ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนส่งอาวุธให้กับรัสเซียเพื่อใช้ในการสู้รบกับยูเครน โดยระบุว่า วันนี้ ได้ยูเครนรับข้อมูลทั่วไปจากหน่วยงานความมั่นคงของประเทศเกี่ยวกับอาวุธ ยูเครนเชื่อว่าจีนมีส่วนร่วมในการผลิตอาวุธสงครามในรัสเซีย และยูเครนเตรียมจะเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดในสัปดาห์หน้า
แถลงการณ์ของเซเลนสกีถือเป็นการยืนยันครั้งแรกของรัฐบาลยูเครนว่า จีนสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามด้วยการจัดหาอาวุธ
จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย ในช่วงสามปีของการทำสงครามยูเครน แต่ขณะเดียวกัน จีนก็พยายามวางภาพลักษณ์ให้เป็นกลาง และปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับสงคราม
เซเลนสกีเปิดเผยว่า ยูเครนได้ข้อมูลว่าจีนกำลังสนับสนุนอาวุธให้รัสเซีย โดยอ้างถึง “ปืนใหญ่” แต่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมว่าหมายถึงระบบปืนใหญ่ กระสุนปืนใหญ่ หรือว่าทั้งสองอย่าง อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีย้ำว่า ยูเครนเชื่อว่ามีผู้แทนจากจีนที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตอาวุธจำนวนหนึ่งในดินแดนของรัสเซีย
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้จากรัฐบาลจีน และรอยเตอร์สก็ยังไม่สามารถขอความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่จีนได้ เนื่องจากช่วงเวลาที่เซเลนสกีออกแถลงการณ์นั้น ตรงกับช่วงกลางดึกในจีน
แต่ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนชี้แจงว่า จีนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิกฤตยูเครน และจีนก็ไม่ได้เป็นฝ่ายที่เข้าร่วมวิกฤตนี้ด้วย จีนยังคงเป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริมการแก้วิกฤตนี้ด้วยสันติ
รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งและรัฐมนตรีเศรษฐกิจของยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนและสหรัฐฯ ลงนามในบันทึกข้อตกลง ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการมุ่งหน้าสู๋ข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาแร่ธาตุในยูเครน
ขณะที่ทรัมป์ระบุว่า ข้อตกลงแร่ธาตุดังกล่าวน่าจะลงนามได้วันพฤหัสบดีหน้า
ทั้งนี้ รัฐบาลยูเครนและสหรัฐฯ ได้หารือเรื่องการลงนามข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาแหล่งแร่ธาตุในยูเครน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่กลับเกิดการปะทะคารมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รองประธานาธิบดีเจ ดี แวนซ์ และประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนที่ทำเนียบขาว
ทรัมป์ต้องการข้อตกลงดังกล่าว เพื่อให้สหรัฐฯ ได้ประโยชน์จากเหมืองแร่ต่างๆ ในยูเครน รวมถึงแร่หายาก ซึ่งทรัมป์มองว่า เป็นค่าตอบแทนที่รัฐบาลชุดก่อน ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่งความช่วยเหลือจำนวนมากให้แก่ยูเครน
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอเมริกาที่มาเยือนกรุงปารีส เพื่อหารือเกี่ยวกับหนทางยุติสงครามในยูเครน ขณะที่พันธมิตรของรัฐบาลยูเครนในยุโรปพยายามเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการเจรจา ซึ่งหยุดชะงัก ท่ามกลางความตึงเครียดกับกรุงวอชิงตัน
หลังการพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ และทูตพิเศษของสหรัฐฯ สตีฟ วิตคอฟ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มาครงกล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการหาจุดร่วมกัน เพราะทุกฝ่ายล้วนต้องการสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืน
รัฐบาลของทรัมป์ ผลักดันความพยายามในการยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยทรัมป์เองได้จัดการประชุมแบบทวิภาคีกับทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของทรัมป์ยังไม่ประสบผลสำเร็จ และเขาได้แสดงความไม่พอใจต่อทั้งมอสโกและเคียฟ
เมื่อเดือนที่แล้ว ยูเครนตอบรับข้อเสนอของทรัมป์เกี่ยวกับการหยุดยิง แต่รัสเซียปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเพียงในเรื่องการจำกัดการโจมตีเป้าหมายด้านพลังงานและการโจมตีทางทะเล ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ยังกล่าวหากันและกันว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง