เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 ม.ค. 68 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก อดีตกำนันชื่อดังในจ.นครปฐม ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมายัง ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.3694/2566 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประวีณ เป็นจำเลยในความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288"
คดีนี้ อัยการโจทก์ ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 เวลากลางคืนจำเลย ได้ใช้จ้างวานให้นาย ธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา คนสนิท (เสียชีวิต)ใช้อาวุธปืน ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ หรือ สารวัตรศิว สว.กก.2 บก.ทล. ในงานเลี้ยงวันเกิดภายในบ้านพักของจำเลยที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตเวลาต่อมา และกระสุนยังถูก พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำเลยให้การปฏิเสธ สู้คดี
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า พยานเบิกความสอดคล้องต้องกันทุกปาก ว่าในวันเกิดเหตุ กำนันนก ขอให้มีการย้ายญาติ ซึ่งเป็นตำรวจยศจากสายตรวจรถยนต์มาเป็นสายตรวจรถจักรยานยนต์ แต่ผู้ตายปฏิเสธ และขอให้รอในช่วงเดือน ต.ค. เพราะจะมีคนเกษียณอายุราชการทำให้ กำนันนกไม่พอใจ สารวัตรแบงค์ จึงมีการท้าทายกับ กำนันนัก เพื่อดวลเหล้าเพียว โดย สารวัตรแบงค์ สั่งลูกน้องให้ไปหากุญแจมือ เพื่อจะมาคล้องแขนกับ กำนันนก แต่หาไม่เจอจึงใช้ผ้าที่เก้าอี้มาผูกแขนแทน กระทั่ง กำนันนกดื่มสู้ไม่ได้ แล้วรู้สึกเสียหน้า จึงตบโต๊ะลุกออกจากโต๊ะวีไอพีไปที่โต๊ะยาวด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
จากนั้นนายตำรวจ ซึ่งเป็นญาติและ สารวัตรแบงค์ ได้เดินเดินตามไปขอโทษ แต่ กำนันนกได้ไล่กลับบ้าน และพูดว่า "เดี๋ยวเลือดเปื้อนหน้า"
ทั้งนี้ กำนันนกได้มีการถามหาอาวุธปืน และพูดว่าอย่างนี้เอาไว้ไม่ได้ ทำให้นายธนัญชัย หรือ หน่อง ท่าผา ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิท เดินมาสอบถามว่าคนไหน จากนั้นนายหน่อง ท่าผา ได้เดินไปโต๊ะวีไอพี เพื่อจะดูว่าคนไหน และกลับมาถาม กำนันนกว่าเอาเลยมั้ย และเดินกลับไปที่โต๊ะในตำแหน่งที่ สารวัตรแบงค์นั่งอยู่ และตะโกนเรียก กำนันนกว่า "ลูกพี่" กำนันนกส่งสัญญาณ โดยการพยักหน้า จากนั้นนายหน่อง ท่าผาจึงได้ใช้อาวุธปืนยิง สารวัตรแบงค์ 7 นัด จนถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ศาลพิพากษาว่า กำนันนกเป็นผู้ใช้ให้ฆ่าผู้อื่นกระทำความผิดตามฟ้อง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานฆ่าอื่น ซึ่งเป็นบทที่หนักที่สุด แต่ในระหว่างพิจารณาคดี จำเลยได้เยียวยาโจทย์ร่วมทั้ง 5 คน จน ถอนคำร้อง มีเหตุ บรรเทาโทษ คงเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต และให้นับโทษ ต่อจากคดีหมายเลขดำที่ อท. 206/2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสินจำคุกไปแล้วก่อนหน้านี้
สำหรับบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี มีพ่อ แม่ และภรรยา รวมทนายความ มาร่วมฟังคำพิพากษา ภายหลังศาลมีคำพิพากษา แม่ของกำนันนกได้เข้าไปสวมกอด ให้กำลังใจ โดยแม่กำนันนกและภรรยาร้องไห้ ปลอบใจซึ่งกันและกัน
Advertisement