใครที่เป็นคนสร้างสงครามก็ต้องยุติมัน
ก่อนเริ่มการเจรจา อูเมรอฟกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายกำลังหารือเกี่ยวกับการปกป้องแหล่งพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญจากการโจมตี อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของข้อตกลงหยุดยิงบางส่วนยังคงเป็นประเด็นถกเถียง เนื่องจากรัสเซียและยูเครนมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเงื่อนไขของข้อตกลง
ด้านสตีฟ วิทคอฟ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ กล่าวกับ Fox News ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เขามองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการเจรจาครั้งนี้ และเชื่อว่าปูตินต้องการสันติภาพ โดยกล่าวว่า เขาไม่คิดว่าปูตินต้องการยึดครองยุโรปทั้งหมด ขณะที่ในวันนี้ คณะผู้แทนจากรัสเซียและสหรัฐอเมริกามีกำหนดพบกันที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบียเช่นกัน แต่ไม่มียูเครนร่วมด้วย
การเจรจามีขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนที่ยังคงถูกโจมตีอย่างหนัก โดยเมื่อคืนก่อนหน้านั้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนจากการโจมตีทางอากาศด้วยโดรนของรัสเซียในยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกี เรียกร้องให้พันธมิตรตะวันตกกดดันรัสเซียให้หยุดการโจมตีก่อนการเจรจาสันติภาพ
โดยในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน การโจมตีด้วยโดรทำให้ประชาชน 3 คน รวมถึงเด็กอายุ 5 ขวบเสียชีวิต และทำให้มีผู้บาดเจ็บ 10 คน
นอกจากนี้ ในแคว้นโดเนตสก์ วาดิม ฟิลาชกิน ผู้ว่าการแคว้น เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 4 รายจากการโจมตีของรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า รัสเซียได้ส่งโดรนโจมตีถึง 147 ลำในช่วงกลางคืน พุ่งเป้าไปยังหลายภูมิภาคของยูเครน แต่กองทัพอากาศของยูเครนสามารถสกัดกั้นโดรนได้ 97 ลำ ขณะที่อีก 25 ลำไม่สามารถเดินทางไปถึงเป้าหมายได้
เซเลนสกีโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า การโจมตีเช่นเดียวกับในกรุงเคียฟเกิดขึ้นแทบทุกวันในยูเครน เฉพาะในสัปดาห์นี้ มีการใช้ระเบิดนำวิถีทางอากาศมากกว่า 1,580 ลูก โดรนโจมตีเกือบ 1,100 ลำ และขีปนาวุธอีก 15 ลูกโจมตีประชาชนของยูเครน ดังนั้นเขามองว่า จำเป็นต้องมีมาตรการใหม่ และต้องเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียให้หยุดการโจมตีและยุติสงคราม
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงว่า กองกำลังรัสเซียสามารถ “ทำลายและสกัดกั้น” โดรนของยูเครนได้ 59 ลำในคืนก่อน