นายอธิริศร์ เตชะสินนิวัฒน์ ในฐานะตัวแทนทีมงานกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ตนนำหลักฐาน ซึ่งเป็นคลิปเสียงสนทนาระหว่างครอบครัวของผู้ต้องหาและนายตำรวจสังกัด สภ. คลองหลวง ยศร้อยตำรวจโท เจรจาหาทางออก ช่วยเหลือทางด้านคดี มีการกล่าวหานักข่าว และกัน จอมพลัง ว่าพยายามทำให้เรื่องนี้เป็นกระแสเป็นที่พูดถึงในสังคม ทั้งที่ความจริงไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้น
สำหรับคลิปเสียงวันนี้มีทั้งหมด 2 ไฟล์ คลิปที่ 1 เป็นคลิปเสียงของ ร้อยตำรวจเอก สภ.คลองหลวง พูดคุยกับผู้ปกครองของ หนึ่งในแก๊งโอริโอ้ ให้คำแนะนำในเรื่องของคดีว่าผู้เสียหาย อาการสาหัส ยังไงต้องยอมรับ แต่จะแนบบันทึกข้อตกลงที่จ่ายเงินไปในสำนวน ส่วนเรื่องของอาวุธปืน ตำรวจได้แนะนำว่า พูดไปเลยว่าไม่มีให้พูดว่าโดนกล่าวหามา ซึ่งได้ทำบันทึกข้อตกลงกันแล้วว่าผู้เสียหายรับเงินแล้วจะไม่เอาความส่วนในเรื่องของคดีให้ว่ากันไปตามคดีอยู่แล้ว
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทางผู้ปกครองของของหนึ่งในแก๊งโอริโอ้ มีความกังวลว่าจะถูกฝากขัง จึงขอให้ตำรวจนายดังกล่าวรีบมาพูดคุยกับผู้ใหญ่ที่ สภ. คลองหลวง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว มองว่าข่าวที่ออกไปเกินกว่าเหตุ และทำให้ผู้อื่นเสียหาย เนื่องจากผู้กำกับ หนุ่ม กรรชัย ด่าว่าเอาปืนจ่อหัว สามารถยอมความได้เหรอ ข้อมูลหลักฐานก็ไม่มี เอาคำกล่าวหามาพูดกันลอยๆ ซึ่งเรื่องของการเอาปืนจ่อหัว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำว่าเป็นเพียงแค่การบันทึกข้อตกลงและตำรวจนายดังกล่าว ยังบอกว่าผมสามารถยืนยันได้ว่าเรามีการนัดไกล่เกลี่ยกัน
ส่วนคลิปที่ 2 เป็นคลิปเสียงของตำรวจคลองหลวง ยศร้อยตำรวจโท มีการโทรไปพูดคุยกับผู้ปกครองของนายวิน ผู้ต้องหา หนึ่งในแก๊งโอริโอ้ โดยการสนทนาครั้งนี้ ร้อยตำรวจโทมีการแจ้งคืบหน้าทางคดีให้ผู้ปกครองของนายวินทราบว่า นายวิน ยังมีอีกคดีหนึ่งที่ไปกระทืบประตูเขาที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านรังสิต
ตอนนี้กำลังทำเรื่องแจ้งข้อกล่าว ข้อหา “ทำร้ายร่างกาย ”กับ “พกพาอาวุธมีด” และ “ร่วมกันบุกรุกตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทำการโดยมีอาวุธ แล้วไปทำให้เสียทรัพย์” ซึ่งหากร้อยเวรเจ้าของคดี จะแจ้งข้อกล่าวหานี้เมื่อใด จะให้ร้อยเวรติดต่อกลับไปอีกครั้ง
ด้าน พันตำรวจเอก เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับคลิปเสียงมาเมื่อวานนี้ ก็ได้มีการคณะตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาในทันที ซึ่งพบว่ามีนายตำรวจ 2 คน ยศร้อยตำรวจเอก (ผู้กอง) และร้อยตำรวจโท (ผู้หมวด) สังกัด สภ.คลองหลวง ซึ่งตนได้มีการเรียกทั้งสองคนมาสอบถามในเบื้องต้นแล้ว
โดยทั้งหมดทั้งสองนายอ้างว่ารู้จักกับผู้ปกครองของสมาชิกแก๊งโอริโอ้ จึงได้ให้คำแนะนำไปเท่านั้น และไม่ได้มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งทันทีที่ตนรู้ก็รู้สึกเสียใจอย่างมากที่ผู้ใต้บังคับบัญชาไปทำแบบนั้น เพราะพฤติกรรมดังกล่าวตนถือว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากตำรวจที่ให้คำแนะนำอยู่ในพื้นที่ที่เกิดคดีความ แต่ก็ไม่อยากตัดสินขอให้เป็นความเห็นของคณะกรรมการฯ ทั้งเรื่องวินัยและอาญา
ส่วนกรณีที่มีสายปริศนาโทรมาหาพนักงานสอบสวนในคดีนี้ พร้อมกับอ้างว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยตำรวจกับตน ตนได้มีการสอบถามพนักงานสอบสวนแล้ว ก็บอกว่า สายปริศนาอยากให้ช่วยดูแลคดีนี้ แต่ตนก็ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของตนจริงหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้ใต้บังคับบัญชาพยายามจะดิสเครดิตตน ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่การทำงานอาจจะมีการเข้าใจผิดกันภายในองค์กร ตนไม่รู้เจตนาว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะดิสเครดิตตนจริงหรือไม่ แต่ตนไม่มีความกังวลกับเรื่องนี้ และต่อให้สมาชิกแก๊งโอริโอ้จะวิ่งเต้นกับนายตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่ให้ช่วยเหลือคดีตามที่เป็นกระแสข่าวจริง ตนก็จะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
Advertisement